บทที่ 2.1 - ผู้ชายหน้าดุ (ซุ่มซ่ามจนได้เรื่อง)

1024 Words
“เชิญครับท่าน” ร่างสูงสง่าก้าวเท้าลงจากรถลีมูซีนคันหรู เครื่องหน้าหล่อเหลาราวสวรรค์สร้างหันมองเหล่าบอดี้การ์ดพลางยิ้มมุมปาก สอดมือล้วงกระเป๋ากางเกงสาวเท้าเดินเข้าไปยังร้านอาหารอิตาลีชื่อดัง ทุกย่างก้าวหนักแน่นและมั่นคง ทันทีที่ชายหนุ่มรูปงามเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งภายในอาคารเรียบหรู แขกเหรื่อที่เป็นสุภาพสตรีต่างหันมองเป็นตาเดียว “โห! ยังกับหลุดมาจากแมกกาซีนแหน่ะ” กุ๊กไก่อ้าปากค้าง รีบสะกิดวราลีให้หันมอง “ลีๆ ดูผู้ชายคนนั้นเร็ว” “ทำไมเหรอคะ?” วราลีวางมือจากการเช็ดแก้วเปล่าแล้วหันตามเสียงเรียก “หล่อไหม?” หญิงสาวแทบลืมหายใจยามสายตาสบประสานชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ภายใต้ชุดสูททรงเสน่ห์ นัยน์ตาคมกริบดุจเหยี่ยวร้าย จมูกโด่งคมสันเป็นแท่งยาว ริมฝีปากหยักลึกน่าค้นหา คิ้วหนาเข้มยิ่งเสริมให้กรอบหน้าคมคายทรงพลังและเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูน่าเกรงขามขึ้นเป็นเท่าตัว “ใครหรือพี่?” “หนึ่งในนักธุรกิจที่มาเปิดห้องวีไอพีของร้านเราไง เห็นว่าเดี๋ยวจะมีเพื่อนมาเพิ่มอีกสองคน” มิน่าล่ะ… ถึงได้ดูดีเหลือเกิน “หล่อไหมลี?” กุ๊กไก่กระทุ้งศอกถามอีกครั้ง “หล่อสิพี่ หือ หน้าหุ่นยังกับพระเอกหนังฮอลลิวูดแหน่ะ” วราลีชมเปาะ ทั้งสองสาวหัวเราะคิกคักตามประสา “มัวแต่ขำอะไรของเธอกุ๊กไก่ ไปเตรียมตัวเสิร์ฟอาหารเร็ว” เจตรินเดินมาที่เคาน์เตอร์บาร์ต่อว่า แต่หันไปส่งยิ้มหวานให้พนักงานสาววัยละอ่อน “น้องลีจ๊ะ เดี๋ยวไปช่วยพี่กุ๊กไก่เสิร์ฟอาหารทีนะจ๊ะ” สายตาที่ใช้มองวราลีหยาดเยิ้มไม่เหมือนเจ้านายมองลูกน้องสักนิด “แหม… พี่เจตขา สองมาตรฐานจังเลยนะคะ เมื่อกี้ลีก็หัวเราะอยู่กับกุ๊กไก่แต่ไหงว่าเราคนเดียว” กุ๊กไก่เบ้ปาก เจตรินทำขึงตาใส่ก่อนรีบตัดบทดื้อๆ “มัวแต่พูดมาก ไปทำงานได้แล้ว อย่าให้คุณเขารอนาน คนนี้ยิ่งเนี๊ยบๆ อยู่ด้วย” เจตรินหมายถึงนักธุรกิจหน้าหล่อ “พี่เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะน้องลี” เจตรินยกมือชูกำปั้นสู้ๆ วราลีได้แต่ยิ้มแห้งๆ ก่อนรีบเดินตามกุ๊กไก่ไป อาหารมากมายวางเรียงรายอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์บริเวณโซนครัว การจัดจานบ่งบอกถึงความปราณีตและความร่ำรวยของผู้บริโภค ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าราคาที่พวกเขาจ่ายนั้นสูงค่าเพียงใดหากเทียบกับอาหารมื้อแสนธรรมดาของคนรากหญ้าเยี่ยงเธอ วราลีและกุ๊กไก่ตกลงกันแล้วว่าใครจะยกจานไหนเสิร์ฟก่อนหรือหลัง ทั้งสองสาวหยิบยกถาดมีระดับอย่างชำนิชำนาญ พนักงานดูแลลูกค้าวีไอพีเปิดประตูกระจกนำพาเธอเข้าไปทำหน้าที่ด้านใน หัวใจของวราลีเต้นระทึก มือไม้เย็นเฉียบจนเจ้าตัวรู้สึกได้ เครื่องปรับอากาศสาดกระทบผิวกายให้หนาวสะท้าน ร่างสูงสง่านั่งไขว่ห้างอยู่ที่โซฟาสีดำกำมะหยี่เรียบหรู วงแขนแกร่งวางพาดพนักโซฟา จ้องมองหญิงสาวทั้งสองด้วยสายตานิ่งๆ วราลีก้มหน้าก้มตาเดินไปยังโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง มือเรียวนำอาหารแต่ละจานวางเรียงอย่างสวยงามตามที่ได้รับการอบรมจากทางร้าน ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะอาหาร เขาหยุดยืนอยู่ข้างๆ วราลี ไอมนุษย์ที่เธอสัมผัสได้ช่างเย็นยะเยือก ประหนึ่งว่าเขาคือมัจจุราชตัวร้ายที่กำลังยืนรอรับดวงวิญญาณของเธอ มือเรียวสั่นระริกยามวางเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ หางตาชำเลืองมองแขกวีไอพี กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ตามแบบฉบับผู้ชายดูแลตัวเองปะทะปลายจมูกโด่งรั้น วราลีลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ “ฉันไม่ชอบดื่มน้ำชา” เสียงเข้มๆ เอ่ยขึ้น วราลีขนลุกซู่ “เปลี่ยนเป็นน้ำแร่ให้ที” “ค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ” วราลีพยักหน้าถี่กระชั้น เธอพยายามระงับน้ำเสียงไม่ให้สั่น ร่างบางถอยเท้าออกห่างจากโต๊ะอาหารเพียงสามก้าว ก่อนหมุนตัวหมายจะเดินออกจากห้องเพื่อไปเตรียมน้ำแร่ตามความประสงค์ของลูกค้า แต่โชคชะตาช่างเล่นตลก เมื่อจังหวะที่เจ้าหล่อนหมุนร่างนั้น เท้าเล็กทั้งสองข้างกลับขวิดไขว้จนทำให้เสียหลักล้มใส่ร่างของผู้ชายตัวโตเต็มแรง “ว๊าย!” วราลีทาบทับอยู่บนเรือนร่างกำยำ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หัวใจแทบหยุดเต้นในบัดดล “ขะ ขอโทษ ขอโทษค่ะ” วราลีรีบลุกขึ้นอย่างไว หญิงสาวโค้งคำนับลุแก่โทษ เนื้อตัวสั่นเทิ้มเพราะทันเห็นสายตานิ่งๆ ที่สามารถฆ่าคนได้ของเขา “ซุ่มซ่าม!” เสียงเข้มเล็ดลอดไรฟัน มือหนาปัดฝุ่นที่เกาะติดเสื้อสูทราคาแพง ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าเขาไม่พอใจ วราลีอยากร้องไห้เหลือเกิน เขาเป็นถึงลูกค้าระดับวีไอพี เธอถูกไล่ออกแน่ๆ งานนี้ “ขอประทานโทษอีกครั้งนะคะ” สาวเจ้ายกมือไหว้หลุนๆ “ฉันต้องการน้ำแร่… เดี๋ยวนี้!” หางเสียงตวัดใส่ “ค่ะๆ ระ รอสักครู่นะคะ” วราลีก้มศีรษะให้เขาอีกครั้งก่อนรีบหันหลังเดินออกจากห้อง พนักงานดูแลลูกค้าวีไอพีมองหน้าเธออย่างตั้งคำถาม ทว่าเวลานี้เธอไม่มีอารมณ์เล่าให้ใครฟังทั้งสิ้น ต้องรีบไปเตรียมน้ำแร่มาให้เขาก่อน ขืนชักช้าจะถูกดุเอาได้ บ้าที่สุดเลย! ร้อยวันพันปีไม่ล้ม นึกยังไงมาล้มวันนี้นะ “ขะ ขอน้ำแร่ที่หนึ่งค่ะ” วราลีเอ่ยกับกุ๊กไก่ “ลีเป็นอะไร ทำไมหน้าซีดแบบนี้” ใบหน้าหวานไร้สีเลือด ดวงตากลมโตปริ่มคลอน้ำตา “เห้ย! ลีเป็นอะไร จะร้องไห้เหรอ ร้องไห้ทำไม” กุ๊กไก่ร้องเสียงหลง เจตรินที่ยืนตรวจความเรียบร้อยได้ยินจึงรีบปรี่เข้ามาหา “น้องลีเป็นอะไรครับ ใครทำอะไรน้องลี” วราลีมองหน้าเจตรินกับกุ๊กไก่สลับไปมา “มะ เมื่อกี้ ละ ลี… ลี… ซุ่มซ่ามล้มทับแขกวีไอพีค่ะ” เจตรินอ้าปากค้าง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD