ตอนที่ 1

1122 Words
เธอกลายเป็นวัตถุบำเรอใคร่ให้เขา เขาฉีกหัวใจของเธอออกเป็นล้านชิ้น หากเมื่อทุกอย่างถูกทำลายจนหมดสิ้น คนที่พ่ายแพ้และเจ็บปวดที่สุดกลับไม่ใช่เธอดาราวดี เบนฟอร์ด สาวสวยวัยเพียงสิบแปดเป็นบุคคลซึ่งเข้าถึงได้ยากเพราะเธอคือลูกบุญธรรมของ เฟอร์นันโด เบนฟอร์ด เจ้าพ่อค้าหุ้นและนักลงทุนระดับโลก หากแต่เขาก็สามารถเข้าถึงตัวเธอได้ด้วยการสวมบทบาทบอดี้การ์ดและหลอกล่อพาตัวเธอไปยังที่พำนักของเขาบนเกาะครีตเพื่อให้เธอได้เห็นเลือดเนื้อที่แท้จริงของเขา โธมัส เอเฟซัส มหาเศรษฐีหนุ่มระดับโลกที่มีภูมิหลังดำมืดและเชื่อมโยงกับเฟอร์นันโด เบนฟอร์ด ณ ชั้นที่ 50 ตึกไดมอนด์ เฟอร์รี่ เคาน์ตี้ควีนส์ นิวยอร์คซิตี้             ร่างแน่งน้อยในชุดเทรนช์โค้ตจับพลีตเนื้อบางเบานั่งพลิกดูนิตยสารในมือไปมาขณะดวงตาสีน้ำตาลอ่อนราวเพชรสุกสกาวทอดมองออกไปนอกผนังกระจกซึ่งเห็นภาพตึกสูงในมุมมองราวกับพญานกอิทรีของเขตเมืองฟ้าอมรของเขตเคาน์ตี้ควีนส์ กรุงนิวยอร์ค ดวงตาคู่งามหรุบต่ำลงไปยังหน้านิตยสารอีกครั้ง ดวงหน้าแสนหวานใต้กรอบเรือนผมเป็นลอนเล็ก ๆ สีบรูเน็ตเปล่งประกายยามต้องแสงแดด เครื่องหน้าแสนงามราวกับเทพธิดากอรปด้วยดวงตาสว่างใส จมูกโด่งเล็กรั้นและริมฝีปากบางเป็นรูปกระจับถูกแต่งแต้มด้วยเมคอัพสีพาสเทลบางเบา สักครู่ดวงตาคู่นั้นก็ละความสนใจจากหน้านิตยสารเมื่อบานประตูขนาดใหญ่ถูกผลักออกพร้อมใครคนหนึ่งก้าวเข้ามา             “เป็นไงลูก รอพ่อนานมั้ย?”             เสียงของชายวัยกลางคนที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวซึ่งนั่งอยู่ที่ชุดรับแขกภายในห้องทำงานสีเบจกว้างขวางวางหนังสือในมือลงก่อนลุกขึ้นยืนและส่งรอยยิ้มให้             “ไม่นานค่ะ...หนูพึ่งมาถึง”             “เยี่ยมมาก...วันนี้พ่อมีอะไรจะบอกลูกน่ะ ยูบีอา”             นั่นเป็นชื่อที่เฟอร์นันโด เบนฟอร์ดขานเรียกบุตรสาวบุญธรรมเพียงคนเดียวที่เขาชุบเลี้ยงเธอมาตลอดระยะเวลาสิบแปดปีจวบจนกระทั่งดาราวดีเติบโตเป็นสาวสวยราวดอกไม้ฉายประกายงดงามท่ามกลางสวนแห่งอีเดน ชายร่างสูงใหญ่แต่ใบหน้าเกลี้ยงเกลาดูหนุ่มกว่าอายุที่แท้จริงซึ่งย่างเข้าวัยกลางคนเดินเข้ามากอดบุตรสาวของเขาและประทับจุมพิตบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า           “ลูกแน่ใจแล้วนะ ที่บอกพ่อว่าลูกจะไม่ไปเรียนต่อที่ประเทศกรีซ”             “ค่ะ...คือ...หนูยังไม่แน่ใจและคิดว่าจะใช้เวลาตัดสินใจสักพัก”             “ก็โอเค...พรุ่งนี้พ่อจะเดินทางไปโมนาโก ต้องไปเจรจาเรื่องธุรกิจที่นั่น และอาจต้องอยู่โมนาโกเป็นเดือน เพราะฉะนั้นพ่อจึงต้องหาใครสักคนมาคอยดูแลลูกตอนที่พ่อไม่อยู่”             “คุณพ่อก็ให้บอดี้การ์ดมาคอยดูแลหนูอยู่แล้วนี่คะ”             “ไม่ๆ...พ่อต้องการคนที่มีฝีมือและดูแลลูกได้ในทุกสถานการณ์ ลูกก็รู้ว่าพ่อมีธุรกิจมากมาย มันทำให้พ่อไม่แน่ใจว่าจะมีใครคิดร้ายกับครอบครัวเราหรือเปล่า และลูกคือเป้าหมายสำคัญหากคนพวกนั้นเกิดทำอะไรที่ไม่ประสงค์ดีขึ้นมา พ่อก็เลยหาบอดี้การ์ดคนใหม่มาคอยดูแลลูกในช่วงเวลาที่พ่อไม่อยู่ เขาคือโธมัส”             เฟอร์นันโดผายมือไปยังประตู ดาราวดีเลื่อนสายตาไปยังร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสุดเนี้ยบที่ก้าวเข้ามา หญิงสาวชะงักไปชั่วขณะเมื่อเห็นใบหน้าคร้ามเข้มหล่อเหลาของผู้พิทักษ์คนใหม่ที่บิดาแนะนำให้รู้จัก เขาเป็นผู้ชายตัวโตมาก ผิวสีแทนจัด เค้าโครงหน้าดูไม่เหมือนชายชาวอเมริกันเพราะแม้จะหล่อจับจิตแต่ดูดุดันกว่า นัยน์ตาเป็นประกายสีน้ำตาลอมเทาเข้ม จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากหยักหนาได้รูปราบเรียบปราศจากรอยยิ้ม เขายืนในท่าทีเคร่งขรึม อกผายไหล่ผึ่งและประสานมือทั้งสองไว้ด้านหน้า อายุของบอดี้การ์ดคนใหม่น่าจะอยู่ราว ๆ สามสิบต้น ๆ หากทว่าทุกท่วงท่าของเขาสั่นไหวจิตประสาทบางส่วนของเด็กสาววัยสิบแปดให้สั่นสะเทือนราวกับมีรอยกระเพื่อมของน้ำยามหินพลัดหล่น             “โธมัส...นี่คือดาราวดี หรือจะเรียกเธอว่ายูบีอาก็ได้ เธอเป็นลูกสาวของผมและคุณมีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้ยูบีอาตลอดเวลาที่ผมไม่อยู่สหรัฐเกือบเดือน”             “ครับท่าน”             เขารับปากด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น ท่าทีสำรวมและสุขุมลุ่มลึกนั้นทำให้ดาราวดีเผลอมองเขานิ่งนาน รู้สึกถึงแรงเต้นของหัวใจผิดจังหวะ เธอรู้สึกว่าโธมัสแตกต่างจากบอดี้การ์ดคนอื่นที่เฟอร์นันโดส่งมาคอยดูแลเธอ             “โธมัสได้รับการคัดเลือกจากพ่อเอง เขายิงปืนแม่นชนิดหาตัวจับยากและเป็นนักต่อสู้ฝีมือฉกาจ ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นงานแรกของเขา แต่พ่อก็รู้สึกไว้วางใจและอยากให้เขามารับหน้าที่ของคนที่คอยดูแลลูก”             เฟอร์นันโดกำลังจะพูดต่อเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชายวัยกลางคนไม่รีรอที่จะรับสายสมาร์ทโฟนของเขาในทันที เขาฟังเสียงจากอีกฝั่งชั่วครู่ก่อนกดวางสาย             “พ่อคงต้องเดินทางคืนนี้ ที่ให้ลูกมาที่นี่ก็เพราะพ่ออยากจะพาลูกไปเลี้ยงอาหารมื้อเย็นก่อนเดินทางไปโมนาโก”             “ค่ะ...คุณพ่อ”             “ถ้ายังไงเย็นนี้จะให้โธมัสพาลูกไปที่ภัตตาคาร...แล้วค่อยพบกันตอนดินเนอร์”             “ค่ะ”             ดาราวดีก้มหน้าขณะเฟอร์นันโดจูบบนเรือนผมเป็นคลื่นเล็ก ๆ สีน้ำตาลเข้มอย่างทะนุถนอมก่อนก้าวออกไปจากห้องนั้น ถึงแม้เธอจะเป็นลูกบุญธรรมของเขาแต่ชายผู้นี้คือแสงสว่างในชีวิตของเธอเสมอ เขารักเธอเหมือนลูกแท้ ๆ และทุกการแสดงออกก็ทำให้หญิงสาวไว้วางใจโดยปราศจากความเคลือบแคลงในรักที่บิดามอบให้ และภาพความห่วงใยระหว่างสองพ่อลูกก็อยู่ในสายตาของผู้พิทักษ์คนใหม่ซึ่งจ้องมองแน่วนิ่ง ประกายบางอย่างวาบขึ้นมาในดวงตาสีน้ำตาลเทาเข้มชั่วครู่ก่อนมันจะจมลึกและหายไปเหลือไว้เพียงความเยือกเย็นและสงบเงียบยิ่งกว่ามหาสมุทรไร้คลื่น           “ไม่ทราบว่าคุณยูบีอาอยากจะออกไปไหนหรือเปล่าครับ?”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD