“ฉันผิดเองที่เดินเข้าหาคุณในวันนั้น ทุกอย่างเลยเป็นแบบนี้” ภูเบศยกมือเสยผมที่ปรกหน้า ดวงตาเคลือบโทสะอ่อนแสงลงหลังเห็นน้ำตาคนตัวเล็ก “หยุดร้อง” ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดหน้ายื่นส่งให้ “เช็ดน้ำตาซะ” คำพูดห้วนๆ ไม่น่าฟัง “ไม่! ฉันไม่อยากรับของจากคนใจบาปอย่างคุณ” วราลีปฏิเสธเสียงห้วนไม่แพ้กัน “อยากโดนจัดหนักบนรถใช่ไหม เลิกปากดีกับฉันสักที หรือจูบเมื่อกี้มันยังไม่เด็ดพอ จะเอาอีกสักดอกไหมหะ!” พูดแล้วทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ “อย่านะ” วราลีร้องเสียงหลงรีบกระชากผ้าเช็ดหน้าออกจากมือหนา เช็ดคราบความเสียใจที่เขานั้นเป็นผู้ก่อ สายตาเกลียดชังส่งมอบให้เขาเป็นระยะๆ ผิดกับร่างสูงที่แอบมองเธอด้วยความรู้สึกคนึงหา และ… หวงแหน! “เธอ… ช่างเถอะ” ภูเบศทำทีเหมือนจะเอ่ยอะไรบางอย่าง “จะพูดอะไรก็พูดมาเถอะ มันคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการที่ต้องตกอยู่ในสภาพจำยอมแบบนี้อีกแล้ว” คำพูดของเจ้าหล่อนกระตุ้นไฟโทสะให้ลุกโชนอีกครั้

