บทที่2สถานที่แปลกตา

1145 Words
หลังจากที่เปียโนกลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว เธอก็มุ่งหน้าเดินทางมาที่โรงพยาบาลที่พ่อของเธอรักษาตัวจากอุบัติเหตุ "พ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ" "มาแล้วเหรอลูก" เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาถามลูกสาว ในสายตาของนิลภพเปียโนยังเป็นเพียงเด็กน้อยสำหรับเขาเสมอ รอยยิ้มของเปียโนฉีกขึ้นกว้างเธอสาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ เตียงผู้ป่วย นิลภพไม่ได้นอนพักที่ห้องพิเศษแต่อย่างใดเพราะตอนนี้ตัวเขาไม่ได้มีเงินเหมือนเมื่อก่อนการรักษาตัวทำได้เพียงนอนพักที่ห้องผู้ป่วยรวมเท่านั้น "หนูรีบกลับมากลัวพ่อจะเหงา" "เหงาที่ไหนล่ะ ดูสิข้าง ๆ ก็มีแต่เพื่อน" ชายวัยเกือบหกสิบพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม แม้ว่าตามร่างกายจะมีแต่รอยฟกช้ำก็ตามที "แล้วคุณหมอบอกหรือเปล่าคะว่าจะให้พ่อกลับบ้านวันไหน" "พ่อก็ไม่รู้แต่เห็นว่าพ่อต้อง x-ray อีกรอบ" " x-ray ??" คำพูดของพ่อทำเอาเปียโนชะงักเล็กน้อย เธอรู้ได้เลยว่าต้อง x-ray ส่วนไหนทว่าตอนนี้เธอยังไม่มีแม้เงินที่ต้องเตรียมผ่าตัด "พ่อค่ะ เดี๋ยวหนูมานะ" เปียโนสาวเท้าออกจากเตียงผู้ป่วยมุ่งหน้าออกไปที่แผนกอายุรกรรมระบบประสาทและสมองเธออยากจะขอคุยกับคุณหมอเรื่องการผ่าตัดหากจะผ่าตัดตอนนี้เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น ใบหน้าสวยคมดวงตากลมโตเหมือนจะหวั่นวิตกมากมาย สองมือเรียวงามบีบกันแน่น "ขอโทษนะคะ คุณพยาบาลหนูอยากพบคุณหมอค่ะ คือ...หนูเป็นลูกสาวนาย นิลภพ ค่ะ" "สักครู่นะคะ" เปียโนเธอยืนรอสักพัก คุณหมอเจ้าของไข้ก็เดินมาพบ ใบหน้าคุณหมอใหญ่วัยสี่สิบต้น ๆ ยิ้มเล็กน้อยจ้องมองใบหน้าเด็กสาวด้วยความเอ็นดู "สวัสดีค่ะคุณหมอ คือหนูอยากจะขอเวลาเลื่อนการผ่าตัดออกไปสักนิดได้ไหนคะ ตอนนี้หนูยังไม่พร้อมเรื่องค่ารักษา" "ได้ครับ แต่หมอก็ไม่อยากให้ปล่อยไว้นานเกรงว่ามันจะมีผลกระทบหลายด้าน หากเลื่อนก็อย่าให้มากกว่าหนึ่งเดือนนะครับ เพราะตอนนี้มันก็ไม่ได้ใหญ่มากหากปล่อยไว้นานมันจะโตมากกว่านี้อาจจะทำให้การผ่าตัดยากขึ้น" "ค่ะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ" หลังจากไปพบคุณหมอเจ้าของไข้มาแล้ว เปียโนเธอกลับมาที่เตียงผู้ป่วยอีกครั้งแม้ว่าภายในหัวจะแอบกังวลมากมายทว่าต่อหน้าพ่อแล้วเธอจำเป็นต้องฝืนยิ้มร่าออกมา "ไปไหนมาลูก" "อ้อ คือหนูแวะไปถามอาการพ่อเท่านั้นค่ะ อีกสองวันก็กลับบ้านได้แล้วนะ" "ดีเหมือนกัน พ่อเองก็เบื่อโรงพยาบาลเต็มทีแล้วเอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ อันที่จริงพ่อก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่รอยฟกช้ำตามร่างกายเท่านั้น" นิลภพพูดพร้อมรอยยิ้มส่งให้ลูกสาว เปียโนเองก็ยิ้มรับแต่ภายในใจเธอแอบกังวลมากมายอยากจะให้พ่อได้ผ่าตัดเร็ววัน เวลาผ่านไปสักพักใหญ่นิลภพก็สั่งให้ลูกสาวกลับมาห้องพักไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเฝ้าให้ลำบากเพราะตัวเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก และยังพอช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนเปียโนเธอเดินทางกลับมาที่ห้องพักที่อาศัยอยู่กับพ่อ ใบหน้าของเธอดูจะเหนื่อยล้าเล็กน้อยตึกสูงตระหง่านนี้เป็นอพาร์ตเมนต์ระดับกลางภายในห้องไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์มากมายอะไร มีแค่ทีวีและของใช้จำเป็นที่วางอยู่ในห้องโถงและยังมีห้องนอนส่วนตัวแยกออกไปอีกห้อง นิลภพเลือกที่จะเช่าห้องแบบนี้เพราะคิดเห็นใจลูกสาว อย่างน้อย ๆ น่าจะมีห้องที่แยกออกเป็นส่วนตัว ส่วนราคานั้นสี่พันกว่าบาท ถือว่าแพงสำหรับเขาในตอนนี้ หากถามว่าทำไมถึงมีค่าเช่าได้จ่ายทุกเดือนเพราะเขาขายสมบัติที่เป็นของภรรยาที่ควรเก็บไว้ให้ลูกแต่เพราะความจำเป็นเลยต้องกัดฟันสละพื้นที่ต่างจังหวัดทิ้ง "สำลี ฉันกลับมาแล้ว" เปียโนมุ่งหน้าไปอุ้มแมวตัวสีขาวสะอาด หน้าตาของมันน่ารักแสนรู้ เปียโนรับแมวตัวนี้มาเลี้ยงได้สองปีเพราะเห็นว่ามันน่าสงสารนอนขดตัวหนาวสั่นอยู่หน้าเซเว่นแถวบ้านจนตอนนี้แม้ว่าเธอจะไม่มีอะไรเหลือก็ยังอุตส่าห์หอบมันมาอยู่ห้องเช่าด้วย หลังจากที่เปียโนอุ้มแมวตัวนั้นก็วางมันลงจัดการเทอาหารให้กินเรียบร้อยก่อนที่เธอจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปทำงานพาร์ตไทม์ร้านกาแฟแถวห้างเป็นรายได้เสริมที่ช่วยให้เธอได้มีเงินไปเรียนหนังสือ ใบหน้าเรียวสง่างามสวมเสื้อผ้ารัดกุมดูเรียบร้อยก่อนที่เธอจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์ในซอยให้ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อทำหน้าที่พนักงาน ไม่กี่อึดใจที่วินมอเตอร์ไซค์ก็ขับมาส่ง เปียโนรีบล้วงเงินในกระเป๋าให้จากนั้นก็เหมือนจะเร่งรีบเธอทั้งกึ่งเดินกึ่งวิ่งเมื่อมาถึงร้านก็รีบคว้าผ้ากันเปื้อนมาสวมใส่จังหวะนั้นเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น ครืด ครืด เปียโนรีบเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วกดรับสายเพื่อนของเธอ "ว่าอย่างไรแมงเม่า?" "เปียโนฉันโทรถามผู้จัดการให้แล้วนะ วันนี้ว่างหรือเปล่าพี่เขาอยากเจอ" "วันนี้เลยเหรอ คือตอนนี้ฉันมาอยู่ที่ร้านแล้วน่ะสิ" "ก็ลาสักวันซิ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยนะหากแกอยากได้ค่าผ่าตัดพ่อฉันว่างานนี่มันน่าจะหาเงินได้เร็ว" เปียโนเงียบไปสักพัก แม้ว่างานแบบนั้นเธออาจจะไม่ค่อยชอบทว่าเป็นทางเดียวที่เธอจะมีเงินเก็บไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลพ่อของเธอ เปียโนครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "งั้น ฉันจะลองดู" เปียโนตัดสินใจลางานเจ้าของร้านด้วยเหตุผลที่พ่อเข้าโรงพยาบาลเธอไม่ได้บอกความจริงว่าจะไปที่ไหน กลัวว่าหากที่นั่นไม่เหมาะกับเธออย่างน้อย ๆ ก็มีงานที่นี่รองรับ เปียโนเดินทางมาพบเพื่อนที่เลานจ์ขนาดใหญ่ ส่วนเจ้าของเป็นนักธุรกิจหนุ่ม ที่ชื่อเควินวัยสามสิบปี "ยัยเปียทางนี้" แมงเม่ายืนรอเพื่อนที่หน้าร้าน เพื่อที่จะพาเปียโนไปพบผู้จัดการสาวที่ดูแลที่นี่แทนเจ้าของ ส่วนเจ้าของจะเข้ามาแค่ตรวจงานเท่านั้น "ที่นี่?" "เขาเรียกว่าเลานจ์ เป็นสถานที่สำหรับคนรวยชอบมาปาร์ตี้ เข้าไปข้างในกันเถอะ" "......"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD