3

1522 Words
วิภาคิดแค่ว่าเตยหอมมาอาศัยหล่อนอยู่ ก็ต้องตอบแทนบุญคุณ จัดการเรื่องอาหารการกินให้ท่านเป็นอย่างดี มิให้ขาดตกบกพร่อง “เตยไม่มีเงินไปซื้อของสดหรือผักเลยค่ะ เพราะไม่มีวัตถุดิบทำอาหารไปขาย เอาต้นทุนกลับมาต่อยอด” “ผักในสวนหลังบ้านที่แกปลูกเอาไว้ล่ะ หายไปไหนหมดแล้วนังเตย” อย่างน้อยบ้านพักข้าราชการหลังนี้ยังมีพื้นที่ให้ปลูกผักปลูกหญ้า แต่ผักนั้นกว่าจะปลูกและกินได้ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน นอกจากผักบางชนิดที่ปลูกครั้งเดียว เก็บกินได้เรื่อย ๆ เช่น พวกกะเพรา โหระพา ตะไคร้ ใบมะกรูด ขิง ข่า ขมิ้น และพืชสวนครัวอย่างอื่นอีกหลายชนิด แต่ถ้าเป็นพวกผักบุ้ง ผักกาด ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง แตงวา ถั่วฝักยาวและผักอื่น ๆ อีกหลายชนิด ปลูกแล้วเก็บกินก็จะหมดไป ต้องปลูกใหม่เรื่อย ๆ “ป้าวิเก็บขายไปหมดแล้วนี่คะ” วิภาเห็นอะไรทำเงินได้ ท่านจะแปลเป็นเงินทั้งหมด ท่านใช้ให้เธอตัดผักทั้งหมดที่ขายได้จากแปลงหลังบ้าน แต่แทนที่จะให้เธอทำอาหารไปขาย กลับโทร. ให้แม่ค้าคนกลางมารับซื้อไปในราคาถูกแสนถูก เพื่อเอาเงินไปเล่นไพ่ ท่านมีขาไพ่ของท่าน ได้บ้างเสียบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเสีย ผักที่ขายไปในราคาถูกแสนถูก แต่พอไปซื้อกลับมากลับแพงเหลือล้น มัดละสิบบาทมีผักไม่กี่ต้น เธอเสียดายเหลือแสน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องยอม “นี่แกจะหาว่าฉันขายผักของแกจนหมดอย่างนั้นเหรอ” “เปล่านะคะ เตยแค่ตอบป้าวิว่าผักหายไปไหนเท่านั้น” “ในเล้าไก่ก็มีไข่ แกเลี้ยงไข่เอาไว้ไม่ใช่รึไง ไปเก็บมากินสิ นังโง่เอ๊ย! ยืนเซ่ออยู่ได้” “ไข่ทั้งหมดที่เก็บเอาไว้ ป้าวิก็ขายไปหมดแล้วนี่คะ วันนี้ไก่ยังไม่ไข่เลยค่ะ เพราะยังไม่ได้กินอาหาร” “นังโง่เอ๊ย! แล้วทำไมแกไม่ให้ไก่กินอาหาร” “หัวอาหารหมดค่ะ มีแต่ผักกับผลไม้ ให้กินเปล่า ๆ ก็ได้ แต่มันจะไม่ค่อยไข่ค่ะ” “โง่ไม่มีใครเกิน ไม่มีอะไรแกก็เดินออกไปหน้าปากซอยแล้วก็ไปเอาของมาก่อนแล้วค่อยไปจ่ายสิ กับฉันพวกแม่ค้าไม่ให้หรอก แต่กับแกมันให้แน่นอน” ก็ใช่น่ะสิ วิภาไปซื้อของแล้วไปเชื่อเอาไว้ ไม่เคยไปจ่ายตามสัญญา บัญชีของวิภาค้างเป็นหางว่าว ซื้อร้านไหนไม่เคยมีเงินสด แล้วก็ไม่เข้าไปซื้อของร้านนั้นอีกเลย แล้วจะมีร้านไหนให้ป้าเธอไปเอาของ แล้วค่อยมาจ่ายล่ะ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าอย่างไรก็ไม่ได้เงินแน่นอน ในขณะที่เธอก็เคยไปซื้อของด้วยเงินเชื่อ แต่เธอไม่เคยหนีหนี้ พอมีเงินก็รีบไปจ่ายในทันที เธอเข้าใจดีว่าคนค้าขายต้องหมุนเงิน ใจเขาใจเรา “ค่ะป้าวิ” “ยืนโง่อยู่ตั้งนาน” ประโยคของวิภาสร้างความเอือมระอาให้แก่เตยหอมเป็นอันมาก แต่เธอก็ไม่รู้จะทำเช่นไร ถ้าเธอปีกกล้าขาแข็งพอที่จะโบยบินออกไปอยู่ข้างนอก มีงานมั่นคงทำ เรียนจบแล้วเหมือนคนอื่น เธอก็คงไปแล้ว ใครจะมาทนให้ถูกโขกสับอยู่แบบนี้ เด็กสาวเดินไปยังร้านขายของชำหน้าปากซอย เกรงใจเหลือล้นที่จะขอซื้อของด้วยเงินเชื่อ แต่ป้าเพลินตาดูเหมือนจะเข้าใจความจำเป็นของเธอ ให้เชื่อกี่วันก็ได้ เพราะรู้ดีว่าเด็กสาวจะต้องรีบหาเงินมาจ่ายให้ตามจำนวน ดีไม่ดีมาช่วยขายของ มาช่วยยกของและทำงานที่ร้านให้อีก “หนูขอบคุณป้ามากนะคะ เกรงใจป้าเหลือเกิน” เตยหอมมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่เสมอ เธอรู้ดีว่าการอ่อนน้อมถ่อมตนจะทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่เมตตา และจะทำให้เธอรอดในสถานการณ์ต่าง ๆ “ไม่ต้องคิดมาก ป้ารู้ว่าเตยมีเมื่อไหร่จะรีบเอามาใช้แน่นอน” “แต่เตยก็เกรงใจป้าเพลินมากๆ เลยนะจ๊ะ ป้าเพลินต้องหมุนเงิน ซื้อของมาขายก็ต้องซื้อเงินสด แต่เตยกลับมาซื้อเงินเชื่อ” “ธรรมดาแหละเตยเอ๊ย มีคนอื่นที่มาซื้อแบบเงินเชื่อกับป้าเหมือนกัน แต่ป้าก็เลือกนะ คนไหนเหนียวหนี้ เบี้ยวหนี้ป้าก็จะไม่ขายให้หรอก อย่างไรเงินสดก็ต้องดีกว่าเงินเชื่ออยู่แล้ว” เพลินตาหยิบของใส่ถุงให้เด็กสาว ข้าวของก็ไม่ได้มีอะไรมาก ไข่ไก่ เนื้อ ปีกไก่และผัก เพราะว่าเตยหอมนั้นทำอาหารเก่ง ของสดและผักง่าย ๆ ก็สามารถเนรมิตอาหารอันแสนอร่อยออกมาได้แล้ว เวลาเธอขายของเหนื่อย ๆ ไม่มีเวลาทำอาหารก็มักที่จะอุดหนุนข้าวกล่องของเตยหอมบ่อย ๆ เตยหอมไม่ขี้เหนียว ทำข้าวกล่องขายแบบไม่เอากำไรมาก กินแล้วอิ่มท้องอยู่ได้ไปจนถึงเย็นเสียด้วยซ้ำ ในขณะที่ร้านข้าวกล่องบางเจ้าใส่ข้าวมาบาง ๆ แปะกับข้าวด้านบนมาเล็กน้อย ขายแพงมาก กินสามสี่คำก็หมดแล้ว “ขอบคุณป้าเพลินมากจริง ๆ ค่ะ แล้วหนูจะรีบนำเงินมาจ่ายนะคะ” “เออ ๆ ไปเถอะ ป้าไว้ใจเอ็งว่าเอ็งจะไม่โกงป้าเหมือนป้าสะใภ้ของเอ็ง” ประโยคนั้นทำให้เตยหอมเข้าใจเป็นอย่างดี ก่อนจะยกมือไหว้และหิ้วของกลับไปทำอาหารให้วิภาที่เร่งเร้าเธอไม่หยุดปาก “แกนี่ก็สวยดีนะ” วิภาเอ่ยขึ้นขณะนั่งกระดิกเท้าอยู่ไม่ไกลจากที่เธอทำอาหารนัก ประโยคแปลกประหลาดนั้นทำให้เตยหอมชะงัก เธอรู้สึกไม่ชอบมาพากล ยิ่งลุงของเธอไม่อยู่แบบนี้ ป้าสะใภ้ใจยักษ์ของเธออาจจะทำอะไรน่ากลัวก็เป็นได้ “แกอยากไปทำงานไหมล่ะ ไม่ต้องดักดานอยู่ที่บ้าน ไหน ๆ ก็ไม่ได้เรียนแล้ว” วิภาหยั่งเชิงถาม “งานอะไรเหรอคะ” “ก็เพื่อน ๆ ของฉันเขาทำร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟ แคชเชียร์ หรือไปช่วยทำอาหารในครัว อะไรประมาณนั้นแหละ แกเรียนสายอาชีพนี่นา จบปวช.แล้วใช่ไหม น่าจะทำได้” “ทำได้จ้ะป้าวิ” “เออ ๆ ก็ดี ขยันแบบนี้จะได้มีเงินใช้” วิภาเหยียดยิ้ม ในระหว่างที่สามีไม่อยู่นี่แหละ เธอจะเอานังเด็กนี่ไปขาย พอปรีชากลับมาก็บอกว่านังเตยหอมหนีตามผู้ชายไปแล้ว ทางสะดวกแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว เตยหอมก็อยู่ในวัยแตกเหนือสาวพอดิบพอดี หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่กระเป๋าหนักเห็นเข้าก็คงพร้อมเปย์อย่างแน่นอน “น้าวิจะให้หนูเริ่มงานวันไหนคะ” “ก็ต้องไปคุยกันก่อน แล้วแกอยากทำงานเลยไหมล่ะ ถ้าอยากทำฉันจะรีบคุยให้ เห็นว่ารับพนักงานเพิ่มหลายคนเชียวนะ ถ้าไปสมัครช้าก็คงอด คนอื่นไปสมัครกันหมด งานหายากมากนะทุกวันนี้ ไม่ใช่ข้าราชการอย่างเดียวที่ว่าสอบยาก งานร้านอาหารทั่วไป หรืองานบริษัทยังต้องใช้เส้นสายหรือรู้จักคนใน” “ค่ะ” เตยหอมรับคำ ช่างมันเถอะ งานอะไรก็ได้ ขอแค่ให้ได้เงิน ดีไม่ดีเธออาจจะขยับขยายออกไปจากบ้านหลังนี้และออกไปจากป้าใจยักษ์ได้เสียที ในขณะที่เตยหอมอยากหนีคนใจร้ายอย่างวิภาไปให้ไกล ๆ วิภาก็กำลังคิดถึงเงินก้อนใหญ่ที่ตนเองจะได้รับในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ในมื้อนั้นเตยหอมทำไก่ทอดสมุนไพร ผัดผักรวมมิตรกุ้ง และต้มยำให้ป้าสะใภ้ เวลากินนี่แหละที่วิภาดูมีความสุขไม่ด่าทอเธอมาก เตยหอมหิวแทบตายแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ได้กินอาหารดี ๆ ร่วมโต๊ะกับลุงและป้าสะใภ้ ตอนเธอมาอยู่ใหม่ ๆ เธอได้นั่งร่วมโต๊ะกับพวกท่าน แต่พอสมบัติหมดเหลือแต่ตัว ก็ถูกเฉดหัวให้ไปกินในครัว ให้กินแต่เศษอาหารที่พวกท่านกินหมดแล้ว หากวันไหนกินหมด หรือถูกท่านไม่พอใจเอา เศษอาหารก็จะถูกเทใส่ถังขยะ ไม่ให้เธอได้กินแม้แต่น้อย วิภานั้นใจดำอำมหิตมากในความคิดของเตยหอม เธอจึงพยายามไม่มีปากเสียงมาก เพราะจะอดข้าวเอาได้ แต่เห็นแบบนี้วิภาก็ชอบทำใจใหญ่ อวดรวยกับเพื่อน ๆ ของท่าน ในขณะที่เธอซึ่งเป็นหลานของสามี ท่านให้กินข้าวกับน้ำปลาออกบ่อย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD