รักล้มโต๊ะ EP.25

1058 Words
“อ้าว! ว่าไงลูก” “สวัสดีค่ะ ซิมอยู่มั้ยค่ะ” “อ้าว...ไม่ได้อยู่กับเราเหรอ” เพราะกระดาษใบนั้นทำเอาขิมต้องกลับบ้านมาดูพ่อแม่แฟน เธอติดต่อซิมไม่ได้เช่นเดิม คอนโดก็เข้าไม่ได้เพราะไม่มีคีย์การ์ด โทรไปก็ตัดสาย ปิดเครื่อง ที่เดียวที่เหลือก็คือบ้านพ่อแม่ น้านากับสามีจะยังสุขสบายดีหรือเปล่า มีใครมาข่มขู่แบบที่เธอเจอไหม “พอดีขิมมาหาแม่ค่ะแล้วโทรหาซิมไม่ติด” “ก็คงอยู่ที่คอนโดล่ะมั้ง” แม่ซิมพูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่รู้ว่าตอนนี้ไม่ได้เช่าอยู่ที่นั่นแล้ว ...แล้วซิมไปอยู่ไหน “เราสองคนมีเรื่องอะไรหรือเปล่าฮะ” “เปล่าค่ะ! ก็เมื่อวานซิมบอกจะกลับบ้าน ขิมเลยคิดว่าอาจจะอยู่ที่นี่” การโกหกเป็นสิ่งไม่ดีและขิมก็เกือบจะหลุดปากพูดออกไปหลายครั้ง เธอควรช่วยแฟนด้วยวิธีไหนดีนะ ปัญหาที่เจ้าตัวพยายามปกปิดและก่อไว้มันกำลังจะแดงโร่ “ขิม! น้าฝากดูเจ้าซิมมันด้วยนะลูก” “ค่ะ! ได้ค่ะน้านา” เวลาสามทุ่มกว่าหญิงสาวกลับเข้าร้านโปรคลับ และวันนี้เหล่าหุ้นส่วนสองนายก็กำลังหัวหมุน ยิมอยู่ประจำตำแหน่งแคชเชียร์ตู้เกม ส่วนโซ่ก็กลายเป็นบาร์น้ำในเคาร์เตอร์ “HI!” “สวัสดี...” “เดี๋ยวขิมทำต่อเอง” “ไม่เป็นไร ก็วันนี้ลาไม่ใช่เหรอ เข้าห้องไปเถอะเดี๋ยววันนี้ยิมดูร้านเอง” สวัสดิการเริ่ดแท้ พนักงานสามารถลากิจได้ด้วย “ยิม...” “ว่า?” “ช่วงนี้เจอซิมบ้างมั้ย” “ได้ข่าวว่าเมื่อวานมาหาที่นี่ไม่ใช่เหรอ” “ใช่! แต่ขิมไม่ค่อยได้เจอซิมเลย โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ” “อันนี้ห่วง หรือว่า หวง” “ฮะ” คนคนเดียวกันทั้งขิมและยิมต่างก็อยากเจอแต่ก็ไม่รู้ว่าซิมไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ตัวเองก่อเรื่องสร้างปัญหาไว้แล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ ปล่อยให้ขิมตามหาไปทั่ว “ถ้าเจอฝากบอกให้...” “ให้อะไร” ยิมมีสีหน้าคาดคั้น ดูเหมือนว่ายิมจะไม่ให้ความร่วมมือ หรือว่าคนที่ส่งของขวัญมาขู่เมื่อตอนบ่ายก็คือยิม เฮียสอง คงหมายถึง สองเฮียนี้หรือเปล่านะ เพราะโซ่ก็เป็นหนึ่งในเจ้าหนี้ของซิมด้วย “ไอ้ยิม! ถ้างั้นมึงก็มาเปิดขวดเองเลย” “กูนับชิฟอยู่” “ให้แคชเชียร์เขาทำงานของตัวเอง มึงมานี้” บาร์น้ำที่ขายเครื่องดื่มทุกอย่างแล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง เด็กมัธยมก็สามารถดื่มเบียร์ไปด้วย แทงม้าไปด้วย ช่างเป็นสถานที่อโคจรที่ไม่ควรให้ลูกให้หลานก้าวเท้าเข้ามาเหยียบเลยจริงๆ “ลูกค้าเต็มร้าน เห็นมั้ย” “ขอโทษ..” เธอลืมไปว่าเด็กอีกคนก็ลางานเหมือนกัน ไอ้หนุ่มบาร์น้ำลากลับบ้านที่ต่างจังหวะเพราะเมียจะคลอดลูก “เมื่อกี้คุยอะไรกับมึน” “หึม...” เจ้าของร้านหน้านิ่งถามขิมด้วยน้ำเสียงกรรโชก ได้ยินแว่วว่าๆ ว่าใครห่วง ใครหวงอะไรสักอย่างและชื่อไอ้ซิมโผล่มาด้วย “เปล่า...ม ไม่มี อะไร” “ไปหาแฟนมาอิ่มมั้ยล่ะ” “...” คนฟังไม่รู้ว่าควรตอบอะไรดี ขิมทำงานตามหน้าที่และเวลาก็ล่วงเลยจนถึงเวลาปิดร้าน “รีบกลับป้ะ” “ไม่” “แดกเบียร์กัน” “เอาดิ่” สองหนุ่มนั่งดื่มเบียร์เงียบๆ ต่างคนต่างสนใจแต่แก้วของตัวเอง ยิมนั่งกระดกจากขวด มืออีกข้างก็กดมือถือเช็กธุรกิจร้านเหล้าที่ปิดบังธุรกิจสีเทา โต๊ะบอลสร้างกำไรได้งามกว่าน้ำเมาหลายเท่าตัว “ทำกับแกล้มให้กินหน่อยดิ่” “ตอนนี้นะ” “ทำไม...” คนหน้านิ่งเวลากึ่มๆ หน้าก็จะยิ่งดุขึ้น ก็นั่งกินเบียร์อยู่ตอนนี้ ไม่กินกับแกล้มตอนนี้แล้วจะกินตอนไหน “มึงก็กวนตีน จะให้เขาทำของอร่อยให้กินก็พูดกับเขาดีๆ สิวะ” ยิมละสายตาจากมือถือแล้วส่งยิ้มให้ขิม เป็นยิ้มที่แสยะออกมา เป็นยิ้มที่บ่งบอกว่าเต็มไปด้วยความประชดประชัน “อะไรก็ได้นะครับขิม ขออร่อยๆ แบบที่ทำให้แฟนกินนะครับ” “มึงต่างหากที่กวนตีน” “รอแปบหนึ่งนะ” สองคนแปลกนั่งรอที่โซฟาไม่นาน หมูมะนาวแซ่บจี๊ดจ๊าดกลับถั่วลิสงคั่วเกลือก็เสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ “เชี่ย!! ที่ร้านมีอะไรแบบนี้ด้วย” “แดกๆ เข้าไปเถอะอย่าพูดเยอะ” “หงุดหงิดอะไรของมึง” “มึงไง” “งั้นขิมขอตัวนะ” เมนูง่ายๆ ไม่ได้ทำยากมากมาย แค่ลวกหมูกินกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดและแตงกวาเย็นๆ ส่วนถั่วลิสงขิมเอาไว้ใส่ยำ เพราะสาวๆ ในร้านมักขอให้เธอทำยำกินแก้ง่วง “มากินด้วยกันดิ่” “ม ไม่เป็น ร ไร” “ทำไมอะ...” “พ พรุ่งนี้ ขิมต้อง ตื่นเช้า น่ะ” “ขิมไม่ต้องกินเบียร์ก็ได้ครับ แค่มากินกับแกล้มก็พอ เผื่อซิมโทรกลับมาไง” “อะไรของมึงวะ” หงุดหงิดครั้งที่ร้อยกับคำพูดที่ไม่เข้าหู ชวนขิมมานั่งกินด้วยก็ดีอยู่ แต่ต้องพูดชื่อไอ้ซิมเพื่อ... “ซิมทักมาเหรอ” “อ่านไลน์แล้วแต่ยังไม่ตอบ” “ฮะ..?” ประโยคทักทายสั้นๆ ของยิมขึ้นสถานะว่า ‘อ่านแล้ว’ ดังนั้นขิมจึงเปิดแชทของตัวเองบ้าง แต่ก็เหมือนเดิม ไม่อ่านตั้งแต่เมื่อวาน “ช่วยถามให้หน่อยสิว่าอยู่ไหน” “ใจเย็น เดี๋ยวกระต่ายก็ตื่นกันพอดี” “กระต่าย..?” “จะล่าเหยื่อก็ต้องใจเย็นๆ หลอกล้อรอให้เหยื่อตายใจก่อนสิ ผลีผลามไปเดี๋ยวเหยื่อก็วิ่งหนีเข้าป่า จับไม่ทันเดี๋ยวก็...” อึ๊ก...คนฟังแอบกลืนก้อนแข็งลงคอและเสียวสันหลังวาบ ยิมพูดว่า ‘เหยื่อ’ ฟังดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ และขิมควรจะเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยดีหรือเปล่านะ “เดี๋ยวก็อะไรวะ” คนเจ้าเล่ห์ตอบรับมุกตลกของเพื่อน “อดกินกันพอดี” ประโยคนี้ช่วยดึงสติโซ่ได้เช่นกัน เขาเองก็ควรจะ Keep cool ให้นิ่งแบบที่เคยเป็นมาสินะ รอเวลาจนกว่าเหยื่อตายใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD