รอยมลทินซาตาน EP.03 คือเธอกับฉันและเขาอีกคน (1)

1631 Words
ไม่ถึงยี่สิบนาทีเพียงตะวันกับปิยะดาก็เดินมาถึงรถตู้คันหรูของรีสอร์ทเพียงตะวัน เสียงเจี้ยวจ้าวที่ดังเล็ดลอดเข้ามาภายในรถทำให้ชายหนุ่มรูปร่างสูงกำยำถึงกับสะดุ้งตื่น ก่อนจะรีบเปิดประตูออกมาพร้อมกับส่งรอยยิ้มอบอุ่นไปให้น้องสาวและเพื่อนสนิทของน้องสาวที่เขาแอบหลงรักมาเกือบสามปี “สวัสดีค่ะพี่กร” ปิยะดาเอ่ยทักทายพี่ชายของเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนจะเดินเข้าไปกอดอย่างคิดถึง เกือบหนึ่งปีแล้วสินะที่เธอไม่ได้เจอผู้ชายคนนี้ คิดแล้วก็รู้สึกแปลกๆ กับความรู้สึกของตัวเอง ทุกครั้งที่เธอเข้าใกล้พี่ชายคนนี้ เธอมักจะรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นเสมอ จนเธอแอบรู้สึกอิจฉาเพื่อนรักอย่างเพียงตะวัน เธอช่างโชคดีที่มีพี่ชายแสนดีคอยปกป้องดูแล แตกต่างจากเธอที่เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ อีกทั้งพวกท่านยังมาเสียชีวิตตั้งแต่เธอเล็กๆ อีก ทำให้เธอรู้สึกอิจฉาทุกครั้งยามที่เห็นครอบครัวของคนอื่นอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ภาสกรหน้าแดงก่ำ เมื่อจู่ๆ สาวน้อยที่เขาแอบหลงรักดันเดินเข้ามาทักทายแล้วก็พุ่งเข้ามากอดเขาแบบนี้ ยิ่งเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของน้องสาวเขาก็ยิ่งรู้สึกอับอาย เพราะอย่างน้อยก็มีน้องสาวตัวแสบของเขาคนหนึ่งที่รู้ว่าเขาคิดอะไรกับคนในอ้อมกอด “สวัสดีครับน้องแก้ว” “พี่กรกลับมาจากอังกฤษเมื่อไหร่คะ” ปิยะดาปล่อยแขนทั้งสองข้างออกจากร่างหนา ก่อนจะถอยออกมายืนข้างกายของเพื่อนรักด้วยอาการเก้อเขิน เมื่อนึกถึงตอนที่เธอเดินเข้าไปกอดภาสกร “เขินอะไรแก้ว เมื่อก่อนไม่เห็นหน้าแดงเลย ทำไมวันนี้ถึงหน้าแดงได้นะ” เพียงตะวันเอ่ยกระเซ้าเพื่อนรักอย่างชอบใจ เมื่อเห็นอาการเก้อเขินของเพื่อน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าปิยะดาคิดอะไรกับพี่ชายของเธอ เพียงแต่เธอไม่แน่ใจเท่านั้นว่าความรักที่ปิยะดาให้พี่ชายสุดที่รักของเธอเป็นแบบไหน แต่ไม่ว่าจะรักแบบไหน เธอก็เชื่อว่าพี่ชายก็ต้องดีใจทั้งนั้นแหละ “ไม่ได้หน้าแดงเสียหน่อย” ปิยะดาหันมาทำตาเขียวใส่เพื่อนรัก ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินขึ้นไปนั่งบนรถตู้ ก่อนจะหันมามองเพื่อนรักสุดแสบอย่างกระเง้ากระงอด ยิ่งเห็นอาการล้อเลียนเธอก็ยิ่งอับอาย การที่เธอรู้สึกดีๆ กับภาสกรไม่เห็นมันเสียหายตรงไหน อีกอย่างเธอก็รู้สึกกับเขาแค่พี่ชายเท่านั้น ไม่รู้ว่าเพียงตะวันคิดไปถึงขั้นไหนกัน “ขึ้นรถสิแก้ม” “ก็กำลังขึ้นอยู่นี่ไง ไม่เห็นต้องทำตาเขียวใส่แก้มเลยนี่น่า” “ไม่ได้ทำตาเขียวใส่แก้มเสียหน่อย” “แน่ใจเหรอจ๊ะหนูแก้วจ๋า” เพียงตะวันเอ่ยเหย้า ก่อนจะรีบเดินตามปิยะดาขึ้นไปอีกคน ก่อนที่พี่ชายของเธอจะเดินตามขึ้นไปเป็นคนรถสุดท้าย เพียงไม่ถึงห้านาทีรถตู้ของรีสอร์ทเพียงตะวันก็แล่นออกมาจากสนามบิน มุ่งตรงไปยังตัวเมืองเชียงใหม่ทันที ////////////// ณ คอนโดมิเนียมหรูย่านสีลม ร่างที่เคยนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงนอน เริ่มขยับตัวอย่างช้าๆ สองมือยกขึ้นจับขมับอย่างปวดร้าวไปทั้งศีรษะ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ตอนที่เขานั่งดื่มเหล้าคนเดียวแทบจะหมดทั้งกลม และสาเหตุของการดื่มเหล้าครั้งนี้ก็คือแฟนสาวที่เขาคบมาหกปี แต่สุดท้ายเธอบอกเลิกเขาอย่างไม่ใยดี “ตื่นแล้วเหรอไอ้ใหญ่” เสียงที่ดังมาจากประตูห้องน้ำทำให้พยัคฆ์ขยับกายลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงด้วยความประหลาดใจ เหตุใดเพื่อนสนิทถึงได้มาอยู่ในห้องนอนของเขา สายตากวาดมองไปรอบๆ เขาก็ไม่พบใครนอกจากอภิวัฒน์เพียงคนเดียว “นายมาอยู่ห้องฉันได้ยังไงกันวะไอ้วัฒน์” เจ้าของห้องหนุ่มเอ่ยถามเสียงแหบอีกทั้งตอนนี้เขายังรู้สึกเจ็บคอเหลือเกิน สงสัยเมื่อคืนเขาคงจะดื่มหนักจนเกินไป ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีสภาพแบบนี้ เสื้อผ้ายับยู่ยี่แถมกลิ่นเหล้ายังส่งกลิ่นให้เขาอยากจะอ้วกขึ้นมาอีก “ฉันกับไอ้คินแล้วก็ไอ้ศินเป็นคนไปลากแกออกมาจากผับเมื่อคืนไงไอ้ใหญ่ นี่แกจำเรื่องอะไรไม่ได้เลยเหรอ หรือว่าเมาจนจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนพาแกกลับมานอนที่ห้อง” อภิวัฒน์ถามเสียงขุ่น โชคดีที่เจ้าของผับเป็นเพื่อนรุ่นน้องของเขา ไม่อย่างนั้นป่านนี้เขาคงไม่รู้ว่าไอ้เพื่อนบ้านี่จะถูกสาวที่ไหนลากไป เมาจนแทบไม่ได้สติ แค่ผู้หญิงคนเดียวสามารถทำให้ท่านรองประธานฯ แห่งเลิศอัครเกรียงไกรกรุ๊ปถึงกับหมดสภาพได้ถึงขนาดนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าเหลือเกิน “แล้วไอ้คินกับไอ้ศินล่ะ” “ไอ้ศินกับไอ้คินกำลังจะมา เมื่อกี้สองคนนั้นโทรมาหาฉัน บอกว่ากำลังซื้อข้าวมาให้แกกินอยู่ แล้วนี่แกคิดยังไงวะถึงได้ดื่มเหล้าจนเมาเหมือนหมาแบบนั้น” “ฉัน...” พยัคฆ์ถึงกับพูดไม่ออก เขาจะบอกเพื่อนอย่างไร ในเมื่อสิ่งที่เขาได้ยินมาเมื่อคืน เขายังไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่าทุกอย่างมันคือความจริง ผู้หญิงที่เขารักมาเกือบหกปีบอกเลิกเขาเพราะเจ้าหล่อนกำลังจะแต่งงานกับลูกชายนักการเมืองชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทย “ทะเลาะกับยัยฟ้ามาหรือไงไอ้ใหญ่” ไม่ต้องบอกเขาก็รู้แล้ว หากไม่ใช่เรื่องของนภาลัย พยัคฆ์คงจะไม่เป็นแบบนี้หรอก เห็นทีเรื่องคราวนี้คงจะหนักหนาสาหัสจริงๆ ไม่อย่างนั้นสภาพของเพื่อนเขาคงจะไม่ย่ำแย่ถึงเพียงนี้ “เมื่อคืนฟ้าบอกเลิกฉัน” “ยัยฟ้ารึจะบอกเลิกแก” อภิวัฒน์มองหน้าเพื่อนอย่างคาดไม่ถึง ผู้หญิงอย่างนภาลัยหรือจะบอกเลิกพยัคฆ์ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็นเรื่องจริง เพราะหลายปีที่ผ่านมา นภาลัยไม่เคยอยู่ห่างพยัคฆ์เลย จนเขากับคนอื่นๆ คิดว่าอีกไม่นานทั้งคู่ก็คงจะแต่งงานกัน “ใช่! ฟ้าเขาบอกเลิกฉันเมื่อคืน” พยัคฆ์พยักหน้าอย่างเจ็บปวด เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เขาเองก็ไม่เคยคิดเลยว่านภาลัยจะกล้าบอกเลิกเขา ทั้งๆ ที่ความรักของเขาและเธอกำลังจะไปได้สวย อีกทั้งปีหน้าเขาและเธอวางแผนจะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่เพราะเหตุผลใดนภาลัยถึงบอกเลิกเขาแล้วไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น “เพราะถูกยัยฟ้าบอกเลิก แกก็เลยเมามายจนแทบไม่ได้สติเนี่ยนะ” “เออ!” “แกกับยัยฟ้าทะเลาะอะไรกันหรือเปล่าวะไอ้ใหญ่” “อ้าว! แล้วทำไมยัยฟ้าถึงได้บอกเลิกแกล่ะ” อภิวัฒน์ทำหน้างงๆ ในเมื่อไม่ได้ทะเลาะกันแล้วทำไมนภาลัยถึงบอกเลิกเพื่อนของเขา “ฉันไม่รู้ พอเลิกงานฉันขับรถไปรับฟ้าที่บ้าน แต่เมื่อไปถึงแทนที่ฟ้าจะออกไปทานข้าวกับฉันตามที่นัดเอาไว้ ฟ้ากลับปฏิเสธแล้วบอกเลิกฉันแทน” พยัคฆ์เล่าถึงเรื่องราวเมื่อวานให้เพื่อนรักฟังอย่างละเอียด เขาเองก็ยังไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่านภาลัยจะบอกเลิกเขา ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยทำอะไรผิด ตั้งแต่คบกับนภาลัยมาเขาไม่เคยคบผู้หญิงคนไหนอีกเลย ทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเขาก็คือนภาลัย แต่ทำไมสุดท้ายหญิงสาวถึงทำกับเขาได้ “แล้วยัยฟ้าบอกสาเหตุที่ขอเลิกกับแกไหมไอ้ใหญ่” อภิวัฒน์มองสภาพเพื่อนอย่างเป็นห่วง เห็นอาการแบบนี้แล้วเขายิ่งเครียด เพราะอาการของพยัคฆ์น่าเป็นห่วงไม่น้อย เวลารักพยัคฆ์ก็รักจนหมดใจ แต่เวลาเกลียดก็เกลียดจนหมดใจเหมือนกัน แต่สิ่งที่เขาสงสัยก็คือเหตุใดนภาลัยถึงบอกเลิกเพื่อนเขาต่างหาก “ช่างมันเถอะไอ้วัฒน์ ในเมื่อตอนนี้ฟ้าก็บอกเลิกฉันไปแล้ว พูดไปก็เหมือนกับฉันนินทา ในเมื่อเขาอยากเลิกกับฉันก็ปล่อยเขาไป” เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก อย่างน้อยก็ได้รู้น้ำใจของผู้หญิงที่เขารักมาตลอดหกปี จากนี้ไปเขาจะไม่ใจอ่อนให้กับผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว และจะไม่มีพยัคฆ์ผู้อ่อนโยนและอบอุ่นอีกแล้ว จากนี้ไปเขาจะเป็นพยัคฆ์คนใหม่ คนที่ไม่สนใจและใยดีต่อความรักของผู้หญิงคนไหนอีก “แกไม่เป็นอะไรแน่นะไอ้ใหญ่” “ฉันไม่เป็นอะไรหรอกไอ้วัฒน์ เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก ฉันไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวไอ้คินกับไอ้ศินมาแล้วเห็นสภาพฉันตอนนี้ พวกมันคงจะหัวเราะเยาะฉันแน่” “ก็ดีนะ งั้นเดี๋ยวฉันไปรอแกข้างนอกแล้วกัน” “ได้” พยัคฆ์พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกจากเตียงนอนแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ แม้สภาพร่างกายเขาจะดูปกติ หากแต่ในหัวใจกลับปวดร้าวและบอบซ้ำไม่น้อยที่ถูกหญิงคนรักบอกเลิกในครั้งนี้ และสิ่งเดียวที่เขาจะทำได้ก็คือพยายามตัดใจ เพราะมันจะดีต่อตัวเขาและนภาลัย ///////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD