รักล้มโต๊ะ EP.26

1124 Words
​​​​​​​“จะทำอะไร” “พาเข้านอนไง...หรือจะให้ทำอย่างอื่นก่อนนอนล่ะ ฮึ” “ไม่เอา” “ยังไม่ได้พูดเลยนะว่าจะเอา” “ง่วง” “แต่เรา เงี่...” “คนจะนอน! อย่ามาเบียดได้มั้ย!!!” ฝันแปลกๆ ปลุกคนเมาให้สะดุ้งพร้อมเสียงนาฬิกาปลุกตอนตีห้า เมื่อคืนมันเริ่มด้วยหมูมะนาวแกล้มแตงกวากับถั่วคั่วเกลือแต่ไหนจบด้วยเบียร์วุ้นเย็นๆ จนเมาอีกแล้ว ขิมรู้สึกเหมือนเพิ่งนอนได้แค่ห้านาที หัวมันยังหนัก ตามันยังเปิดไม่ขึ้น ไอ้เตียงดูดวิญญาณที่นอนสบายเกิ๊น เรื่องที่โกหกว่าต้องตื่นเช้าไปมอ ขอทำเป็นมึนๆ เลื่อนเวลาออกไปก่อนได้ไหม สักแปดโมงก็แล้วกันค่อยลุก ฟิ้ววว... ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะผิวกาย ตามสัญชาตญาณก็ต้องหาผ้าห่ม มือบางคลำหาผ้าผืนหนานุ่มแต่เหมือนมีของหนักๆ ทับไว้ “หนาวเหรอ” อื้อ... ในภวังค์นิทรานั้นขิมไม่รู้ว่าตัวเองตื่นแล้วหรือกำลังฝันอยู่ แต่เมื่อความหนาวเย็นมาเยือนก็ทำให้เธอเริ่มรู้สึกตัว เกือบจะลุกขึ้นมาดูว่าผ้าห่มมันติดอะไรถึงดึงไม่ขึ้น ถ้าไม่ใช่ฝีมือผีบ้านผีเรือนช่วยห่มผ้าให้ก็ไม่มีใครอีกแล้ว “โอเคยัง” “อื้อ...” หญิงสาวหลับไปอีกครั้ง เธอนอนสบายจนสร่าง ตื่นอีกทีก็...บ่ายเข้าไปแล้ว “ตายห่า!!” คำสบถหยาบๆ ที่น้อยครั้งจะหลุดออกจากปาก ขิมคงไม่สบถออกมาถ้าเธอไม่ได้ตื่นขึ้นบนเตียงภายในห้องนอนที่ไม่คุ้น กำแพงขัดมันสไตล์มินิมอลกับเฟอร์นิเจอร์สีดำล้วนอย่างกับหนังสยองขวัญ โต๊ะทำงาน Mac book ชั้นวางหนังสือประมวลกฎหมายมาตราต่างๆ ถ้วยรางวัลในตู้โชว์ นาฬิกาหรู และชุดนักศึกษาชายที่แขวนอยู่หน้าตู้...ชัดเลย ดีหน่อยตรงที่เจ้าของห้องไม่อยู่ในตอนนี้ “ขึ้นมาได้ไงวะ นางขิม! แกอัพสกิลความเรื้อนมาถึงขั้นนี้แล้วเหรอ” เจ้าตัวบ่นแล้วรีบจัดผ้าปูเตียง ตบหมอน ผับผ้าห่มให้เรียบร้อยเหมือนไม่เคยมีใครนอนมาก่อนแล้วรีบลงไปชั้นล่าง ถ้าเจ้าของบ้านมาเห็นต้องด่าเปิงแน่ๆ “เชี่ย...!!” “ด่าเป็นด้วยเหรอ” คนมาใหม่สะดุดไม่นึกว่าขิมจะพูดอะไรแบบคนอื่นเขาเป็นด้วย “ซ โซ่...” คนที่ไม่อยากที่สุดเดินผิวปากควงกุญแจรถคู่ใจอย่างสบายใจเข้าประตูร้านมาขณะที่ขิมกระโดดลงจากบันไดขั้นสุดท้ายพอดี จังหวะนรก! “เพิ่งมาเหรอ” “อืม...มีไรเหรอ” ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์โทรมาบอกเรื่องโปรเจคประมวลกฎหมายชาวบ้านของตัวเองเปิดไม่ได้ ชายหนุ่มก็คงไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าขับรถฝ่าการจราจรติดขัดไปมอเพื่อปลดล็อกรหัสให้ อาจารย์ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายไม่ชำนาญเรื่องเทคโนโลยีเท่าไร นอกจากจะกดเปิดไม่ได้ประเดี๋ยวจะกลายเป็นกดลบทิ้งเอาซะ หลังจากเสร็จธุระก็รีบเหยียบคันเร่งกลับร้านเพราะคิดถึงเตียงดูดวิญญาณในห้องนอนสีทึบกำแพงขัดมัน แอร์เย็นฉ่ำๆ กับหมอนข้างนุ่มนิ่ม อุ่นๆ มีชีวิตและดิ้นได้ด้วย “เปล่า...เราไปนะ” “ไปไหน” “ไปมอ” “ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ นี้จะบ่ายสองแล้วนะจะไปทำไม” “อ้อเราจะไป...ไปทำโครงงานส่งอาจารย์” “เมื่อคืนไม่ได้พูดอย่างนี้นะ” “ฮะ” ชายหนุ่มมั่นใจว่าหลอกถามคนเมาจนได้ความว่าขิมไม่มีเรียนและไม่มีธุระไปไหน เห็นว่าจะเร่งทำโครงสร้างตึกเสมือนจริงให้ทันภายในเดือนนี้และเอาเป็นชิ้นงานไปสมัครเข้าบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ เธอไม่ชอบเรื่องเส้นสายและไม่คิดใช้ แต่สำหรับงานนี้มันคือความหวังครั้งใหญ่ในชีวิต ก็เลยจะลองเอาชิ้นงานไปเสนอรุ่นพี่ร่วมสถาบันดูและขิมอาจพอมีหวัง เด็กสถาปัตย์ตอนเมานอกจากเรื้อนแล้วยังบ่นเรื่องแฟน,ครอบครัว,สภาพเศรษฐกิจ ข้าวของแพง มลพิษเยอะ ไปเรื่อยเปื่อย ไอ้ยิมฟังจนหลับ จากนั้นตัวเขาเองนี้แหละที่เป็นคนอุ้มขิมขึ้นไปนอน เพราะเจ้าตัวบ่นว่าไม่อยากนอนซ้ำที่ใคร นั่นคือสาเหตุที่ขิมไม่ชอบคอนโดของซิมเพราะมันมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่คนเช่าอย่างเราๆ ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเตียงนี้เคยผ่านคนนอนมาแล้วกี่ราย Rrrrrr “กว่าจะโทรกลับมาได้นะซิม” (กระดาษนั่นมาจากไหน) “เขาบอกว่าเฮียสอง” (ขิมเห็นหน้ามันรึเปล่า) “เปล่า! เขาใส่แมสใส่หมวก” (ทีหลังอย่าไปรับของใครมั่วซั่วแบบนี้อีกนะขิม เกิดมันมาทำร้ายขิมจะทำยังไง) “อ้าว! แสดงว่าซิมติดเงินใครอีกใช่มั้ยฮะ” (เรื่องของเรา) “เฮ้ย! แล้วเห็นมั้ยว่ามันขู่ไปถึงพ่อแม่ซิม มันถ่ายรูปเราด้วย” (โง่ให้มันถ่ายทำไมวะ เรื่องง่ายๆ หัดใช้สมองบ้างสิ) “เฮ้ยซิม! ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ เรื่องทั้งหมดเนี้ยมันก็เพราะซิมเป็นคนก่อนะ เราต้องมาซวยไปด้วย ต้องมาเจออะไรบ้าๆ อยู่กับคนบ้าๆ ก็เพราะซิม ยังกล้าด่าเราโง่อีกเหรอ ถ้าอย่างนั้นซิมก็มาอยู่ที่นี่เองเถอะนะ สถานที่อโคจรมีแต่พวกบ้าการพนัน เราจะกลับบ้าน ไม่เอาด้วยแล้ว” ... “ฮัลโหล!!!” ไม่รู้ว่าซิมวางสายไปตอนไหนเพราะขิมกำลังโมโห เธอร่ายความอัดอั้นทั้งหมดและตะโกนไปสุดเสียง และเมื่อพยายามต่อสายอีกครั้งก็ไม่สำเร็จ จากโมโหเป็นทุนเดิมก็ยิ่งเดือดจนอยากร้องกรี๊ด แต่เจ้ากรรมนายเวรในรูปเจ้าของร้าโปรคลับยืนกอดอกมองหน้าขิมนิ่งๆ แล้วขนอ่อนก็ลุกเกรียวอัตโนมัติ “จะย้ายออก?” “ช ใช่! ก็เรื่องนี้ ข ขิมไม่ได้ ก เกี่ยวอะไร ด้วย” “พอมีปัญหาก็เอาตัวรอด” เขาจำได้ว่าซิมก็เปย์แฟนเก่ง ได้เงินมาก็โอนให้ช็อปปิ้งแต่พอมันเป็นหนี้ แฟนที่แสนดีก็ตัดช่องน้อยแค่พอตัวเองรอด “ซ ซิมเป็นคนนิ ยืม ม ไม่ใช่ขิม นะ” “นั่นสินะ...” มาอีกแล้วไอ้หน้าตาหวาดกลัวพูดจาติดขัด ทีเมื่อกี้ล่ะด่าลั่นพูดชัดลื่นไหล ร้ายกาจเหลือเกินนะนางสาวขนิษฐา คงคิดว่าทำท่าทางตัวสั่นเหมือนลูกแมวตกน้ำแล้วจะรอด “ได้! งั้นมันก็ต้องรับผลของมันคนเดียวสินะ” “ซ โซ่จะทำ อ อะไร” “อยากให้มันเลิกเล่นพนันไม่ใช่เหรอ จะช่วยสงเคราะห์ให้ไง” ... “โบราณว่าไว้ ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” เป็นคำบอกเล่าที่ทำให้คนฟังกลัวได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องพยายาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD