ตอนที่ 4 เธอยอมพี่เอง

1521 Words
ฉลามกระตุกยิ้มจ้องมองหญิงสาวที่หลบสายตาเขาอยู่ตลอด ยกมือวนเวียนข้างพวงแก้มสีเลือดฝาด ทั้งสองยืนอยู่ใกล้กันมากจนได้กลิ่นของลมหายใจผสมกับกลิ่นเหล้า “ทำไมถึงไม่คุยกันเลยล่ะ ทำอย่างกับไม่รู้จัก” “ก็ไม่ได้อยากรู้จัก แล้วก็ช่วยขยับออกไปด้วย” น้ำค้างเอ่ยเสียงแผ่ว หลุบตามองต่ำ “แต่เราดันรู้จักกันแล้วนี่สิ ทำไงดี” หนุ่มหล่อยกยิ้มยียวน ส่งมือหนาเชยปลายคางสาวสวยเชิดขึ้นจ้องสบตากัน จากนั้นก็ส่งมืออีกข้างรั้งท้ายทอยของเธอเข้ามาใกล้ “อื้อ” น้ำค้างส่งเสียงต่อต้านในลำคอพร้อมกับมือพยายามผลักไส เพียงชั่วครู่ก็เหมือนว่าเธอจะเผลอตัวคล้อยตามความรู้สึกนุ่มหยุ่นที่ได้รับ เผยอปากเปิดรับเอาลิ้นร้ายเข้าไปในโพลงปากหวาน ฉลามตวัดลิ้นสากต้อนลิ้นของสาวสวยแสนเย่อหยิ่งจนจนมุม ดูดดื่มเอาน้ำหวานที่คละเคล้ากับรสเหล้าลงคอ และดูเหมือนว่าเธอจะต้านทานอารมณ์ที่เกิดขึ้นไม่อยู่ เผลอตวัดลิ้นหยอกล้อเขาอย่างไม่ประสาส่งผลให้ชายหนุ่มลมหายใจติดขัด ตัดสินใจผละริมฝีปากออกก่อนที่จะควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ กระตุกยิ้มจ้องมองคนที่หายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วงและหลุบตามองต่ำ “หึ” เสียงแค่นหัวเราะของคนตรงหน้าทำให้น้ำค้างได้สติ ช้อนดวงตาที่ไหววูบขึ้นมองคนฉวยโอกาสกับเธอเป็นครั้งที่สอง ผลักแผงอกของเขาให้ขยับห่างออกไปด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด ก่อนจะง้างฝ่ามือขึ้นหมายจะตบเรียกสติคนเมา แต่ก็ถูกเขาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ น้ำค้างจึงสะบัดแขนออก เอ่ยต่อว่าเขาแทน “พี่มันบ้า ฉันบอกแล้วไงว่ามีแฟนแล้ว ไม่เข้าใจหรือไง” “แล้วไง เธอยอมพี่เอง” น้ำค้างเบิกตากว้าง ยืนชะงักไปชั่วครู่กับประโยคที่ดังเข้าหูและท่าทางไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระของเขา ยอมรับว่าเธอขาดการยับยั้งชั่งใจเอง แต่ก็ไม่คิดว่าจะพลาดยอมให้เขาจูบอยู่นานสองนาน แล้วเธอก็เผลอจูบตอบเขาไปอีก เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ “อย่ามาทำแบบนี้กับฉันอีก ฉันไม่ชอบ” “บอกตัวเองดีกว่าไหมว่าอย่าใจง่ายกับพี่อีก ไม่งั้นครั้งหน้ามันอาจจะไม่ใช่แค่จูบ” คิ้วเรียวสวยขมวดเป็นปม จ้องมองคนตรงหน้าดวงตาแข็งกร้าว นอกจากรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาแล้ว อย่างอื่นก็คงไม่มีอะไรดีแม้กระทั่งปาก เธอยกสองมือผลักแผงอกของเขาอีกครั้งด้วยความโมโห สะบัดหน้าบึ้งตึงเดินหนีกลับไปที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว ฉลามกระตุกยิ้มชอบใจไหวไหล่ใส่แผ่นหลังของเธอ ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ากางเกงเข้าไปหาเพื่อนที่นั่งอยู่กับไอรินสองต่อสอง ใบหน้าสวยร้อนผ่าวกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า เมื่อน้ำค้างเข้าไปถึงโต๊ะก็เห็นนายน์กำลังจูบกับไอริน เธอรู้ว่าเพื่อนเป็นคนรักอิสระไม่คบใครจริงจัง แต่ก็ไม่คิดว่าจะประเจิดประเจ้อกันแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เธอเห็นไอรินจูบกับผู้ชายทั้งที่ไม่ได้อยู่ในที่ลับตาคน ฉลามตามหลังมาก็เข้าไปนั่งข้างเพื่อนของเขาอย่างไม่ใส่ใจราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ ยกยิ้มมุมปากพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเธอ แล้วพยักเพยิดใบหน้าหล่อคล้ายกับบอกให้เธอนั่งลง และดูเหมือนคนทั้งสองจะรู้ตัวว่ามีคนเข้ามานั่งด้วยจึงผละริมฝีปากออกจากกัน แล้วหันมาดื่มเหล้ากันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อกข้างซ้ายของน้ำค้างกลับเต้นไม่เป็นส่ำอย่างแปลกประหลาด พลันทำให้เธอนึกถึงภาพจูบกับฉลามไม่กี่นาทีก่อนหน้า มือเล็กรีบคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มดับความร้อนบนใบหน้าและลบภาพที่วนเวียนอยู่ในหัว “ไปไหนมาวะ” นายน์เอ่ยกับฉลาม “ห้องน้ำ” “ไปนานนะมึง หรือแอบไปหาสาว” นายน์กระตุกยิ้มอย่างรู้ทัน ฉลามแค่นหัวเราะในลำคอ ส่งสายตาคู่คมจ้องสาวสวยตรงหน้าที่ทำสายตาเลิ่กลั่กอย่างคนเสียอาการ ยกแก้วเหล้าที่เพิ่งชงใหม่กระดกลงคอก่อนจะส่งเสียงสำลัก แค่ก แค่ก “เบา ๆ ก็ได้ แกจะรีบเมาไปไหน” ไอรินเอ่ยพลางลูบหลังให้เพื่อนรัก พร้อมกับส่งสายตาจับผิดโดยไม่ได้ถามอะไร คืนนี้น้ำค้างมีท่าทีแปลกผิดปกติ แต่เธอมั่นใจมากว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับน้ำค้างแน่ ๆ หรือว่าที่หายออกไปเข้าห้องน้ำเมื่อกี้ แล้วเพื่อนของนายน์ก็ยังเดินตามหลังกันออกไปด้วย ทั้งสองจะมีเรื่องกันอีก “อีชะนี ฉันกลับมาแล้วจ้า” เสียงเฟญ่าดังมาแต่ไกล สาวสองเดินโซเซเข้ามานั่งข้างน้ำค้างด้วยความเหนื่อยหอบ ก็เล่นผลัดไปเต้นกับคนนั้นที คนนี้ที เพิ่งจะได้กลับมานั่งก็ปาไปเกือบชั่วโมง “หายไปเลยนะอีเฟรม นึกว่าลืมว่าโต๊ะที่แกนั่งอยู่ตรงนี้” “ว้าย อีดอก กูบอกว่าอย่าเรียกชื่อจริง แกก็ปล่อยให้ฉันไปหาหนุ่ม ๆ บ้างสิยะอีน้ำค้าง ไม่เห็นเหรอ คืนนี้มีแต่ผู้หล่อ ๆ น่ากินกันทั้งนั้น” เฟญ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงสะดีดสะดิ้ง กวาดสายตามองหนุ่มหล่อโต๊ะรอบข้าง ออกมาเที่ยวทั้งทีก็ต้องปล่อยจอยกันหน่อย จะให้มานั่งอยู่กับโต๊ะก็คงน่าเบื่อ สองสาวต่างหลุดขำชอบใจกับประโยคของเพื่อน พอได้แซวเฟญ่าเล่นก็ทำให้น้ำค้างคลายความอึดอัดที่เกิดขึ้นไปได้บ้าง จากนั้นทุกคนก็นั่งดื่มกันต่อจนเกือบตีหนึ่ง แล้วแยกย้ายกันกลับที่พักของตัวเอง ***** ช่วงบ่ายของวันเสาร์ “คุณคะ วันนี้หนูน้ำค้างกลับมานอนที่บ้าน ฉันเข้าครัวทำอาหารเองดีไหมคะ” เสียงของช่อผกาภรรยาคนใหม่ของชยันต์ ผู้เป็นเจ้าของโรงแรมชื่อดังใจกลางตัวเมือง เอ่ยขึ้นขณะกำลังยืนนวดไหล่ให้สามีในห้องทำงานของบ้านหลังใหญ่ หญิงวัยกลางคนแต่งตัวดูดีด้วยเสื้อผ้าแบนด์หรู และดูแลผิวพรรณด้วยกันเข้าคลินิกเสริมความงามอยู่เป็นประจำ ทำให้มีหน้าตาราวกับอายุสามสิบต้น ๆ ได้เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้พร้อมกับลูกสาววัยสิบเก้าปี หลังจากได้แต่งงานกับชยันต์เมื่อปีก่อน ซึ่งตอนนี้ยิปโซลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอที่สามีเก่าทิ้งไว้ให้เลี้ยงดูตามลำพังก็เรียนอยู่คณะเดียวกันกับน้ำค้าง แต่อยู่ปีหนึ่ง หวังว่าเรียนจบมาจะได้รับความไว้วางใจจากสามีใหม่ให้ลูกสาวของเธอได้บริหารงานโรงแรมที่ชยันต์เป็นผู้ก่อตั้งร่วมกับภรรยาเก่าของเขา น้ำค้างมานอนค้างที่บ้านวันนี้ ช่อผกาก็หวังจะเอาใจสามีซึ่งกำลังป่วยเป็นหวัดด้วยการโชว์ฝีมือการทำอาหาร ซึ่งน้อยครั้งที่เธอจะลงมือเข้าครัวเอง ส่วนใหญ่จะเป็นแม่บ้านของที่นี่เป็นคนจัดเตรียมเอาไว้รอทุกมื้อ “อื้ม ก็ดีเหมือนกัน น้ำค้างชอบกินแกงเผ็ดไก่ฝีมือ…” ชยันต์หมายจะเอ่ยถึงภรรยาเก่า แต่ก็ต้องเก็บถ้อยคำนี้เอาไว้ “ผมรบกวนคุณทำเมนูนี้ด้วยนะ อ้อ แล้วก็อย่าลืมของโปรดของหนูยิปโซล่ะ ผมไม่อยากให้ลูกทั้งสองคนน้อยใจ” “ได้ค่ะ ฉันจะทำให้สุดฝีมือ” น้ำค้างมาถึงบ้านประมาณสามโมงเย็นก็รีบขึ้นไปหาผู้เป็นพ่อบนห้องทำงานที่อยู่ชั้นสอง ชายวัยกลางคนเผยรอยยิ้มต้อนรับลูกสาวสุดที่รัก เธอเดินเข้ามาย่อตัวลงนั่งข้างเก้าอี้แล้วสวมกอดที่แขนของผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน “สวัสดีค่ะพ่อ หนูคิดถึงพ่อจัง” “คิดถึงทำไมไม่กลับมาหาพ่อบ่อย ๆ” “พ่อมีคนอยู่เป็นเพื่อนแล้วนี่คะ อีกอย่างอยู่คอนโดหนูก็เดินทางไปเรียนสะดวกกว่า” เธอไม่อยากทำให้พ่อคิดมาก เลยไม่ได้พูดถึงเหตุผลแท้จริงว่าเป็นเพราะภรรยาใหม่ของท่านนั่นแหละที่ทำให้เธอลำบากใจจนไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ “ลูกน่าจะกลับมาเมื่อวานจะได้นอนค้างสักสองคืน” ชยันต์ลูบเรือนผมของลูกสาวอย่างทะนุถนอม แต่ก็เข้าใจว่าน้ำค้างโตขึ้นมากแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเอง คงอยากมีเวลาส่วนตัว แล้วตอนนี้บ้านของเขาก็ไม่เหมือนเดิม มีสมาชิกใหม่เข้ามาอยู่เพิ่มอีกสองคน “...” หญิงสาวไม่ได้ตอบกลับอะไร เพียงแต่คลี่ยิ้มให้ผู้เป็นพ่อเท่านั้น ในใจก็หวังว่ากลับมาครั้งนี้จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธออีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD