ตอนที่ 4

1208 Words
“นั่งนิ่งๆ!” เขาดุเสียงเข้ม ซัดฝ่ามือเข้าที่หลังของเธออีกหลายครั้ง “อั๊ก! ...โอ๊ยยยย...แค่กๆๆ ...เจ็บ.” มาลีในร่างอีกคนร้องขึ้นเสียงดัง ซัดเสียแรงป่านนี้ปอดม้ามของเธอไม่ทะลุแล้วรึ ซาดิสม์แบบนี้ถึงหล่อแค่ไหนเธอก็ต้องขอโบกมือลา! “ตุ๊บ!” มือหนาซัดเข้าอีกครั้ง เป็นการหยุดการรักษา “อั๊ก! ..โอ๊ย!. ฮ้วย! บอกว่าเจ็บ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือยังไง ซัดเอาๆ ยิ่งกว่ากระสอบทราย!” เธอผลักตัวเขาออก คลานออกจากเตียงไปยืนมองเขาตัวงอด้วย สีหน้าโกรธจัด เจ็บปวดรวดร้าวไปตามลำตัวและหลังจนจะยืนไม่อยู่ “บังอาจ!” ชินอ๋องลุกขึ้นชี้หน้าหญิงสาวด้วยแววตาเหี้ยม “ไม่บังอาจหรอก แต่ข้าไม่ชอบการกระทำของท่าน ผู้ชายอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย ไม่เคยมีคนสั่งสอนหรืออย่างไร ว่าไม่ให้ ทำร้ายผู้หญิง แต่นี่อะไร! ทุบตีจนข้าเลือดตกยางออก!” เธอชี้หน้าด่ากลับ จะฆ่าก็ฆ่าเลย เพราะเธอเองก็ไม่อยากอยู่ต่อแล้วเหมือนกันกับชีวิตบัดซบที่ต้องยืมร่างของคนอื่นหายใจแบบนี้ “เจ้า!” มือหนาชักดาบออกจากข้างกาย ตวัดไปจ่อที่คอของ หญิงสาวด้วยความโกรธที่ถูกลบหลู่ แต่หญิงสาวกลับไม่กลัว เชิดหน้ารับ คมดาบ พร้อมกับจ้องมองด้วยแววตาแน่วแน่ ไม่กลัวตายแม้แต่น้อย “จะฆ่าก็รีบฆ่า ต่อให้ตายอีกร้อยรอบ ข้าก็ไม่กลัว” ดวงตาคู่สวยที่มองมานั้นมีแต่แววเจ็บปวดปนเศร้า จนใจแกร่งกระตุกอย่างที่ไม่เคยเป็น “ทหาร...เอานางไปขัง โทษฐานที่นางต่อปากต่อคำกับเราโดยไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!” ชินอ๋องสั่งเสียงเหี้ยม ก่อนจะเดินหนีอย่างหัวเสีย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่านี่คือคนที่ใคร ๆ ต่างกล่าวขานว่า เย็นชาไร้หัวใจเหมือนเจ้าหญิงน้ำแข็ง แต่ที่เห็นคือผู้หญิงที่ต่อปากต่อคำไม่หยุด..... ในคุกมืด ร่างบางนอนตัวสั่นเทาเพราะพิษไข้ คุกมืดในตอนกลางคืนนั้นช่างหนาวเหน็บ เจ็บปวดไปตามร่างจนแทบจะแตกหัก “สวรรค์ นี่ท่านกำลังเล่นตลกอะไรกับข้า .ฮึกๆๆ แม่นางหลินฟางซีได้โปรดมาเอาร่างของเจ้ากลับไป ข้าบอกให้มาเอาร่างของเจ้ากลับไป เจ้า ได้ยินข้าหรือไม่” เธอพูดปากสั่น นอนขดกอดตัวเองอยู่บนแคร่ไม่เก่าๆ คิดถึงบ้านหลังน้อยกลางทุ่งนาที่แสนอบอุ่นแล้วยิ่งเจ็บหนัก โลกใบนี้มีแต่การเข่นฆ่า แตกต่างจากโลกที่เธอจากมาโดยสิ้นเชิง คนที่ถูกสั่งสอนมาโดยตลอดว่าทุกชีวิตมีค่า การเข่นฆ่าเป็นบาปจะไปอยู่รอดได้อย่างไร “ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากโลกอันโหดร้าย คือต้องตายและคืนร่างให้เจ้าของเดิม” คิดได้เช่นนั้นเธอก็หลับตาลง หวังว่าจะกลั้นลมหายใจให้ตายเพราะพิษไข้ หลังจากนั้นสติของเธอดับไปพร้อมกับรอยยิ้ม แต่ทว่าเมื่อวันใหม่มาถึง เธอกลับยังอยู่ในร่างของหลินฟางซีเหมือนเดิม นอนอยู่ที่เดิม..ในคุกมืด “ฮือๆ ...ทีตอนไม่อยากตายดันตาย พออยากตายทำไมถึงไม่ตาย! สวรรค์ ท่านกำลังลงโทษข้าด้วยเหตุใด!” เสียงที่พยายามเปล่งออกมานั้นแหบแห้ง แต่เธอก็ยังก่นด่าคาดโทษสวรรค์ไม่หยุด ‘เพราะจิตวิญญาณที่เจ้ามีนั้นช่างบริสุทธิ์นัก ต่อให้เจ้าอยากตายตอนนี้ก็ทำไม่ได้ เพราะเจ้ายังมีสิ่งที่ต้องทำ ทำตามที่สวรรค์ลิขิตมา’ เสียงของเทพผู้ให้กำเนิดดังเข้ามาในโสตประสาท ร่างบอบช้ำลุกขึ้นยืนตัวเซมองหาชายชรา “ท่านอยู่ที่ใด ออกมาเดี๋ยวนี้! ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ หลอกลวงข้า บอกให้ออกมา!” เธอลุกขึ้นตะโกนเต็มเสียง ก่อนจะทิ้งร่างลงซบหน้าร้องไห้บนเข่า อยากตายก็ตายไม่ได้ อยากคืนร่างให้เจ้าของก็ไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไร อย่างเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือรักษาร่างของหลินฟางซี และทำหน้าที่แทนนางให้ได้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่นางจะกลับเข้าร่าง แต่ปัญหาคือเธอจะทำอย่างไร ทุกคนถึงจะไม่รู้ว่าเธอมาเข้าสิงร่าง หลินฟางซี คนโก๊ะ ๆ อย่างเธอจะทำตัวเงียบตีหน้านิ่งเหมือนเจ้าหญิงน้ำแข็งได้เหรอ ไหนจะต้องไปทำศึกสงครามอีก “โอ๊ย! อยากจะบ้าตาย รู้แบบนี้เรียนการแสดงมาก็ดี! เซ็งเด้!” มือบางดึงทึ้งผมตัวเองอย่างคิดไม่ตก พร้อมกับตะโกนก่นด่าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ไม่หยุด ชินอ๋องยืนมองนางด้วยรอยยิ้มเยาะ ดูแล้วนางคงจะลมปราณแตกซ่าน จนทำให้เสียสติเป็นแน่ และนั่นก็เป็นการดีที่เขาจะเปลี่ยนตัวรอง แม่ทัพคนใหม่ “นำตัวนางออกมา” เขาสั่งองครักษ์คู่กายเสียงเรียบ “พ่ะย่ะค่ะ” เพ่ยซานเปิดกรงประตูเดินเข้าไปหานาง “เชิญท่านรองแม่ทัพขอรับ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าสวยซีดเซียว ผมเผ้ายุ่งเหยิง ตามตัวนั้นยังมีเลือดติด นางในตอนนี้ไม่เหลือเค้าหญิงงามแม้แต่น้อย… “ไปที่ใดรึ” นางถามขึ้นอย่างจำยอม ตอนนี้ใครให้ทำอะไรคงต้องยอมทำตามน้ำไปก่อน “ชินอ๋องมีคำสั่งให้ปล่อยตัวท่านรองทัพแล้วขอรับ” มาลีในร่างหลินฟางซีคิ้วเรียวขมวดมุ่น ชะโงกหน้าผ่านตัวเพ่ยซ่านไปมองนอกกรง บุรุษรูปงามแต่ใจเหี้ยมกำลังยืนมองนางด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ผู้ชายคนนี้เย็นชาไร้หัวใจ ทำร้ายได้แม้แต่เธอที่เป็นผู้หญิง เสียใจจริงๆ ที่หลงปลื้ม ถึงจะหล่อขั้นเทพนาง ก็ไม่เอามาเป็นพ่อของลูกหรอก! “เชิญขอรับ” เพ่ยซานผายมือเชิญ ร่างบางลุกขึ้นเดินตามไปยืนจ้องหน้าอ๋องหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว “ดูแล้วเจ้าคงไม่เข็ด ถึงได้มายืนจ้องหน้าข้าแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ เห็นแก่ที่เจ้าทำคุณประโยชน์แก่บ้านเมืองจนสติฟั่นเฟือนจากการบาดเจ็บ ข้าจะยกโทษให้” ชินอ๋องเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนคนที่ปลงตก เมื่อมองหน้านางที่เอาแต่จ้องหน้าเขาเหมือนคนบ้า มือบางกำเข้าหากันแน่น อยากจะข่วนหน้าหล่อๆ นั่นให้จมเล็บจนมือสั่น...แต่เอ๊ะ! เมื่อครู่เขาบอกว่านางได้รับบาดเจ็บจนสติฟั่นเฟือน ใช่หรือไม่? หากนางแกล้งเป็นคนเสียสติก็ไม่ต้องออกรบ แถมไม่ต้องมานั่ง ปั้นหน้าเป็นหลินฟางซีน่ะสิ! “YES!” นางทำท่าทางแปลกๆ จนชินอ๋องต้องเดินถอยหลังหนีหนึ่งก้าว “พี่ชายข้าหิว” นางพูดเสียงอ้อน วิ่งเข้ากอดหนุ่มหล่อหน้าเหี้ยม หมับ!! ไหน ๆ เขาก็คิดว่านางบ้าแล้ว ขอกอดคนหล่อหน่อยเถอะ เขาคงไม่ใจร้ายฆ่าคนบ้าหรอกน่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD