รักล้มโต๊ะ EP.12

800 Words
“สบายเนาะ” ... “นี้! อย่าทำหน้าเหมือนคนไม่รู้จักกันได้เปล่า” ... “เอ้า...เฮ้ย!!” เมื่อรถซีดานแล่นมาถึงจุดหมายปลายทางคือคอนโดหลังเดิมก่อนหน้านี้ที่ซิมเคยพาขิมมา เจ้าตัวอยู่ในสภาวะงุนงง ขวยเขิน สับสนและเสียหน้า ต่างๆ นานาปะป่นกัน เวลามีคนจ้องหน้าเรา เราจะรู้สึกได้ และนั่นก็เป็นตอนเดียวกันที่ซิมยกมือถือมาจ่อหน้าอัดคลิป เสียงกรนเป็นเรือกลไฟเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินขิมก็ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปหนักเลยที่นี่ จะด่าคนไร้มารยาทก็ไม่ได้ด้วยสิ เพราะต้องอาศัยโซ่ให้พาไปหาแฟนหนุ่ม ไม่รู้หายหัวไปไหนสามวันสามคืน ถ้าโทรไม่ติดเธอคิดว่าอาจจะโยนเจ้าหนี้ที่ไหนอุ้มไปฆ่าแล้วก็เป็นได้ “มาสิ!” คนหน้านิ่งเดินนำหน้าด้วยสบายขี้เก๊กขั้นสุด ล้วงกระเป๋า ซ้ำแล้วยังหันมาพยักหน้าเรียกขิมให้ตามเข้าไปในลิฟต์ เธอไม่อยากอยู่ในที่เล็กๆ แคบๆ ตามลำพังกันแค่สองคน มันอึดอัดกระอักกระอ่วนยังไงไม่ทราบชัด สายตาที่คาดเดาไม่ได้ก็พาลให้ชวนคิด โซ่คงไม่ได้พิศวาสผู้หญิงบ้านๆ กะโปโลแบบขิมหรอกนะ “ซิมอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ” ขิมชะงักก่อนที่ตัวเธอจะก้าวเข้าลิฟต์ “อืม! คิดว่าจะพามาทำไมล่ะ” “เปล๊า! เปล่าๆ ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น” คนถูกจับได้โบกมือปฏิเสธเป็นระวิง เธอเปล่าคิด แต่ความทรงจำให้อดีตคืนนั้นมันผุดขึ้นมาเอง อ๊าห์...,ซี๊ด...,โอ้ว...@$"!*'"?? /# “ร้อนเหรอ” “ฮะ!” “รีบๆ เข้ามาจะไปมั้ย” โซ่ตัดรำคาญ เขากดปิดประตูลิฟต์โดยสารแต่ขิมรีบกระโจนในเวลา ใบหน้าของเธอเห่อแดงลามไปถึงหูสองข้าง เป็นที่มาของคำว่า “ร้อนเหรอ” เจ้าตัวพยายามเก็บไม้เก็บมือแต่ความประหม่าขณะอยู่กับผู้ชายตามลำพังทำให้ขิมไม่รู้จะวางมือตัวเองไว้ตรงหน้า เท้าเอว! ไม่ได้ ดูไม่เรียบร้อย กอดอก! ก็ดูเหมือนจะมาชวนทะเลาะ ไขว่หลัง! ก็ดูสบายๆ ไปหน่อย ประสานมือทั้งสองข้างอย่างเป็นทางการ...ประหลาด!! “เป็นอะไร” โซ่เห็นความดุกดิกนั้น มันแปลกเกินน่ารักแล้วนะแบบนี้ “ฟู่ว...ในนี้ร้อนเนาะ” ขิมเป่าปากและโบกมือพัดหย็อยๆ ลิฟต์เจ้ากรรมทำไมช้าจัง “เอ้า! ยังไม่ได้กดลิฟต์” “ไม่ต้องกด” “แล้วทำไมมันนิ่งแบบนี้” “เออวะ!” คีย์การ์ดระบบล็อกชั้น แค่แตะมันกับเครื่องรับสัญญาณ ลิฟต์โดยสารก็จะนำพาไปสู่ชั้นที่ตนเองพัก “สงสัยลิฟต์มันจะค้าง” “อ้าว! แล้วทำยังไง” “ก็โทรแจ้งสิ...พรึ่บ!” กรี๊ดดด!! แสงสว่างภายในลิฟต์โดยสารขนาดเล็กดับลง เป็นไปตามกลไกของระบบประหยัดพลังงาน แต่หญิงสาวตกใจกรี๊ดลั่น ขิมไม่เคยมีประสบการณ์ติดค้างอยู่ในลิฟต์ สัญชาตญาณความกลัวผลักดันให้เธอกระโดดกอดโซ่ไว้แน่นและหลับตาปี๋ “ร้องทำไม” “ตายแน่ๆ เลยลิฟต์ค้าง” “ไม่มีใครตายเพราะลิฟต์ค้างหรอกน่ะ ถ้าลิฟต์ร่วงลงไปกระแทกพื้นละก็ไม่แน่” กรี๊ดด!! ความตกใจทำให้ขิมกอดเอวโซ่แน่นขึ้น ซุกใบหน้ากับแผงอกแกร่ง ดันร่างหนาจะแผ่นหลังติดกำแพงกระจกสะท้อน “เฮ้ย! กลัวขนาดนั้นเลย” “รีบทำอะไรสักทีสิ เดี๋ยวก็ขาดอากาศหายใจตาย” ขิมเคยเห็นในหนัง ว่าหากลิฟต์ค้างนานๆ พัดลมตัวทำอากาศก็จะหยุดหมุน ไม่ใช่แค่ร่วงลงไปอย่างเดียวที่ทำให้คนตายได้ “อะๆ แปบ!” โซ่ยกมือถือขึ้นมาเลื่อนหาฝ่ายนิติบุคคลของคอนโด อ้อยอิ่งทำอะไรชักช้ายืดยาดไปหมด จนกระทั่ง...ติ๊ง! “อุ๊ย...!!” เมื่อหลอดไฟติดสว่างจ้าขิมจึงได้เห็นตัวเองในเงากระจก เธอกอดเอวผู้ชายที่ไม่ใช่แฟนและเขาก็กอดเอวเธอกลับ เธอผงะจนถอยออกห่างแต่โซ่ก็ยังรั้งเอวบางไว้ แอบสูบกลิ่นแชมพูที่ผมมวยมัดจุกกลางหัว “ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับ” คนมาใหม่จากนอกลิฟต์ยิ้มเป็นนัยให้ชายหนุ่ม เป็นสายตาแบบที่ผู้ชายด้วยกันรู้ดีว่าหมายถึงอะไร จากนั้นโซ่จึงยอมปล่อยร่างน้อยเป็นอิสระ “ขิมมากอดเราเองนะ” “เราตกใจ” “แสดงป้ะ! ตกใจอะไรขนาดนั้น” เป็นคำที่โซ่ไม่ได้พูด จริตมารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนจะตายไปใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นและเขาก็เจอมาเยอะ เช่นตอนแรกที่ขิมหลับ ไอ้มุกแกล้งหลับในรถหลอกล่อให้เขาพากลับคอนโดก็เจอมานักต่อนัก “จะไปหามันเลยหรือแวะที่ห้องเราก่อน” “ฮะ! ม ไม่แวะ” ไม่มีเหตุผลให้ต้องแวะจ้า จะแวะทำไมก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD