เวรกรรมคนเมาถูกชายหนุ่มหามร่างอ่อนยวบ สองขาอ่อนแรงขึ้นรถโดยมีอีกสองเพื่อนรักยืนหัวเราะชอบใจ
ภีมและนินิวรอดูจนกระทั่งรถญี่ปุ่นรุ่นกลางๆ ขับห่างออกไป
ต่างคนต่างหยิกแขนกันระหว่างที่ซิมถามว่าเพราะเหตุใด ขิมจึงเมาปริ้น
สองเพื่อนก็พยายามเฉไฉ คนรับกรรมจึงเป็นเพื่อนขิม
“โอ๊ยขิม!”
“แค่นี้เองนะ! ทำเป็นบ่นเหรอ”
“ห้ามไปกินเหล้าที่ไหนอีกนะขิม”
“ทีซิมยังกินได้เที่ยวได้...เฮอะ!!!” คนเมากระฟัดกระเฟียด
ส่วนซิมเองก็กำลังวุ่นๆ อยู่แต่ก็อุตส่าห์ปลีกตัวมารับแฟนกลับบ้าน
“ซิมจะไปไหน...”
“ธุระ”
“ที่ไหน...”
“เมาแล้วก็นอนซะ”
“ซิม! เราไม่ใช่หมาเฝ้าบ้านนะ”
-_-!!
บอลก็ไม่เข้า แฟนก็เมา แถมงี่เง่าคูณสิบแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต
“ขิม! ห้ามงี่เง่านะ”
“คืออะไร”
คนเมาโดนแอร์เป่าหน้าจนเคลิ้มหลับในระหว่างที่รถโดยสารส่วนตัวกำลังทะยานไปอีกจุดหมายปลายทางที่เธอไม่รู้เรื่อง
พอถึงก็โดนหิ้วปีกทุลักทุเลมาหย่อนทิ้งที่โซฟา โดยมีอีกสองหนุ่มนั่งทำตาปริบๆ สงสัย
“มึงเก็บมาจากไหนเนี้ย”
“คนนะไอ้ห่าไม่ใช่หมา” ซิมตอบพร้อมนั่งหอบหายใจ
ตัวเขาไม่ใช่ผู้ชายรักสุขภาพ กินเหล้า เมาหนัก สูบบุหรี่ไม่พักและเป็นมนุษย์ค้างคาว ตื่นกลางคืน นอนตอนเช้า
แบกแฟนสาวร่างน้อยนิด น้ำหนักแค่สี่สิบปลายๆ ก็หอบแฮก
“กลิ่นอะไรเนี้ยขิม”
“เหม็น?” ยิมหรี่ตามองอย่างสงสัย
ส่วนเจ้าของห้องชุดทำจมูกฟุดฟิด อาจเป็นเพราะโซ่ไม่อยากให้ห้องมีกลิ่นอื่นแปลกปลอม นอกจากกลิ่นบุรุษแมนๆ อย่างเช่น พอตไฟฟ้ากลิ่นโคค่าเป็นต้น
“หนักอะดิ!”
เมื่อตอบคำถามคนสนิทซิมก็ยกแก้วทรงเตี้ยบรรจุน้ำสีชาแก้ซดดับกระหาย
“มึงพาเขาไปนอนที่อื่นดีกว่ามั้ย” เจ้าของห้องไม่โฟกัสหน้าจอทีวีตั้งแต่มีสตรีขี้เมามากรน โซ่ไม่มีสมาธิลุ้นบอลเลยตั้งแต่ซิมแบกขิมมานอนคาโซฟา
“ในห้องเหรอ ขอบคุณมากๆ”
“ห้องมึง! ไม่ใช่ห้องกู”
“กูลุ้นบอลอยู่”
เด็กรัฐศาสตร์หน้าหวานออกท่าทางราวกับลงไปแข่งด้วยตัวเอง แล้วเมื่อนักเตะจากทีมดังหวดแข้งอัดลูกหนังพุ่งใส่ตาข่าย นายทวารมือก้าวกระโดดปัดสุดตัวจนลูกกระเด็นออกหลังประตู
แฟนบอลขอบสนามลุ้นจนตัวโก่งแต่เป็นอันต้องร้องโห่เพราะเสียดาย
ซิมก็เช่นกัน
มีเพียงอีกฝั่งที่ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มดีใจที่นายประตูซูเปอร์เซฟ ทำงานคุ้มค่าตัว
“หนวกหูเว้ย!!”
...
สามหนุ่มหันมองเจ้าของเสียง คนเมาออกฤทธิ์อีกแล้วโดยการลุกขึ้นยืนบังจอทีวีขนาดยักษ์
“ขิมหลบ”
“หลบทำไม”
“อย่าบังทีวี”
“มีอะไรให้ดู อ๋ออออ”
เมื่อเธอหันมองจอก็รู้ความจริง กีฬาที่ผู้ชายกว่าร้อยละเจ็ดสิบของประชากรโลกชื่นชอบและติดตามนี้เอง
“ถ้าเมาขนาดนี้เป็นกูไม่เก็บกลับมาหรอกนะ”
“นี้นาย! อ ไอ้ขี้เก๊ก!”
“ฮะ!?”
“ตึงขนาดนี้ หน้าไม่เป็นตะคริวบ้างเหรอฮะ”
“ขิม..!!”
ฮาๆๆ
ยิมหัวเราะร่าเพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักมักจะกดหน้านิ่งตลอดเวลา โซ่ไม่ใช่คนขี้เก๊กเหรอแต่มันนิ่งจนเป็นสันดานไปแล้ว
จะกิน จะนอน จะเดิน จะขี้ หน้ามันก็อย่างนี้แหละไม่ใช่เพราะเก๊ก
“ขิมมานอนเดี๋ยวนี้”
“ไม่!”
“ขิม!!”
“สงสัยมานานแหละ ว่าหน้าเนี้ยจะตึงไปไหน”
“เช็ด...”
คนเมาเดินตรงใส่ฝ่ายชาย
ขิมดึงแก้มของใบหน้าคมคายและก็ตีแก้มแปะๆๆ ก่อนจะจับหัวโซ่ส่ายไปส่ายมาอย่างลืมตัว
“เอาแฟนมึงไปเก็บเดี๋ยวนี้เราไปซิม” โซ่ล็อกข้อมือน้อยของขิมไว้แน่นและจ้องตาคนเมา
เพียงแต่สาวเจ้าก็ยังคงดื้อดึงจะขี้หน้านิ่งๆ ของคนขี้เก๊กเล่นอยู่ดี
“ขิม! หยุด!”
“ขี้เก๊ก ๆ ๆ”
“เอาออกไปนอกนอกห้องกูเลย”
“เดี๋ยวบอลจบแล้วกูพากลับ”
“งั้นก็ดูแฟนมึงดีๆ”
“ขี้เก๊กๆๆ”
“งั้นกูขอพาไปนอนในห้องนะ”
“เออ!” เจ้าของห้องพยายามสะกดหน้าตัวเองให้นิ่งจนรูจมูกพะงาบๆ หุบๆ บานๆ
ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมาเล่นหน้าเล่นหัวเขาแบบนี้สักครั้ง ถ้าจะเล่นหัวก็หัวล่าง ไม่ใช่หัวบน
“อื้อออ...”
“นอนอยู่ในนี้เลยนะขิม”
“ฮะ..ไม่เอา”