1.ธิดาน้อยเผ่าปีศาจ (1)

1380 Words
“จับตัวมาให้ได้ อย่าปล่อยให้หนีรอดไปได้” เสียงตะโกนดังลั่น พร้อมกับเสียงคนหลายคนวิ่งและเดินขวักไขว่ไม่ไกลนัก “ท่านแม่ ข้ากลัว” หนูน้อยที่ซุกอยู่ในอ้อมกอดมารดาเสียงเครือ ร่างเล็กสั่นเทา ขณะที่ผู้เป็นแม่รีบเอามือปิดปากลูกสาวพร้อมกับส่ายหน้าให้เงียบไว้ นางยิ่งกระชับลูกน้อยแนบอก โดยทั้งสองซุกอยู่ในซอกหลืบเล็กของถ้ำที่มีต้นไม้พุ่มไม้บดบัง แต่หากฝ่ายที่ตามหารุกคืบแหวกดงต้นไม้เล็กมาอาจพบเจอนางกับลูกได้ “ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ทางนี้ขอรับ มีรอยทางเหมือนคนเหยียบพุ่มไม้เดินเข้าไปทางนี้” “เช่นนั้น รีบไปทางนั้นเร็ว” เสียงเข้มสั่งการดังขึ้น ผู้เป็นแม่เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าต้นนั้นรีบร้อนฝ่าพงหญ้ากับต้นไม้เล็กพาลูกเข้ามาหลบตรงส่วนนี้ ใบหน้าสวยซีด แววตาหวาดหวั่น นางครุ่นคิดเพียงไม่นานและไม่มีทางเลือก จำต้องจับแก้มลูกน้อยประคองพร้อมกระซิบเสียงเบา “เจ้าหลบอยู่ที่นี่ ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด รอพ่อของเจ้า” หนูน้อยวัยหกขวบส่ายหน้าไปมาด้วยความกลัวพร้อมทั้งสะอื้นเบาๆ “อย่าส่งเสียงนะลูก” นางเอ่ยย้ำ กอดลูกอีกครั้งแล้วจูบกลุ่มผมนุ่มพร้อมน้ำตาหลั่งรินก่อนจะปล่อย แล้วเลี่ยงออกไปจากจุดนี้เพื่อเบี่ยงเบนสายตาผู้ติดตามค้นหา เสียงขยับวิ่งเหยียบต้นไม้ใบหญ้ากับร่างคนที่เห็นแวบๆ ในมุมหนึ่งผ่านแมกไม้ในป่าที่ค่อนข้างหนาทำให้หนึ่งในกลุ่มคนที่ตามมารีบตะโกนบอก พร้อมชี้ไปอีกทาง ห่างจากซอกถ้ำเล็กนั้น “ไปทางนั้นแล้ว ตามมาเร็ว” ผู้คนต่างมุ่งหน้าไปยังทางที่หญิงสาวหนีไป “ฮึก ท่านแม่ ท่านไปไหน ฮือ...” เด็กน้อยร้องออกมาเบาๆ แล้วปิดปากตัวเองแต่ก็ยังพูดด้วยไม่เคยถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเช่นนี้ “ท่านพ่อ เมื่อไรท่านจะกลับมา ข้ากลัว...” นานครู่ใหญ่พระอาทิตย์อ่อนแสง ในป่าครึ้มมืดสลัวเร็วนัก หนูน้อยยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น มารดาไม่กลับมา บิดาก็ยังไม่มา ร่างเล็กเริ่มอ่อนล้า อยากไปตามหามารดาแต่ก็ไม่กล้าออกจากถ้ำกลัวท่านจะกลับมาหาตนไม่พบ ทว่าเสียงบางอย่างใกล้ตัวทำให้หันไปมองแล้วก็สะดุ้งกรีดร้อง “งู!” งูตัวค่อนข้างใหญ่เลื้อยออกมาจากด้านในถ้ำแล้วขู่ฟ่อเมื่อเห็นเด็กน้อยผงะลนลานจะหนีขณะร้องไห้ตัวสั่นงันงก แต่แล้วร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านหลังร่างเล็ก สะบัดแขนครั้งเดียวงูก็เลื้อยหนีไป “ซีเอ๋อร์” “ท่านพ่อ” หนูน้อยได้ยินเสียงก็หันกลับไปแล้วลุกขึ้นไปกอดร่างสูงของบิดาตน “ลูกพ่อ ไม่ต้องกลัว พ่อมาแล้ว” “ท่านแม่...ไปไหนไม่รู้เจ้าค่ะ” เจ้าตัวเอ่ยพร้อมสะอึกสะอื้น ขณะผู้เป็นพ่ออุ้มตนขึ้น “ไปหาแม่ของเจ้ากัน” โจวซุ่นน้ำเสียงเคร่งเครียด บุตรสาวมีกำไลกระดิ่งเล็กที่ตนให้ติดตัว บนดินแดนมนุษย์นี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถได้ยินเสียง ขยับเพียงนิดโจวซุ่นก็รู้ว่าลูกน้อยอยู่ที่ใด แต่เมื่อมาถึงแล้วไม่พบภรรยาจึงจำต้องเอ่ยถามถึงความเป็นมาเป็นไปกับลูกซึ่งมาอยู่ที่นี่ ขณะเร่งรีบออกจากถ้ำมา “เหตุใดแม่เจ้าถึงพาเจ้ามาที่นี่” “ข้าไม่รู้” หนูน้อยบอกพร้อมส่ายหน้า “มีคนในหมู่บ้านมามากมาย ตะโกนเสียงดัง แล้วท่านแม่ก็อุ้มข้าหลบออกมาทางหลังกระท่อม เข้ามาในป่า คนตามมาเต็มไปหมด” ผู้เป็นพ่อขมวดคิ้วครุ่นคิดหนัก เหตุใดจึงเกิดเรื่องขึ้นในตอนที่เขาไม่อยู่ มาคิดดูแล้วภรรยาของตนคงใช้ตัวเองเป็นตัวล่อ หากเป็นเช่นนั้นจริงนางอาจกำลังมีอันตราย ด้วยความกังวลห่วงภรรยา ร่างสูงกำยำจึงขยับตัวรวดเร็วเพื่อกลับไปยังหมู่บ้านชายป่า แล้วก็เห็นควันพวยพุ่งจากไกลๆ ใจเขาร้อนรนอย่างไม่เคยเป็น จำต้องเร่งให้ไปถึงโดยเร็ว ควันนั้นมาจากทิศทางกระท่อมของเขาเอง โจวซุ่นมองเห็นหน้ากระท่อมของตนจากจุดห่างไกล ชาวบ้านมากมายห้อมล้อม กระท่อมถูกเผา ภรรยาของเขาถูกมัดอยู่ด้านหน้า ไฟกำลังลุกท่วมร่างที่แน่นิ่งของนาง พร้อมผู้คนตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน “เผามัน...เผามัน...” “เผาปีศาจ...เผาปีศาจ...” “นางอยู่กินกับปีศาจ ย่อมต้องเป็นปีศาจไปแล้ว ลูกของนางก็เป็นปีศาจ ต้องตามจับตัวมาเผาให้ได้” ผู้นำหมู่บ้านประกาศก้อง “สุ่ยหลิง” โจวซุ่นพึมพำชื่อภรรยาที่รัก เหตุการณ์ที่ปรากฏตรงหน้าทำเอาเจ็บปวดระคนอึ้งงันทำให้เผลอไผลหลงลืมไปว่าตนอุ้มลูกน้อยอยู่ กระทั่งได้ยินเสียงกรีดร้องและสะอื้นไห้ “ท่านแม่!” เสียงเด็กน้อยดังแว่วขึ้นทำให้ผู้คนในหมู่บ้านหันมามอง แล้วต่างก็ตะโกนทั้งยังกรูกันมาทางเขา “นั่นปีศาจชั่วร้าย มันกลับมาแล้ว” “ไปพวกเรา ช่วยกันจับมันมาเผาให้ได้” โจวซุ่นยืนนิ่งไม่มีความหวั่นเกรง สายตาของเขาฉายแววเศร้าแสนสาหัสก่อนแปรเปลี่ยนเป็นกรุ่นโกรธ “ใครกันแน่ที่ชั่วร้าย” เขากัดฟันพูด ไม่คิดเลยว่าจะมีคนรู้ถึงสถานะของตนแล้วถึงขั้นจับลูกเมียของเขาเพื่อเผาทั้งเป็น ‘มนุษย์พวกนี้ประเมินข้าต่ำเกินไปแล้ว’ “ขี่หลังพ่อนะลูก” เขาเปลี่ยนเป็นย่อตัวลงให้บุตรสาวตัวน้อยขี่หลัง หนูน้อยทำตามทั้งที่ยังร้องไห้หนักไม่หยุด ภาพที่เห็นช่างโหดร้ายนักสำหรับเด็กซึ่งจิตใจยังบอบบาง บรรดาชาวบ้านผู้ชายต่างวิ่งเข้ามาล้อมรอบเขาพร้อมอาวุธในมือ ทว่าโจวซุ่นใบหน้าเรียบสนิท มองร่างมอดไหม้ของภรรยาตนด้วยหัวใจที่แหลกละเอียด “เจ้าปีศาจ หลอกลวงพวกเรามาตั้งนาน คิดว่าจะไม่มีใครรู้ความจริงหรือ” “ใช่ เป็นปีศาจมาอยู่กับคนได้อย่างไร” “ข้าเป็นปีศาจแล้วอย่างไร เคยทำร้ายพวกเจ้าหรือไม่” เขาสวนขึ้นเสียงเครียด ขณะที่มนุษย์แต่ละคนต่างก็มองหน้ากันไปมา “ปีศาจชั่วร้าย เจ้าครอบงำจิตใจมนุษย์ให้ทำสิ่งชั่วช้า ทำผิดคิดร้าย แถมยังฆ่าคนในหมู่บ้านด้วย คนที่นี่ตายอย่างประหลาดหลายต่อหลายคนต้องเป็นฝีมือเจ้าแน่” เป็นหัวหน้าหมู่บ้านพูดขึ้น “ข้าไม่ได้ครอบงำ พวกเจ้าก็ฆ่าคน ทำสิ่งชั่วร้ายแล้ว อย่ามาอ้างปีศาจเช่นข้า ข้าไม่เคยฆ่าใคร!” เขาตะโกนลั่น แววน่ากลัวดำทะมึนอยู่ในดวงตาสีเข้ม “พวกเจ้าฆ่าสุ่ยหลิง พวกเจ้าต้องชดใช้” หลังจบคำพูดสองมือของโจวซุ่นก็ยกขึ้น พลังสีดำผุดลอยประจักษ์ต่อสายตาคนในหมู่บ้านทำให้ต่างก็เริ่มผวา แล้วก็เริ่มขยับตัวจะหนี มีบางคนวิ่งหนีก่อนผู้ใด ทว่าก็ไม่มีใครรอดไปได้เมื่อโจวซุ่นไขว้สองมือแล้ววาดออกแผ่กระจายพลังสังหารของตนเข้าใส่ทุกคน แต่ละคนผงะร่วงผล็อยไปตามๆ กันไม่มีหลงเหลือ ส่วนผู้หญิงและเด็กที่มุงอยู่ห่างๆ ต่างก็กรีดร้องวิ่งหนีแตกกระเจิง โจวซุ่นไม่สนใจคนที่เหลือ เพราะไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับเขาแล้ว ร่างสูงกำยำลอยรวดเร็วใช้พลังตนดับไฟลง ก่อนจะทรุดลงคุกเข่าตรงหน้ากองไฟเมื่อร่างของภรรยาตนแทบเหลือรูปร่างแล้ว “สุ่ยหลิง ข้าขอโทษที่มาช้าไป” “ท่านแม่...” หนูน้อยตัวสั่นเทาสะอึกสะอื้น กอดคอบิดาจากด้านหลังแน่น จนเขาต้องรั้งให้มาอยู่แนบอก กอดลูกน้อยให้ซบหน้ากับตน ไม่อยากให้ต้องเห็นภาพบาดอารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้เลย ทว่าก็ไม่สามารถยับยั้งได้ทันแล้ว “เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วซีเอ๋อร์ มนุษย์พวกนี้จิตใจหยาบช้า โหดร้ายทารุณนัก” ======
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD