ตอนที่ 3

755 Words
“ฉึก!” กระบี่ในมือของชินอ๋องเฉิงหยางเล่อฟันเข้าที่คอของศัตรูที่อยู่ข้างหลังนางอย่างเลือดเย็น ก่อนจะก้มลงมองบุตรสาวของแม่ทัพหลิน ผู้ถูกองค์ฮ่องเต้แต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพหญิงคนแรกของแคว้น แทนพี่ชายที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกลอบสังหารก่อนออกเดินทาง “หึ! นี่น่ะหรือ คือผู้ที่ถูกกล่าวขานว่ายอดหญิงผู้เก่งกาจ” ชินอ๋องเฉิงหยางเล่อยิ้มเยาะ คำร่ำลือที่ว่านางนั้นเก่งกาจรอบด้านคงจะเป็นแค่ข่าวลือสินะ แค่เห็นเขายกดาบขึ้น นางก็ถึงกับเป็นลม ดูแล้วคงไม่ต่างอะไรกับหญิงสาวธรรมดาไร้ค่า หากองค์ฮ่องเต้รู้เรื่องนี้ ตระกูลหลินของแม่ทัพใหญ่คงไม่เหลือชื่อแน่ที่ทูลความเท็จ ร่ายคุณงามความเก่งของบุตรสาว เพียงเพื่ออยากครอบครองตำแหน่งรองแม่ทัพไว้ที่ตระกูลของตัวเอง โดยไม่คิดถึงว่าจะออกมาทำศึกได้หรือไม่ “เพ่ยซาน พาตัวนางออกไป” ชินอ๋องหันไปสั่งองครักษ์คนสนิทเสร็จ มือหนาก็จับสายบังเ**ยนแน่น ก่อนจะทะยานเข้าหาศัตรูที่อยู่ตรงหน้า ศึกสงครามของแคว้นต้าเหลียงกับแคว้นหวง ยืดเยื้อมานานหกเดือนแล้ว เหล่าทหารต่างบาดเจ็บล้มตาย เสบียงอาหารก็เริ่มร่อยหรอ จนเขาต้องนำทัพนำเสบียงอาหารมาสมทบ และที่เป็นเช่นนี้ คงไม่พ้นการนำทัพของคนไม่ได้เรื่องของรองแม่ทัพหญิงคนนี้แน่ .............. ร่างบางนอนกระสับกระส่ายด้วยอาการปวดหัวรุนแรง ภาพเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งไหลย้อนเข้ามาในหัว จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เหมือนชายชราต้องการให้เธอรู้ว่าเจ้าของร่างเป็นใคร แต่ในทุกเรื่องราวกลับมีแต่ภาพครอบครัวของนาง นอกจากนั้นไม่เห็นอะไรนอกจากภาพสีดำวิ่งทับซ้อนกันไปมา ผู้หญิงที่ชื่อหลินฟางซี มีบิดาผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้นต้าเหลียง ถึงจะดูดุดัน น่าเกรงขาม แต่กลับมีแต่ความอ่อนโยนให้กับครอบครัว ส่วนมารดานั้นก็อ่อนโยนอ่อนหวาน พี่ชายที่เป็นรองแม่ทัพก็อบอุ่นมีแต่รอยยิ้มประดับใบหน้า แต่หญิงสาวแสนงามกลับมีหัวใจที่เย็นชาไร้ความรู้สึก แตกต่างจากคนในครอบครัวโดยสิ้นเชิง ‘ออกไปจากร่างของข้า! เดี๋ยวนี้’ นางตะโกนก้องบอกเธอในหัว “โอ๊ยปวดหัว ข้าไปไม่ได้!” มาลีร้องบอกเจ้าของร่าง ถึงอยากจะคืนร่างให้เจ้าของแต่เธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ‘ออกไป! นังผีร้าย ข้าบอกให้เจ้าออกไป! เดี๋ยวนี้’ หลินฟางซีตะโกนอยู่ในหัวของมาลี “โอ๊ย! ข้าปวดหัว พอแล้วๆ อย่าตะโกนแบบนี้เลย” มาลียกมือขึ้นกุมขมับของตัวเอง และร้องบอกคนที่ตะโกนอยู่ในหัวเธอ “นางเป็นอะไร” ชินอ๋องยืนกอดอกถามหมอหลวง เขามองหญิงสาวที่นอนกุมขมับดิ้นทุรนทุรายอยู่บนเตียงด้วยรอยยิ้มเย็น ผู้หญิงไร้ค่าแบบนางหากไม่ใช่เพราะเป็นบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่ ที่ตอนนี้กำลังนำทัพสู้รบอยู่หน้าด่านกับพวกศัตรู เขาคงได้บั่นคอนางไปนานแล้ว ไม่เสียเวลาให้หมอมาตรวจเช่นนี้หรอก “ทูลชินอ๋อง กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ แต่ชีพจรของนางปั่นป่วนมาก หากปล่อยไว้แบบนี้ ชีพจรของนางอาจแตกซ่านได้และนางอาจจะไม่รอด” คิ้วหนาขมวดเล็กน้อย เดินเข้าไปจับชีพจรของนาง ลมปราณที่แน่นหนานั้นบ่งบอกว่านางมีวิทยายุทธที่แข็งแกร่ง และอาจจะแข็งแกร่งถึงขนาดเทียบเท่าเขาที่เป็นศิษย์เอกสำนักมังกรทมิฬก็เป็นได้ นี่เขามองนางผิดไปหรอกหรือ “หึ! สมคำร่ำลือจริงๆ” มือหนาจับตัวหญิงสาวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะกดฝ่ามือลงบนแผ่นหลัง แล้วส่งลมปราณเข้าช่วยควบคุม แต่มันก็ไม่ง่ายเลย เมื่อลมปราณที่แน่นหนานั้นวิ่งปั่นป่วนไปตามเส้นชีพจร หากควบคุมไม่ได้ไม่ตายก็อาจจะเสียสติหรือพิกลพิการ “ตุ๊บ!” ฝ่ามือหนาซัดเข้าที่หลัง สกัดลมปราณที่ไหลย้อนกลับ “อั๊ก! ...โอ๊ย...ท่านทำอะไร” มาลีสะดุ้งตัวงอด้วยความเจ็บปวด มองเลือดที่ไหลหยดออกจากปากตัวเองแล้วแทบอยากจะลุกขึ้นเตะคนหน้าหล่อ นึกเสียใจที่ไปหลงปลื้มคนหล่อแต่ไร้หัวใจ ทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD