รักล้มโต๊ะ EP.7

1260 Words
Rrrrrrrr “เออ! มีไร” ... “คืนนี้เหรอ” ... “ขี้เกียจวะ! ไม่ไป” ภายในคอนโดส่วนตัวไม่ใกล้ไม่ไกลมหาวิทยาลัย หนุ่มนิติศาสตร์ปีสี่นอนพักกายอยู่ในห้องลำพังพร้อมอาการหงุดหงิดที่เจ้าตัวไม่ทราบที่มา โซ่กำลังพยายามขจัดภาพกวนใจของใครบางคนออก หญิงสาวที่แฟนเจ้าตัวการันตีว่าดีนักหนากำลังช็อปปิ้งส้นสูงราคาแพงหูฉีก ซึ่งมันเกี่ยวกับเขาไม่ก็เปล่า แต่เข้าใจแล้วว่าทำไมไอ้ซิมมันถึงติดการพนันขนาดนี้ เพราะหาเงินมาได้เท่าไรก็เอาไปเปย์แฟนสาวสินะ ติ๊ง...หน่อง “แม่ง!” ร่างใหญ่เดินหน้าตาบูดบึ้งไปเปิดประตูรับเหมือนเจ้าตัวจะพอรู้ว่าใครมาหา “อะไรของมึง” “อยู่กับใครเปล่าวะ” คนมาใหม่ชะเง้อคอยาว เห็นเพื่อนรักบอกว่าอยากอยู่ห้องก็นึกว่าพาหญิงมากก แล้วอ้างว่าขี้เกียจ “เปล่า! กูจะนอน” “นอนอะไรแต่หัวค่ำ” “มึงตื่นตอนกลางคืน ได้นอนตอนกลางวันก็พูดได้สิ กูเนี้ยกลางคืนก็ยังไม่ได้นอนแถมมีเรียนแต่เช้า” โซ่บ่น คนอย่างยิมไม่ต้องไปเรียนเพื่อให้ได้ใบปริญญาเช่นเขานี่หน่า ก็พูดได้ “ช่วยไม่ได้” เจ้าตัวไหวไหล่สองข้าง ยิมเดินเข้ามาหย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาทั้งๆ ที่ในห้องของโซ่มืดตึบ “มานั่งทำห่าอะไร กลับห้องมึงสิ” คนง่วงงอแงเท้าเอวไล่ “เรื่องโต๊ะสนุ๊กว่าไง” “ช่างรับเหมาแม่งหนีหนี้บอลไปแล้วไง ก็กูแล้วใช่มั้ยว่าเรื่องงานก็คืองาน” “งั้นมึงหาช่างมารับงานต่อให้จบ ไอ้เหี้ยนั่นเดี๋ยวกูจัดการเอง” ใครจะเชื่อว่านิสิตนิติศาสตร์จะซีเรียสกับการทำงานขนาดนั้น อาจเป็นเพราะการเคร่งระเบียบและชัดเจนต่อแผนที่ถูกปลูกฝังมาจะเข้มข้นในกระแสเลือดขนาดนี้ ผิดกับอีกคนที่ดูสบายๆ ง่ายๆ ไปซะหมด แต่เวลาเอาจริง คนอย่างยิมก็โหดไม่ใช่เล่น หลังจากนั้นไม่นานเกินสามวัน ลูกหนี้โต๊ะบอลก็หอบเงินหลายแสนมากองตรงหน้าเพราะเขาปรามาสเด็กหนุ่มอายุน้อยว่ามิอาจมีปัญญาทำอะไรได้ เจ้าหนี้หน้าละอ่อนส่งคนไปทวงจนไม่เป็นอันทำมาหากิน งานรับเหมาที่รับไว้หลายที่ก็ถูกขู่เลิกจ้าง ชีวิตลูกเมียอยู่กันอย่างระส่ายระสับ คนเป็นหนี้จึงต้องดิ้นรนขายนาขายไร่ หยิบยืมญาติพี่น้อง ไปกู้หนี้ยืมใครมาก็ต้องทำเพื่อความปลอดภัยต่อตัวเองและครอบครัว คณะสถาปัตยกรรม “พวกแก! คืนนี้ไปแดนซ์ออนเดอะฟลอร์กันป้ะ” “อารมณ์ไหนฮะนางภีม” “นานๆ จะอยู่รวมกันครบแก๊ง เดี๋ยวเรียนจบแล้วก็ต่างคนต่างแยกย้าย” “พวกแกไปเถอะ” “ทำไมอะนิล! ไปเถอะนานๆ ที” นานๆ ทีที่เด็กศิลป์ทั้งห้าจะอยู่กันครบองค์ ปลานิล,ไทม์,นินิว,ขิมและภีม ปีสี่แล้วมีภารกิจให้ทำอยู่มากเวลาจึงไม่ค่อยว่างตรงกัน แม้นิลกับขิมจะเรียนเอกเดียวกันแต่เพื่อนซี้ก็หายตัวบ่อยซะเหลือเกิน เช่นเดียวกับครั้งนี้ “ช่วงนี้นิลดูแปลกๆ นะ” ไทม์เอ่ย เพื่อนชายคนเดียวของแก๊ง และดูท่าว่าไทม์จะสนใจปลานิลมากกว่าคนอื่น “เราต้องไปดูแลคุณท่าน พวกแกไปกันเถอะ” “คุณท่านเขามีพี่พิมพ์ดูแลอย่างใกล้ชิด และลูกชายเขาก็กลับมาแล้ว แกไม่ยอมไปเองต่างหาก ทำตัวมีลับลมคมในนะนางนี้” ภีมเอ่ยตาม เพราะเป็นเพื่อนสนิทกับปลานิลมาตั้งแต่มัธยม เมื่อมีอะไรผิดสังเกตเธอย่อมเห็นชัด “ไม่มีจริงๆ” “เชอะ! แกล่ะนางขิม คอนโดแฟนแกอยู่ใกล้แค่นี้อย่ามีข้ออ้างอีกนะ” “นิว! ดักทางกันขนาดนี้ฉันจะอ้างอะไรล่ะ” ในบรรดาแก๊งทั้งห้าคน ขิมเป็นคนเดียวที่ฐานะธรรมดาสุด เพราะเธอเป็นแค่ลูกแม่ค้า ส่วนเพื่อนๆ ทั้งสี่มีชีวิตดี ขับรถแพง เป็นทายาทธุรกิจมูลค่าหลายล้านบาทไม่ใช่แค่ร้านอาหารตามสั่ง “ถ้ามีคนหนึ่งไม่ไปเราก็ไม่ไปนะ” “อ้าวไทม์! ไอ้นี้ก็...งอนเป็นเด็กๆ ไปได้” ภีมแหวใส่เพื่อนชายในกลุ่มคนเดียว พอนิลไม่ไปด้วย บอดี้การ์ดคนเดียวในกลุ่มสตรีเด็กศิลป์ก็งอแงตาม ไทม์ลุกหนีไปอีกทางเมื่อเขาเห็นรถตู้สีดำคันใหญ่ของอดีตนักการเมืองจอดรอรับเพื่อนสาวคนหนึ่งในกลุ่ม “เรากลับก่อนทุกคน” “พอดีมีธุระ ไปนะ” “ล่ม! ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม” 21.00 น. แม้แก๊งเพื่อนทั้งห้าจะเบี้ยวไปสองคนแต่คนอยากเที่ยวก็ลากขิมมาเสพแสงสีดนตรีกลางผับจนได้ ภีมและนินิวดูตื่นเต้นเป็นพิเศษเหมือนคนอัดอั้นมานาน ทั้งเต้นทั้งดื่มสนุกสนานมีแค่คนเดียวที่รู้สึกไม่อิน “เต้นหน่อยสิแก” “พวกแกสนุกกันเถอะ เดี๋ยวฉันเฝ้าโต๊ะให้” “ไม่มีใครมายกโต๊ะไปหรอกน่ะ มาๆ เย้ๆๆ” สามสาวจึงพากันไปเต้นหน้าเวทีขณะหนุ่มนักร้องและนักดนตรีกำลังขับร้องเล่นเพลงที่มีจังหวะชวนให้กระโดดสุดตัว มาเถอะ...? เติมรักให้เต็มลูกโป่ง เติมหัวใจเราให้พองใหญ่ “เต็มหัวใจอย่างบอลลูน” ฮู...อู...อู้ววว เมื่อเหล้าเข้าปากอะไรที่ว่ายากก็ดูเหมือนจะง่ายขึ้น ขิมเป็นเด็กสาวอีกคนหนึ่งเมื่อเสพแอลกอฮอล์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดังน้ำเปลี่ยนนิสัย นิสัยนิ่ง สุขุม พูดไม่เก่ง แต่ก็ร่าเริงเมื่ออยู่ในกลุ่มเพื่อนสนิท เธอทั้งร้องทั้งเต้นและกระโดดตามเสียงดนตรี ณ ขณะนั้น บ่างช่างยุสองนางพากันยัดเหล้าเข้าปากขิม จนเจ้าตัววิ่งพรวดออกไปอ้วก “นิว! แกจะมอมเหล้าเพื่อนเหรอ” “แกไม่กิน,ฉันไม่กินแล้วใครจะกิน” “นั่นสิ! อุตส่าห์เสียค่าเปิดไปแล้วด้วยนี่เนาะ” “เห็นด้วยใช่มะ” เมื่อลูบหลังโก่งคอจนหมดไส้หมดพุง แทนที่จะสร่างแต่ขิมกับเริ่มงี่เง่า “ไอ้บ้านั่น! มันชอบพาแฟนฉันไปเที่ยว” “ใคร” “ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย...หล่อตายแหละ” “น้อยใจเหรอจ๊ะ” “ก็ใช่อะสิ! ซิมออกไปเที่ยวทุกคืน กลับทีก็สว่าง บ้านก็ชอบทำรก จานชามกินสกปรกไม่เคยล้าง เสื้อผ้าถอดแล้วก็เหวี่ยงให้มันลงตะกร้ามันยากนักหรือไงวะ...โธ่เว้ย!!” บ่นจบแล้วก็ซัดไปอีกแก้วจนหมดเกลี้ยง คำบ่นคำน้อยใจแฟนของขิมมันช่างฟังดูแปลกๆ ฐานะช่างเหมือนคนรับใช้มากกว่าจะเป็นคนรัก “ฉันว่ามันคงเหนื่อยทำงานบ้านวะ” “งานบ้านหรือการบ้านกันแน่จ๊ะขิม” ฮิ้ว.... แต่สาวโสดทั้งสองก็ยังแซวเพื่อนซี้ “ที่เรียนมาถึงปีสี่ก็เพื่อนฉันทำรายงานให้ทั้งนั้น เผลอๆ ถ้าสอบแทนกันได้ ไม่แคล้วก็ต้องไปสอบให้ด้วย” “ถ้าจะหนักวะ” นินิวเห็นอาการเพื่อนแล้วก็เหนื่อยใจแทนขิม พอเมาทีก็ระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมาหมดเหมือนเขื่อนแตกน้ำทะลัก “หนัก! ทีหลังอย่าให้มันกินเหล้าอีกนะ” “ก็ใครมันจะรู้ไปล่ะ ฉันไม่เคยเห็นมันเมา” สองสาวมองหน้ากันละล่ำละลัก เอาไงกับคนเมาดีล่ะทีนี้ “แก้วพวกแกเนี้ยยุงวางไข่แล้วนะ หมดแก้ว!!” ชน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD