รักล้มโต๊ะ EP.11

1480 Words
ณ เตาปูน “น็อกมืดนะครับ...จ่ายมา!!” อีกพรสวรรค์ที่ติดตัวนิสิตรัฐศาสตร์คือการคำนวณ ความกล้าและการโชคจากการเสี่ยงดวง ณ วงไพ่ในบ่อนย่านชุมชนดัง ชายหนุ่มใบหน้าฟ้าประทานเรียงไพ่จับคู่ตัวเลขและดอกจากกองกลาง ปิดท้ายด้วยแหม่มโพธิ์ดำกับพรรคพวก ถึงตอนนับแต้มซิมก็ชนะขาดลอยไปแบบใสๆ ชายหนุ่มแวะโต๊ะนั้น ลงโต๊ะนี้ ลงทุนไปกับการละเล่นรูปแบบต่างๆ ปิดท้ายด้วยเลือกบอลคู่ที่เห็นว่าทำเงินได้ ไม่น่าเชื่อว่าภายในสามวันตามที่ขอยิมไว้เขาจะใช้สามารถที่มีหาเงินมาใช้หนี้ได้สำเร็จ ซิมแบกเงินสดๆ มาจ่ายเจ้าหนี้ถึงที่ด้วยสีหน้าภูมิใจในตัวเองแบบสุดๆ “คงไม่ต้องนับเนาะ^^” “กูไม่โกงหรอกน่ะ” “แหม! พูดกูมึงไม่เห็นจะน่ารัก” “แล้วอยากให้กระผมพูดว่ากระไรขอรับ” “แบบนี้ก็น่ารักดี” ยิมยิ้ม ส่วนอีกคนก็บ้าจี้ไม่เลิก “ได้เลยขอรับ” สองหนุ่มนั่งดื่มเบียร์เย็นๆ พร้อมกับแกล้มเป็นสแน็ค แต่ทว่าอดีตลูกหนี้ทำงานหาเงินอย่างหนักสองวันสองคืนเต็มๆ ฟุบหลับคาโต๊ะ “ซิม! ซิมครับ” “อืม...” “ถ้าหลับตรงนี้ผมอุ้มกลับบ้านนะ” “เออ...” “ผมพูดจริงนะ” “เออออ!!” คนเมารู้สึกถูกก่อกวนการพักผ่อนแต่เปลือกตาหนักอึ้งก็ยากแก่การยกเปิด ซิมนั้นได้ยินไม่ถนัดนักและหมดแรงจะขัดขืน เขารู้เพียงว่ามีร่างอีกร่างกำลังแบกเขาไปไหนสักที แล้วภาพเบลอๆ ติดๆ ดับๆ ก็ตัดขาดจนกระทั่งเช้า อือออ... ร่างบางผิวขาวกระจายเหยียดยืดยาวไร้ความเมื่อยล้า เตียงนุ่มผ้านวมอุ่นแอร์เย็นสบายแบบนี้มันที่ไหนกันนะ อ้ะ!! “Good Afternoon zim” “เชี่ย!!” ไม่คิดว่าจะเจอหน้าอดีตเจ้าหนี้บนเตียงเดียวกัน ฝ้าเพดาน กำแพง หนอมผ้าห่มไม่คุ้นตา แสดงว่า... “กูมานี้ได้ไงวะ” “จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” “ไม่อะ” “งั้นเมื่อคืนมันก็ไม่มีความหมายอะไรเลยสิ” “พูดไรของมึง” “ล้อเล่น” ยิมตวัดผ้าห่มที่ใช้ห่มร่วมกันออกลุกยืนเต็มความสูงบิดขี้เกียจบ้างเป็นจังหวะเดียวกันที่ซิมเห็นรูปร่างสูงโปร่งมีมัดกล้ามอ่อนๆ แบบคนสุขภาพดีดูแลตัวเอง ไม่เน้นตัวใหญ่ล่ำบึกเน้นควบคุมหุ่น เมื่อซิมก้มดูพุงกะทิของตน สามวันมานี้กินโซเดียมไปเยอะ น้ำอัดลม ดื่มเหล้าเบียร์ก็มากกว่าน้ำเปล่าซะอีก “เฮ้ย! นี้รอยไรวะยิม” “ก็ถ้าไม่แบกกลับมานี้ ยุงคงหามซิมไปแทน” “ร้านมึงนี้ต้องฉีดไล่ยุงบ้างนะ กัดกูทั้งตัว” “ทีหลังก็มานอนนี้นะ” “พูดแล้วน่ะ” ชายหนุ่มสำรวจแขนขาที่เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นปื้นเต็มไปหมด ไม่รู้ปากมันแหลมทะลุกางเกงยีนเข้าไปดูดเลือดได้ยังไง หน้าท้อง หน้าอกก็ไม่เว้น แดงและคันยิบๆ “ขออาบน้ำหน่อยนะมึง” “ตามสบาย” ชายหนุ่มลุกเดินโทงๆ มีแต่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวติดเอว เมื่อชำระร่างกายเสร็จก็ออกมาเจอกับอาหารส่งกลิ่นหอมฟุ้งชวนน้ำลายสอ ท้องครางโครกครากดังแบบไม่เกรงใจยิม “เราชาร์จมือถือให้แล้วนะ” “ขอบใจนะ” “ร้อยมิสคอลแล้ว” “ช่าง!” ซิมไม่ใส่ใจกับสายเรียกเข้าของแฟนสาว อาหารตรงหน้ามากกว่าที่ดึงดูดความสนใจกว่า เขาปล่อยให้มันสั่นครืดอยู่อย่างนั้นจนดับไปเอง ไม่นานเกินหนึ่งนาทีชื่อเดิมก็โทรกลับเข้ามาใหม่ “เขารู้รึเปล่าว่าซิมอยู่ไหน” “รู้! ไลน์บอกว่าอยู่บ้านเพื่อน” “ใคร” “ก็เพื่อนไง” “ไม่บอกเขาล่ะว่านอนบ้านเรา เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” ฟังดูเหมือนยิมปรารถนาดีซิมจึงวางช้อนลง ดูดนิ้วจนสะอาดแล้วสไลด์หน้าจอรับสายขิม “อืม...” ... “จะตะโกนทำไมขิม” ... “เราสบายดี” ... “อยู่บ้านเพื่อน ยิมไง” ... “ก็ไม่มีเรียนจะให้เข้าไปทำไม แค่นี้ก่อนนะกำลังกินข้าวเดี๋ยวยิมรอนาน” คนปลายทางยังพูดไม่จบก็ถูกตัดการติดต่อ เข้าใจดีว่าขิมเป็นห่วงแต่บางทีมันก็เยอะจนน่ารำคาญไปหน่อย “โอเคกันรึเปล่า” เจ้าของบ้านเอ่ยถาม “โอเคดิ่! ขิมเขาเข้าใจกูดี พอดีกูมีแฟนน่ารักอะนะ กูพูดอะไรเขาเออออตามไปหมด นี้บอกแล้วว่าอยู่กับยิม ขิมเขาก็โอเค!” “ถ้าโอเคแล้วก็ดี” ยิมนั่งเขี่ยข้าวเล่นกินพอรองท้องแต่อีกคนหิวโซซัดหมดเรียบ ข้าวในจานเจ้าของบ้านที่เหลืออยู่แทบไม่พร่อง “ขอนะ” “ฮะ” “เนี้ย” “ผมสั่งให้ดีกว่ามั้ย” “กูไม่ถือ ถ้ามึงไม่กินก็ต้องทิ้งเปล่าๆ เสียดาย เอ๊ะ! รึว่ามึงไม่ให้ โทษทีๆ กูแค่...” ซิมอาจจะกันเองจนลืมมารยาทแต่เมื่อคิดได้เขาก็วางจานข้าวยิมลง หันไปวิดน้ำแกงที่เหลือในชามต่อเพราะรู้สึกไม่อิ่มเท่าไร “คือจานนี้เรากินแล้วไง ถ้าไม่เดี๋ยวสั่งเพิ่มให้” “โหย! กว่าจะมา” “ไม่รังเกียจเหรอ” “มึงป่วยเหรอ” แมนๆ เตะบอล ดูดหลอดน้ำเดียวกันก็ยังได้ และเขาก็ไม่คิดว่ายิมจะเจ้าสำอางขนาดนั้น “เปล่า!” “เออ!แล้วมีไรวะ” “เปล่า! งั้นกินด้วยกันก็ได้” คราวนี้แหละที่เจ้าของบ้านเริ่มยิ้มออกหลังจากที่ซึมเป็นส้วม “ไม่เป็นไร! มึงกินเถอะเดี๋ยวไม่อิ่ม” “อิ่มสิ! เราอิ่มตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว^^” ยิมคนประหลาดยิ้มจนตาหยีให้ซิม เขายกจานข้าวผัดกุ้งของตนให้ซิมกินต่อ และดูดีใจเหลือเกินที่มีซิมนั่งกินข้าวด้วยกัน ถัดมาที่อีกคนหลังจากคืนนั้น มะนาวตามติดโซ่ราวกับช่วงฤดูผสมพันธุ์ ไม่มีเรียนก็ตามมานั่งรอ เดินไปไหนก็แอบตามต้อยๆ ส่วนสุภาพบุรุษไม่กล้าเอ่ยปากไล่เพราะอยู่ต่อหน้าคนเยอะแยะ “ด เดี๋ยว!” เสียงสวรรค์ทรงโปรด นางฟ้าตัวน้อยๆ ลงมาช่วยชีวิต “เรา!?” “บ้านยิมอยู่ไหนรู้มั้ย” “มีอะไรกับมัน” ท่าทางคนมาใหม่เปลี่ยนไป จากคืนนั้นที่ขิมด่าเขาสารพัดว่าขี้เก๊ก หน้าตึง แต่ตอนนี้สิแค่มองหน้ายังไม่กล้า พูดจาก็ติดขัดเหมือนคนติดอ่างอีกด้วย “ป เปล่า! แค่อยากรู้ว่าบ้านคนชื่อยิมอยู่ที่ไหน” “แล้วมีธุระอะไรกับยิมล่ะ” กลับเป็นมะนาวที่เจ๋อเข้าวงสนทนามาคุยด้วย “จะไปหาไอ้ซิมใช่ป้ะ” “อื้อ” “ป้ะ” “เดี๋ยวสิ!” มะนาวหน้าเหวอเมื่อชายหนุ่มสลัดมือเธอทิ้งแล้วจูงมือขิมรีบวิ่งไปอีกทาง พริตตี้สาวใส่ส้นสูงไม่สามารถตามทันได้ เธอจึงชวดเป้าหมายไปอีกครั้ง “ป ปล่อยมือเราได้แล้ว” “โทษ” โซ่ปล่อยมือแข็งและด้านออก ไม่อยากเชื่อว่าตัวเล็กแค่นี้มือจะกระด้างขั้นสุด ไม่นุ่ม นิ่มและหอมด้วยครีมบำรุงเหมือนสาวคนอื่นๆ “ขึ้นรถสิ” “ไปไหน” “แฟนหายไม่ใช่รึไง” “แค่บอกเรา ก็...พอ!” ขิมรู้สึกประหม่าและอึดอัดทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ โซ่เป็นผู้ชายที่มีไอพลังงานบางอย่างคละคลุ้งกดดันขิมจนทำตัวไม่ถูก สายตาเจ้าเล่ห์มหาเสน่ห์นั้นก็อีก บางทีก็ดูเย็นชาแต่ถ้าเผลอจ้องนานเกินสามวินาทีมันเหมือนกับหลุมอวกาศ ที่หลงเข้าไปแล้วจะไม่สามารถหาทางออกเจอ “ไปเองก็เข้าไม่ได้หรอก” “ท ทำไม” “ขึ้นรถเถอะน่ะ เย็นๆ รถติด” “ด เดี๋ยว! ว๊าย” ร่างเล็กถูกยัดใส่เบาะนั่งผู้โดยสาร เจ้าของรถเข้าประจำตำแหน่งขับ ไม่นานรถหรูบ่งบอกฐานะทางการเงินว่ารวยมากก็แล่นออกมหาวิทยาลัยชื่อดัง คล้อก ฟิ้ว...Zzz รถเมล์ร้อนๆ ไม่ปรับอากาศขิมยังหลับตลอดสายแล้วประสาอะไรกับแอร์เย็นฉ่ำพร้อมเบาะหนังนั่งสบายในรถซีดานสัญชาติยุโรป แถมเจ้าของก็ตีนเบาขับนิ่มราวกับเตียงนุ่มบนถนนทอดยาวสายรองเมืองฝ่าการจราจรติดขัด หญิงสาวทนถ่างหนังตาตัวเองได้ไม่นานก็คล้อยหลับกรนคร่อกจนคนขับแอบยิ้มและต้องขอยกมือถือขึ้นมาอัดวิดีโอเก็บไว้ดูเล่น เกิดมาไม่เคยนั่งฟังเสียงเรือกลจากสาวใดมาก่อน ความเป็นธรรมชาติไร้การปรุงแต่งของขิมทำให้คนหน้าหุบยิ้มไม่ลงจนร่องแก้มโผล่ ผู้หญิงแปลกแบบนี้ที่โซ่ไม่เคยเห็น เขาเคยชินกับเมคอัพหนาหนักจนเต็ม ส้นสูง กระโปรงสั้นและพรมน้ำหอมหอมฟุ้ง ไม่ใช่ผ้าใบเก่าๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่ง กระโปรงพลีทคุมเข่า กระเป๋าผ้าใบโตเหมือนห่อปิ่นโตมาจากบ้าน ความแปลกตาที่ดูน่ารัก เข้าใจแล้วว่าไอ้ซิมมันอะไรในตัวแฟนสาวคนนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD