2

1010 Words
“ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะครับ” คนที่อ่อนวัยกว่าเอ่ยถามหน้ายุ่ง จะพูดกันตรง ๆ พายุเป็นลูกไล่ของพี่ ๆ จึงถูกใช้ให้ทำโน่นทำนี่อยู่บ่อยครั้ง “แกเด็กที่สุด อายุน้อยที่สุด ต้องทำตามคำสั่งเฮีย ๆ” อัสนีพูดเช่นนั้นก่อนจะหยิบหนังสติ๊กส่งให้โยธินและพายุคนละอัน “ว้าว... หนังสติ๊กอันใหม่แจ่มไปเลยเฮีย” พายุเห็นหนังสติ๊กอันใหม่แล้วนึกชอบใจอยู่ไม่น้อย เขายกมันขึ้นมาง้างแล้วก็ทำท่าเล็ง “เข้าไปในไร่แล้วเจอไม้สวย ๆ ขนาดเหมาะมือเลยทำมาเผื่อ” หนังสติ๊กคืออุปกรณ์ที่ใช้ไม้เป็นง่ามนำมาตัดไม่ให้ยาวหรือสั้นจนเกินไป ก่อนจะนำไปผูกกับยางเส้น ส่วนกระสุนคือดินเหนียวปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ตากแดดจนแห้งจนมีน้ำหนักเบา “ไหนดินเหนียวล่ะไอ้พัน” โยธินเอ่ยถาม พายุล้วงดินเหนียวออกมาจากย่ามที่สะพายเอาไว้ให้ทั้งสองรับไปกำมือใหญ่ พายุกับอัสนีรับมาใส่ย่ามของตัวเอง ก่อนจะเล็งไปยังนกที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้ “แกว่าฉันจะยิงถูกไหมไอ้พัน” อัสนีเล็งแต่ยังไม่ยิง หันไปเอ่ยถามน้องเล็กสุดของก๊วน “เฮียยิงแม่น ต้องยิงถูกแน่ ๆ แต่สงสารมันเหมือนกันนะเฮีย” คนขี้สงสารเอ่ยบอก อัสนีชะงัก แต่ก็กลับไปเล็งใหม่ “เดี๋ยวเฮียไปวางเบ็ดก่อน” โยธินวางเบ็ดตรงแม่น้ำด้านหน้า แถวนี้ปลาชุมยังไงก็ได้ปลาแน่นอน “อ้าวไอ้เอส เป็นอะไร ทำไมไม่ยิง มันบินไปโน่นแล้ว” โยธินเลิกคิ้วเอ่ยถามขณะวางเบ็ดเรียบร้อยแล้ว “เฮียว่าน้องจะตื่นหรือยัง” อัสนีเอ่ยถามโยธิน สีหน้าเป็นกังวลไม่น้อย ใจคิดถึงแต่น้องน้อยที่นอนหลับอยู่ในเปล “ให้ไอ้พันมันวิ่งไปดูสิ” โยธินหัวเราะ เห็นท่าทางเป็นห่วงน้องของอัสนีแล้วนึกเอ็นดูไม่น้อย “ไอ้พันแกวิ่งไปดูหน่อยซิ ว่าหนูมิตื่นหรือยัง” “เราเพิ่งออกมาเมื่อกี้นี่เองนะเฮีย” พายุบ่นแล้วเกาหัวไปมา “บอกให้ไปก็ไปสิ” พอได้ยินประโยคนั้น ถึงจะบ่นก็จำต้องวิ่งกลับไปดู ปรากฎว่ามิรินยังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในเปล “ว่าไงวะ” อัสนีเอ่ยถามคนที่วิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดอยู่ตรงหน้า “ยังเลยเฮีย” “อือ...” อัสนีรับคำ เดินไปจัดการก่อกองไฟต่อ วันนี้จะย่างนกและปลากินที่หามาได้ เป็นอาหารในมื้อกลางวัน เพราะตกปลาและยิงนกได้อีกหลายตัว “ไปแป๊บเดียว ได้เยอะขนาดนี้เชียวเหรอเฮีย” พายุมองหน้าพี่ๆ ก่อนจะยกนิ้วให้ทั้งสอง เด็กทั้งสามย่างปลาและนกนั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย บิดามารดาเคยสอนว่าอย่ายิงนกตกปลา เพื่อความสนุกสนานเพราะไม่ว่าใครก็ย่อมรักชีวิตของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าหากจำเป็นเพื่อนำมาเป็นอาหารน่ะไม่เป็นไร พวกผู้ใหญ่ไม่ชอบให้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แต่ด้วยนิสัยของเด็กก็อดไม่ได้ที่จะประลองความแม่นยำกัน แต่ไม่ใช่เพื่อความบันเทิงหรือทารุณกรรมสัตว์ หลังเสร็จจากเที่ยวเล่นจนหนำใจ เด็กทั้งสามก็เดินกลับบ้านด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะตาโตเมื่อน้องร้องไห้โยเย ฉี่ใส่เปลที่นอนอยู่ ไหลเป็นทางไปตามพื้น “เวรแล้วไง เฮียบอกให้แกกลับมาดูน้องก่อนไอ้พัน มัวแต่ห่วงเล่นอยู่นั่นแหละ” อัสนีบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ทำท่าจะตบกะโหลกน้องสักทีสองที “ก่อนหน้านี้ผมเห็นยังหลับปุ๋ยอยู่เลยนี่เฮีย” พายุรีบแก้ตัว ในขณะที่อัสนีตรงเข้าไปอุ้มน้องขึ้นจากเปล แต่มิรินยังฉี่ไม่หมด เด็กน้อยเลยฉี่ใส่อัสนีเต็ม ๆ โยธินและพายุหัวเราะท้องคัดท้องแข็งเมื่ออัสนีโดนน้องฉี่ใส่ มิรินฉี่เสร็จก็มองหน้าพี่ ๆ ที่หัวเราะกันไปมา จึงหัวเราะเอิ้กอ้ากบ้างตามประสาเด็กอารมณ์ดี ก่อนจะทำหน้าเบ้เหมือนจะร้องไห้ คงเพราะเหนียวตัว เริ่มรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวนั่นเอง “พาหนูมิไปอาบน้ำกันเถอะ” อัสนีเอ่ยขึ้น ทั้งสามจึงรีบพาน้องน้อยไปอาบน้ำ สามหนุ่มน้อยไปอาบน้ำกันทางด้านหลังของบ้าน ที่นั่นมีตุ่มใส่น้ำ กะละมังขนาดใหญ่ เป็นลานโล่ง ๆ ที่เอาไว้ซักล้างและอาบน้ำไปในตัว ด้านหลังคือวิวภูเขาและธรรมชาติอันสวยงาม สามหนุ่มน้อยต่างวัยช่วยกันถูสบู่ให้น้องน้อย แล้วก็เอาลูกเป็ดมาลอยไว้ในกะละมังใบเล็กให้มิรินนั่งแช่น้ำอยู่ เด็กน้อยหัวเราะอย่างมีความสุขกับการจับลูกเป็ดในน้ำเล่น จนแทบไม่อยากขึ้นจากน้ำ “พอแล้วไอ้เอส เดี๋ยวหนูมิก็เป็นหวัดหรอก” โยธินเอ่ยบอกอัสนี อัสนีเลยยกร่างเด็กน้อยขึ้นจากน้ำเพราะกลัวน้องจะไม่สบายเอาได้ โยธินใช้ผ้าเช็ดตัวห่อตัวน้องเอาไว้ หนุ่มน้อยทั้งสามช่วยกันแต่งตัวให้น้อง โรยแป้งเด็กไปตามตัว ประแป้งน้องจนหน้าขาว หวีผมหย่อมน้อย ๆ ปาดไปด้านหนึ่งของศีรษะ แล้วต่างเพ่งมองน้องว่าดูดีหรือยัง เจ้าตัวเล็กทั้งยิ้มทั้งหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างมีความสุข พลางตบมือไปมาตามประสาเด็ก แต่ยังพูดไม่ได้ แค่ทำเสียงอ้อแอ้เท่านั้น “เฮีย” พายุเรียกอัสนีที่กำลังขะมักเขม้นกับการแต่งตัวให้น้องน้อย “อือ...” อัสนีขานรับในลำคอ สายตาไม่ได้ละไปจากมิรินเลยสักนิด “หนูมิเหมือนผีเด็กตกในถังแป้งเลย ดูหน้าสิ” พายุหัวเราะลั่นบ้าน แทบลงไปนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นเมื่อพูดจบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD