บทที่ 10 : กลั่นแกล้ง

1820 Words
เหมือนแพรออกแบบงานที่บดินทร์มอบหมายให้อย่างตั้งใจ เธอได้รับตำแหน่งมัณฑนากรออกแบบตกแต่งภายใน ซึ่งรวมอยู่ในแผนกสถาปนิกและน้อยที่จะมีผู้หญิง ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายทั้งนั้น หากนับผู้หญิงรวมเธอแล้วก็มีเพียง 12 คน และอีก 30 คนเป็นผู้ชาย แต่ปัญหาคือ...เธอถูกเพ่งเล็งจากพนักงานรุ่นพี่ผู้หญิงที่ทำงานมาก่อนหน้าเธอ และในฐานะที่เธอเป็นเด็กใหม่ไม่รู้เรื่องอะไรจึงโดนสั่งให้ทำงานที่ไม่ได้รับมอบหมายโดยตรงจากบอสอย่างบดินทร์เสมอ งานที่ไม่ใช่หน้าที่ของเธอ เช่น การถ่ายเอกสารให้คนในแผนก การชงกาแฟและรวมถึงการทำงานแทนรุ่นพี่ งานในมือของเหมือนแพรล้นมือจนแทบไม่มีเวลาแต่ก็ยังต้องทำงานที่ไม่ใช่ของเธอ กระทั่งถูกตำหนิจากบดินทร์ว่างานไม่คืบหน้าเลย เธอทั้งเสียใจและไม่กล้าบอกเจ้านายที่นับถือเป็นรุ่นพี่ที่สนิทอย่างเขา เธอไม่อยากมีปัญหากับใครจึงได้แต่อดทนเอา หวังว่าสักวันหนึ่งรุ่นพี่ผู้หญิงในแผนกจะยอมรับเธอ “นี่ อย่าไปแกล้งน้องมันเลย งานมันก็เยอะอยู่แล้ว แพรจ๋าไม่ต้องสนใจหญิงหมดประจำเดือนหรอก ทำงานของตัวเองซะ” คำพูดใจดีกึ่งหยอดคำหวานของชายหนุ่มในแผนกที่ชื่อ ‘กำปั่น’ ในวัย 32 ปี บอกเหมือนแพรที่หอบเอกสารปึกหนึ่งเพื่อไปถ่ายเอกสาร “แม่แกสิหมดประจำเดือน ฉันเป็นคนเซ็นว่าเหมือนแพรจะผ่านโปรหรือไม่ ถ้าไม่อยากทำก็ได้นะ ก็แค่ไม่ผ่านโปรเท่านั้น” หญิงสาวที่แต่งตัวโฉบเฉี่ยวด้วยความมั่นใจอายุ 35 ปียืนเท้าเอวและถลึงตามองกำปั่นและหันมาเปรยบอกร่างบางที่โอบอุ้มเอกสารด้วยแขนสั่นเทา “แพรทำได้สบายมากค่ะพี่กิ๊ก” เหมือนแพรรีบตอบรับคำอย่างจำนนและทำหน้าที่ที่รุ่นพี่สั่งเธอโดยดี หญิงสาวรีบถ่ายเอกสารกองใหญ่อย่างลนลาน เธอทำหลายหน้าที่จนงานออกแบบของเธอช้าเกินกว่าที่ควร เธอต้องเสนองานกับบดินทร์อีกสองวันว่าคืบหน้าไปถึงแล้ว เธอไม่อยากพลาดงานนี้ ไม่อยากทำให้พี่ดินผิดหวังในตัวเธอ เธออยากทำให้เขาภูมิใจและชื่นชมเธอ ปึก! “ขอโทษค่ะ! แพรไม่ทันระวัง” เหมือนแพรลนลานจนทำให้เอกสารกองใหญ่หล่นพื้นเสียงดัง รองเท้าหนังสีดำมันปลาบโดนกองกระดาษที่เธอทำตกใส่เข้าอย่างจัง หญิงสาวไม่มองสิ่งใดรีบก้มหน้าขอโทษด้วยความรู้สึกผิด สิ่งแรกที่ทำคือก้มลงไปเช็ดรองเท้าหนังอย่างสำนึกผิดด้วยดวงตาร้อนผ่าว รองเท้าของชายที่เธอทำเอกสารตกใส่เป็นรอย! ชายหนุ่มรีบก้มลงจับมือของเธอไว้ด้วยความตกใจและตะคอกเสียงดัง “ทำอะไรน่ะแพร! บ้าไปแล้วหรือ ทำไมต้องใช้มือเช็ดรองเท้าพี่ด้วย ลุกขึ้นก่อน” เสียงนุ่มทุ้มที่หญิงสาวคุ้นเคยเอ่ยกับเธอ เหมือนแพรจึงรีบเงยหน้าขึ้นและรีบหันหลบชายหนุ่มเพื่อปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาอย่างรวดเร็ว ร่างบางถูกมือใหญ่อบอุ่นประคองแขนเพื่อรั้งเธอให้ยืนขึ้น บดินทร์มองเอกสารมากมายที่ตกบนพื้นกระจัดกระจายด้วยความสงสัย คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนแทบชิดเมื่อสังเกตว่านี่มันไม่ใช่หน้าที่ของหญิงสาวเลยสักนิด “นี่มันอะไร ใครใช้ให้แพรทำงานแบบนี้ แพรเป็นมัณฑนากรมีหน้าที่ออกแบบโครงการใหญ่ให้พี่ ไม่ใช่พนักงานเอกสารทั่วไป ใครใช้ให้แพรทำ?” เสียงของบดินทร์ถามเหมือนแพรเสียงดังจนคนในแผนกสถาปนิกหันมามองด้วยความตกใจ หญิงสาวคนหนึ่งรีบกุลีกุจอลุกขึ้นและเดินเข้ามาหาเจ้านายและเด็กใหม่อย่างเหมือนแพรรวดเร็ว “เอ่อ...บอสคะ คือเอกสารพวกนี้...” “เธอเป็นคนใช้เหมือนแพรงั้นหรือกชกร? ไม่รู้หรือว่าเหมือนแพรเป็นมัณฑนากร” บดินทร์ต่อว่าลูกน้องสาวอย่างหัวเสีย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเหมือนแพรเอ่ยแทรก “เอ่อ พี่...บอสคะ แพรอาสาทำให้พี่กิ๊กเองค่ะ แพรเห็นพี่กิ๊กงานเยอะเลยอยากช่วยบ้าง” บดินทร์มองใบหน้าสวยหวานของรุ่นน้องอย่างจับผิด สายตาคมเรียบเฉยมองร่างบางสลับกับลูกน้องผู้ชอบหาเรื่องกับเด็กใหม่เสมอและเปลี่ยนเป็นตำหนิเหมือนแพรแทน “ตัวเองก็ไม่ใช่ว่างานไม่เยอะ แถมยัง ‘สำคัญ’ กว่า งานที่ผมมอบหมายคุณให้เป็นโปรเจกต์ใหญ่ของบริษัท มันขึ้นอยู่กับคุณแล้วเหมือนแพร ถ้าคุณทำดีทุกคนก็จะได้โบนัสเพิ่มขึ้น แต่ถ้าคุณทำแย่ โบนัสก็คงต้องพิจารณาว่าจะปรับลดหรืออย่างไร เข้าใจตรงกันนะครับ ส่วนงานที่ไม่ใช่ของตัวเองทิ้งๆ มันไปซะ คนที่จะเซ็นว่าคุณผ่านไม่ผ่านมีแต่ผมคนเดียว อ่อ แล้วก็ไม่ต้องเก็บเอกสาร รีบตามผมมาที่ห้องด่วน ผมมีงานต้องปรึกษาคุณ กชกร...ผมว่าคุณคงจัดการเอกสารทั้งหมดนี่ได้” เหมือนแพรหันมามองสถาปนิกสาวรุ่นพี่ด้วยความเกรงกลัวแต่ก็จำใจต้องตามร่างสูงไปที่ห้องทำงานชั้นบนสุดอย่างต้อยๆ ด้วยลิฟต์ผู้บริหารที่มีไว้เพื่อเขา หญิงสาวประหม่าเมื่อต้องอยู่ในสถานที่คับแคบกับชายหนุ่มสองต่อสอง เธอรู้สึกว่าความอึดอัดได้บังเกิดขึ้น ภายในลิฟต์ไม่มีใครพูดสิ่งใดสักนิด แม้แต่หายใจเธอยังต้องบังคับให้เงียบที่สุด กว่าลิฟต์จะขึ้นไปชั้นบนสุดของห้องผู้บริหารมันช้ามากในความรู้สึก อากาศอบอ้าวในหน้าร้อนกับลิฟต์แคบๆ ทำให้เธอหายใจไม่ค่อยสะดวก เหงื่อไหลชุ่มแผ่นหลังตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อครู่แล้ว มือบางค่อยๆ กุมเสื้อเชิ้ตทำงานบนกระดุมเม็ดบนตรงกับหน้าอกของตนและกระพือผ้าคอตตอนสีขาวตัวบางสองสามทีหวังว่าจะพัดพาอากาศที่ยังคงเหลืออยู่ในลิฟต์ให้มาหาเธอบ้าง แต่เธอก็ได้ยินเสียงหายใจของร่างสูงที่เหมือนจะผิดจังหวะไปชั่วขณะ เสียงผ่อนลมหายใจเสียงดังทำให้เหมือนแพรเขยิบถอยห่างร่างสูงเล็กน้อยไม่รู้เพราะเหตุใด เสียงทุ้มติดแหบพร่าเล็กน้อยพูดกับเธอเชิงถาม “อากาศในเดือนนี้ร้อนเนอะ ใกล้ถึงชั้นของพี่แล้ว บนนั้นเปิดแอร์เย็นอยู่คงจะคลายร้อนได้บ้าง” เมื่อชายหนุ่มพูดจบ เสียงของลิฟต์ก็ดังขึ้นบ่งบอกว่าทั้งสองได้ถึงชั้นที่ต้องการแล้ว ชั้นของผู้บริหารยังคงเป็นเช่นเดิม มีพนักงานหน้าห้องอยู่ไม่กี่คนและเลขาวัยกลางคนของบดินทร์คนเดิม เมื่อเธอเดินตามหลังชายหนุ่ม ทุกคนก็มองเธอด้วยสายตาแปลกประหลาด มีเพียงเลขาของเขาเท่านั้นที่มองเธออย่างเป็นมิตร เธอเลือกที่จะไม่สนใจและเดินเข้าห้องพร้อมกับชายหนุ่มไป ทันทีที่ประตูปิดลงเธอก็รู้สึกว่าบรรยากาศของเธอและเขามันแปลกๆ ตั้งแต่ขึ้นลิฟต์แล้ว เธอทั้งประหม่าและเขินอาย “เอาล่ะนั่งก่อน พี่เข้าเรื่องเลยแล้วกัน แพรโดนแกล้งใช่ไหม” บดินทร์ถามหญิงสาวในขณะที่เขาเดินไปนั่งบนโซฟาด้วยท่าทางผ่อนคลาย เป็นเธอเองที่นั่งบนโซฟาตรงข้ามเขาอย่างประหม่าสุดๆ “ไม่ค่ะ แพรไม่ได้โดนใครแกล้งค่ะ” เสียงถอนหายใจของชายหนุ่มดังขึ้น เขามองหญิงสาวด้วยความเอ็นดู “มีอะไรก็บอกพี่ได้นะ เราเป็นเพื่อนของเพลิงพี่จะปล่อยให้เราถูกเอาเปรียบได้อย่างไร ถ้าเพลิงรู้คงว่ามีตายแน่ๆ ที่ปล่อยให้เพื่อนสนิทต้องโดนแบบนี้ เพลิงเขาบอกพี่เสมอว่าแพรน่ะหัวอ่อนและชอบโดนคนแกล้งบ่อยๆ จะไม่ให้พี่กังวลได้หรือ” เหมือนแพรยิ้มอย่างจืดเจื่อน แววตาเศร้าสร้อยแต่ทันใดนั้นก็รีบยิ้มกว้างกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง ปกปิดให้มิดชิด ความรู้สึกเธอที่เป็นสิ่งที่ผิดอยู่ฝ่ายเดียว เธอควรจะปกปิดมันไว้ “ขอบคุณพี่ดินที่เป็นกังวลแทนแพรนะคะ แต่แพรไม่มีใครแกล้งจริงๆ ค่ะ” บดินทร์พยักหน้าแล้วบอกจุดประสงค์ที่เรียกเธอมา “อีกสองวันที่แพรต้องเสนอความคืบหน้าให้พี่ดู วันนั้นแพรไปพบกับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์คนหนึ่งกับพี่หน่อย พี่จะพาสถาปนิกมือดีอีกคนไปด้วย คราวนี้คงเอาตัวเก่งอย่างนายกำปั่นไป แล้วก็ต้องใช้สถาปนิกคนเก่าอีกหลายคน เพราะงานนี้ต้องใช้ความละเอียดมากเลย เป็นปีที่ดีจริงๆ ที่งานเข้ามาพร้อมๆ กัน” “บริษัทอะไรหรือคะพี่ดิน” “Karl real estate cooperation” เมื่อชายหนุ่มพูดชื่อบริษัท ร่างบางจึงตาโตและชะงักงัน ใบหน้ายิ้มกว้างอย่างตื่นเต้นแต่ก็ต้องเก็บอาการเมื่อคิดว่าไม่ควรบอกหรือแสดงให้พี่ดินรู้ว่าบริษัทนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับเธอ เรื่องธุรกิจเธอไม่อยากก้าวก่ายพี่ชายของเธอ ก็เพราะบริษัทนี้เป็นบริษัทของพี่ครามน่ะสิ! สงสัยต้องกลับไปถามพี่ครามบ้างแล้วล่ะ เลือกบริษัทพี่ดินเพราะมีฝีมือหรืออยากติดตามความเคลื่อนไหวของเธอกันแน่นะ ก็เธอมีพี่ชายที่ขี้หวงน้องสาวแบบนี้ไง ถึงได้โสดมาตลอด “จับตาดูไปก่อน ถ้ามีอะไรเกินเลยมากกว่านั้นรีบโทรหาฉันทันที ฉันต้องจัดการอะไรสักอย่างแล้ว” พระเพลิงกดวางสายเมื่อพูดเสร็จ แววตาคมสวยที่แต่งเติมอย่างโฉบเฉี่ยวแดงก่ำ มือเล็กกำมือถือแน่นจนมันแทบแหลกเหลวถ้าเป็นไปได้ มือหนึ่งควงปากกาในมืออย่างใช้ความคิด เธอติดต่อกับคนของเธอในบริษัทของแฟนหนุ่มที่เป็นหูเป็นตาให้เธอมาตลอด ส่วนใหญ่ก็คือเรื่องผู้หญิงที่มาติดพันคนรักของเธอ ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนไหนก็ตามที่บดินทร์ให้ความสนใจเธอจะบอกให้คนของเธอกีดกันและจัดการทันที คราวนี้ลางสังหรณ์ของเธอไม่ผิดเพี้ยน พี่ดินเริ่มทำตัวห่างเหินกับเธอโดยอ้างว่ามีงาน ติดธุระสำคัญ มันจะสำคัญมากไปกว่าเธอเลยหรือ! ไม่มีเวลาให้เธอเชียวหรือ! เป็นเพราะเด็กใหม่คนนั้นที่ทำให้พี่ดินสนใจ จนละเลยเธอ...แถมพี่ดินยังออกโรงปกป้องมันอีก เธอต้องหาโอกาสไปเจอมันสักครั้ง ถึงจะรู้ว่าควรจะจัดการนังผู้หญิงที่จะจับพี่ดินอย่างไรดี ไม่มีใครแย่งพี่ดินไปจากเธอได้ทั้งนั้น!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD