รักล้มโต๊ะ EP.27

1160 Words
“เชี่ย! เล่นเชี่ยอะไรของมึงวะ” “ต้องสั่งสอนซะบ้างป้ะ” “ร้านจะเจ๊งเอา มึงดูสิ” น่าหงุดหงิดตรงที่พอแคชเชียร์สาวหายหน้าลูกค้าก็พาลหายไปกว่าครึ่ง สรุปที่มาร้านนี้เพราะมาเสี่ยงดวงวัดโชคหรือมาจีบพนักงานเขากันแน่วะ ปกติขิมต้องไล่แล้วไล่อีกกว่าไอ้พวกแก๊งมัธยมจะกลับบ้าน แต่วันนี้ไม่ทันจะสี่ทุ่มร้านก็เงียบกริบ “เจ๊งก็ช่างแม่ง ว่าแต่มึงเถอะเจอมันยัง” “กูให้คนคอยตามอยู่” “เดี๋ยวมันก็โดนเฮียสองยิง” “กูให้คนเฝ้าอยู่ ยุงสักตัวก็อย่าหวังจะดูดเลือดได้” “โม้ฉิบหาย” เพื่อนรักที่รู้จักและเข้าใจ โซ่สังเกตมาสักพักว่ายิมใจดีกับซิมเป็นพิเศษ ยอมให้ฝ่ายนั้นฟันเงินไปหลายแสนก็เพราะถูกใจมันนั่นเอง “เชี่ย! เสียเป็นแสนแขนไม่ได้จับของแท้เลยกู” “มึงจะเอาไงต่อ” “กูจะรอจนกว่าแม่งจะคลานกลับมาหากูเอง” “ถ้ามาพร้อมส้นตีนล่ะ” “ก็ลองดู กูมั่นใจว่าส้นตีนกูก็หนักไม่แพ้ใคร” “เออ!” “มึงเถอะ! เสียไปห้าแสน ได้จับอะไรบ้างยัง” “จับ? ไอ้ห่าซิมอะนะ ไม่ใช่ทางกูวะ” “กวนตีนแหละ! กูหมายถึงแฟนเขา” ... สองเพื่อนรักคุยกันอยู่ดีๆ ยิมพูดประโยคขัดหูจนโซ่ต้องมองหน้าเพื่อน “ไอ้ควาย! มึงอยากได้แฟนเขาออกนอกหน้าขนาดนี้ใครดูไม่ออกก็เรียกควายว่าพ่อเถอะ” “พ่อ!” แน่นอนว่าคนสนิทกันเล่นตามมุกที่ชงให้ “แค่แฟนกันจะอะไรนักวะ” “สำหรับคนดีๆ อะนะ เขาจะคบทีละคน ไม่นอกกาย ไม่นอกใจ ไม่คบซ้อนเว้ย” “ถ้าจะมั่นคงดั่งขุนเขาขนาดนั้นไม่แต่งงานกันให้สิ้นเรื่องไปเลยวะ” “หลังเรียนจบเขาอาจจะแจกการ์ดงานแต่งพร้อมงานรับปริญญาเลยก็ได้” “งั้นมึงเตรียมเงินใส่ซองรอเลยนะ หรือจะไปในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวดีฮะ” “ไอ้เชี่ยโซ่!” กลายเป็นยิมที่ของขึ้น สกิลปากเพื่อนรักก็จัดจ้านใช่เล่น เพราะศีลเสมอกันถึงได้คบกันได้ “กูต้องไปในฐานะเจ้าบ่าว” “เหรอ..! เสียเป็นล้านยังไม่ได้เหี้ยอะไรสักอย่าง” “พูดเหมือนมึงได้แล้ว” “กูอดมึงก็อด” ... สงสัยจะได้อดกันจริงๆ เพราะหลังจากนั้นทั้งขิมและซิม ทั้งยิมและโซ่ก็เหมือนรถที่วิ่งอยู่บนถนนเส้นคู่ขนาน แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายทำอะไรอยู่ที่ไหนแต่ไม่มีโอกาสได้พูดคุยทักทายสักครั้ง ขิมยังไปมหาวิทยาลัยทุกวัน โซ่กับหุ้นส่วนต้องปลีกตัวมาดูร้านโปรคลับและซิมก็ยังอยู่ในสายตายิมเช่นเดิม “ขิม!” “ว่าไงมะนาว” “พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่า” “เราช่วยแม่ขายของ” นานๆ ดาวนิเทศศาสตร์จะโผล่มาทักทาย มะนาวเอางานมาให้เพราะพริตตี้สาวมีธุระส่วนตัว “ไม่เอาแล้ว” “นะนะ! ช่วยเราหน่อย” “ไม่เอาไม่ช่วย” “งานกลางวันแกจะกลัวอะไร” “งานกินข้าวเนี้ยนะ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน” “งานแค่สามสี่ชั่วโมงแต่รายได้เป็นหมื่นเลยนะขิม” มะนาวพยายามหาแรงจูงใจ “เงินเยอะขนาดนั้งคงไม่ได้กินข้าวธรรมดา ขอโทษนะมะนาว แต่ขิมเข็ดแล้วจริงๆ” “เพราะขิมหนีงานของเราคราวที่แล้วนะ เราถูกเจ้ทุเรียนแบนไม่ส่งงานให้ นี้ถ้าเราไม่ต้องพาแม่ไปหาหมอเราคงไม่มาตื๊อขิมแบบนี้หรอก แม่เราป่วยต้องใช้เงินเยอะ ขิมไม่คิดจะรับผิดชอบที่ตัวเองหนีงานบางเหรอ เงินเราก็จ่ายครบไม่ได้หักสักบาทเลยนะ” “อ้าวมะนาว! ทำไมเป็นความผิดขิมล่ะ” “ถ้าเราทำงานครั้งนี้เสียอีกก็คงไม่มีใครจ้างเราอีก แม่เราก็ต้อง...ฮื้อ!!!” ดาวคณะระเบิดน้ำตาร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง ส่วนคนฟังก็เห็นใจนะแต่ช่วยอะไรไม่ได้ “มะนาวลองไปถามเพื่อนพริตตี้คนอื่นดูก่อนสิ” “เขาระบุว่าต้องเป็นแก” “ยังไงนะ” “ลูกค้างานปาร์ตี้คืนนั้น เขาอยากจ้างแกไปกินข้าว เหตุผลส่วนตัวเพราะอะไรเจ้ทุเรียนไม่ได้บอก แต่ถ้าขิมอยากรู้ก็ลองถามเขาดูเองชื่อคุณยู เขาจะบอกว่าเพราะอะไรถึงต้องเป็นแกเท่านั้น” “ยูไหน” “เจ้าของบ้านที่แกรับงานไง” คงเป็นคนเดียวที่เข้ามาแกล้งเธอคนนั้น แต่รูปร่างหน้าตาเป็นยังไงก็จำไม่ได้แล้ว “นะขิม! แม่เราต้องใช้เงินรักษาตัวอีกมาก และเราก็รับปากว่าจะให้ขิมรับงานนี้ให้ได้ ไม่งั้นเราตายแน่ๆ นะขิมนะ” “มะนาวไปรับปากเขาเองนะ” “แกจะปล่อยให้แม่เราตายเหรอ” “เฮ้ยไม่ใช่! แต่เรื่องมันไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลยนะ” มันไม่แฟร์เอาเสียเลยที่ขิมถูกยัดเหยียดภาระน่าอึดอัดให้แบบนี้ “ใช่! ปัญหาของเรา แม่ของเรา ขิมจะเดือดร้อนด้วยทำไมสินะ ต่อให้แม่เราตายก็ไม่ใช่แม่ขิม ใครจะเป็นจะตายก็ไม่ได้หนักหัวขิม ขิมจะสนจะแคร์ทำไม” “มะนาว...เดี๋ยวสิ อะไรวะ!!” ดาวคณะนิเทศพ่นวาจาตัดพ้อเสร็จก็คว้ากระเป๋าแบรนด์เนมสับส้นสูงเดินจากไป ทิ้งความลำบากใจกองใหญ่ให้ขิมไปพิจารณาเองต่อ ถ้าจะไม่ช่วยก็ถือว่าแล้งน้ำใจสุดๆ Chat ZIM : ตั้งหมื่นหนึ่งเลยเหรอ โอเคได้ งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเลขกลมๆ ห้าหลักจะทำให้ซิมอ่านแชทขิมเร็วกว่าทุกที การนัดแนะพอสังเขปจบลงพร้อมนัดหมายในวันพรุ่งนี้ ณ ห้างดัง กับอาชีพใหม่ รับจ้างกินข้าว นั่งเป็นเพื่อนคุยระหว่างมื้ออาหารเท่านั้น ต่อจากนั้นจะดิวงานกันยังไงก็สุดแล้วแต่ความพอใจของลูกค้ากับเพื่อนเที่ยว จบของคาวที่ร้านอาหารจะไปต่อของหวานที่โรงแรมก็มีให้เห็นออกเยอะแยะ ความสุขที่คนมีกำลังทรัพย์พอใจจ่าย และเป็นอาชีพที่หญิงสาวมากมายเลือกทำเพราะงานง่ายได้เงินเยอะ แต่เรื่องนี้คนอ่อนต่อโลกไร้ประสบการณ์ชีวิตเช่นขิมไม่เคยรู้ ระหว่างโลกสวยกับซื่อบื้อก็ต่างกันแค่เส้นบางๆ กั้น ณ ร้านอาหาร เเวลา 11.30 น. ZIM : เรานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนี้นะ ไม่ต้องห่วง งานพิเศษเพื่อนเที่ยวสบายใจขึ้นมาบ้างเมื่อได้อ่านข้อความจากแฟน งานกินข้าวในห้างตอนกลางวันกับลูกค้าก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มะนาวว่าจริงๆ ด้วย แค่ทำให้มันจบๆ รับเงินแล้วกลับบ้าน “สวัสดีครับน้องขิม” “คุณยูใช่มั้ยค่ะ สวัสดีค่ะ” “พูดจาห่างเหินน่ะพอเข้าใจได้ แต่ยกมือไหว้เหมือนพี่แก่กว่าสักสิบปีเลยนะ แบบนี้ไม่โอเคนะครับ” “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD