Ep 13 เบื่องลึก
พรึ่บ!
ปึกก!!ปึกก!!!
"อะ อึก!!ตะ..ตินคะ เบาๆ ไอริสจุก~"
"จะเบาได้ไง ตอนนี้ผมอยากกลืนกินคุณไปหมดทั้งตัวเลย อ้าาาาา!!แน่นมากไอริส!!"
ตินอัดกระแทกสะโพสอบอย่างหนักก่อนคว้าร่างบางขึ้นแนบอกในท่าอุ้มกระเต็งแล้วเดินไปยังริมระเบียงเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ ไอริสเกาะลำคอของตินไว้แน่น ตินตรึงสะโพงงอนงามไว้แล้วกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้าไปอย่างหนักหน่วงพร้อมส่งเสียงคำรามลั่นห้อง
"โอ้ววว ซีสสสสส~ คุณตอดมากไอริส"
"อื้อออ..อ้ะ..ตะ..ตินคะ อ้าาาา!!"
"ร้องออกมา ผมชอบเสียงคุณ" น้ำเสียงของตินแหบพร่าเพราะไฟราคะกำลังแผดเผาร่างของเขา ไอริสไม่ได้ร้อนแรงเหมือนผู้หญิงที่ผ่านๆมา แต่ทำไมเขากลับชอบเธอ ชอบในความลึกลับมันทำให้เขาหลงรักเธอเข้าอย่างจัง
ตับ!!ตับ!!ตับ!!
"หืมมมม" ตินถอนแก่นกายออกแล้วใช้หัวเห็ดบานที่เคลือบด้วยน้ำสีขาวถูกลีบกุหลาบบวมเป่งของไอริสและกระแทกเข้าไปอีกครั้งจนร่างบางกระตุกเกร็งด้วยความจุก
ตินพาไปริสขึ้นไปทัวร์สวรรค์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักอิ่มเอมและวันนี้จะเป็นวันแรกที่เขาได้กอดเธอจนถึงเช้า
"คุณมีความสุขไหม" ตินคลี่ยิ้มแล้วยกมือเกลี่ยปอยผมที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อก่อนจะก้มลงจูบหนักๆที่หน้าผากนูน ไอริสจ้องมองใบหน้าหล่อด้วยสายตาแพราวพราว เธอยกมือลูบไล้แก้มสากของตินเบาๆแล้วเผยอปากขึ้นครอบครองเรียวปากของเขา
ตินจูบตอบอย่างนุ่มนวลแล้วบดคลึงริมฝีปากบวมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปฎิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้เขาตกหลุมรักเธอไปแล้วและพร้อมที่จะหยุดที่เธอเพียงคนเดียว แต่ทว่าความคิดก็มลายหายไปเมื่อนึกถึงหน้าของใครบางคนที่โดนเขาเปิดซิง
ริสาเทียบไอริสไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ แต่ทำไม..ลึกๆแล้วเขากลับรู้สึกอะไรบางอย่างกับริสา มันเป็นความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร
"พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปเที่ยว" ตินกระชับร่างบางไว้แน่น สองร่างเปลือยนอนกอดกันอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข แต่สมองของตินกลับคิดวนถึงแต่ริสา ป่านนี้เธอจะทำอะไรอยู่ ท่าทางซื่อบื่อแบบนั้นจะไปเดินตกท่อที่ไหนหรือเปล่า "คุณไอริสเคยมีแฟนมาก่อนไหม"
"ไม่เคยค่ะ"
"แล้วคุณเคยมีความรักไหมครับ"
"..." ไอริสนิ่ง เธอคลี่ยิ้มอ่อนๆแล้วหลับตาลงในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของติน "เคยมีค่ะ"
"เอ้ะ!คุณบอกว่าเคยมีความรัก แต่คุณไม่เคยมีแฟน?"
"ฉันแอบรักเขาฝ่ายเดียวค่ะ"
"งั้นหรอ.." เสียงของตินเบาลง รู้สึกเจ็บลึกๆทำไมผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เขา ไม่อยากรับรู้เลยว่าใครเคยได้ใจไอริสไปก่อน "แล้วตอนนี้ล่ะ..คุณยังรักเขาคนนั้นอยู่ไหม"
"..." ไอริสเงียบ สมองของเธอคิดวนไปถึงเรื่องราวในอดีตอีกครั้ง อดีตที่เธอเรียกมันว่าความรัก
"งั้นเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า" ตินรีบเบี่ยงเบนเพราะดูท่าไอริสคงไม่อยากตอบและถ้าเธอตอบกลับมาว่ายังรักเขาคนนั้นอยู่ขาของเขาต้องอ่อนแน่ๆ เพราะฉะนันอย่าไปรับรู้อะไรมาก
"แล้วคุณล่ะ..เคยมีความรักไหม"
"ผมไม่เคยมีความรัก อย่างมากก็แค่ชอบ" ตินคว้ามือของไอริสมาพรมจูบแล้วซุกจมูกโด่งเข้ากับกลุ่มผมหอมๆของเธอ "แต่ความคิดของผมก็เปลี่ยนไปเมื่อมาเจอคุณ"
"งั้นหรอ" ไอริสคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แต่มันเป็นรอยยิ้มเศร้าๆที่ไม่มีใครรู้ว่าภายในใจเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ตินรักเธอ ทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใครมาจากไหน แต่เขากล้าใช้คำว่ารักกับเธอ
"ผมรักคุณนะไอริส จะรังเกียจไหมหากผมขอคุณเป็นแฟน"
"ฮ่าๆๆ เราพึ่งรู้จักกันแค่ไม่กี่วันเองนะคะ"
"ผมถูกใจคุณตั้งแต่แรกเจอ ผมไม่สนแม้กระทั่งว่าคุณจะผ่านอะไรมา เพราะถ้าคุณเป็นแฟนกับผม ผมจะไม่ให้คุณไปทำงานแบบนั้นอีกแล้วผมหวงนะรู้ไหม" ตินพูดกึ่งอ้อนวอน เขาอยากเป็นแฟนกับไอริส อยากดูแลเธอ อยากตื่นมาเจอหน้าเธอทุกวัน อยากใช้เวลาดีๆร่วมกันกับเธอ
"ฉันขอเวลาหน่อยนะ"
"คุณยังไม่ถูกใจผมหรอ"
"ฉันถูกใจคุณค่ะ แต่ขอเวลาฉันหน่อยนะ ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อน"
"ได้ครับ" ตินคลี่ยิ้มด้วยความดีใจแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างบางพร้อมจ้องมองหน้างามไม่วางตา หลงผู้หญิงคนนี้จนโง่หัวไม่ขึ้นอีกต่อไปแล้ว
ตินจูบเรียวปากบางที่แสนบวมเจ่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วครอบครองเธออีกครั้งอย่างไม่รู้จักอิ่ม
++++++++++++++++++
อีกฟากหนึ่ง
"ลิลลี่เป็นยังไงบ้างลูก" คนเป็นแม่โผเข้ากอดเมื่อเห็นลูกสาวเริ่มขยับตัว ทันที่เห็นหน้าแม่ ลิลลี่ถึงกับหลั่งน้ำตา
"แม่..ฮึก"
"ทำไมลิลทำแบบนี้"
"ลิลขอโทษค่ะ ฮื้อๆๆๆ"
"ลิลรู้ไหมว่าแม่แทบขาดใจตาย หากแม่ไปช่วยไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น" คนเป็นแม่กอดปลอบเบาๆแล้วก้มลงมองที่ข้อแขนของลูกสาวซึ่งมีผ้าก๊อทสีขาวพันอยู่
"ฮึก..ลิล..ลิล..ตัดมันออกไปไม่ได้ ฮื้อๆๆๆ"
"ลิลต้องสู้นะ อย่าลืมสิครอบครัวเรายังมีพี่ริสอยู่"
"ฮื้อๆๆๆ ลิลคิดถึงพ่อ!!ฮื้อๆๆๆ!!!พ่อจ๋า..พ่อออ!!!" ลิลลี่คลุ้มคลั่งกระฟึดกระฟัดจะถอดสายน้ำเกลือออก คนเป็นแม่รีบล็อคตัวไว้แล้วร้องเรียกพยาบาลให้มาช่วย
"คุณพยาบาลคะ!คุณพยาบาลช่วยลูกของดิฉันด้วยค่ะ!!"
ตึก ตึก
"น้องเป็นอะไรคะ"
"ลิลลี่คลุ้มคลั่งอีกแล้วค่ะ"
"กรี้ดดดดดด!!!พ่อ!!ฮื้อๆๆๆ!!พ่อจ๋า อย่าทิ้งหนูไป ฮื้ออออ!!!"
"ไม่เอาลิลลี่ มีสติลูกมีสติ!" คนเป็นแม่พยายามตบแก้มลูกสาวเพื่อเรียกสติ แต่ลิลลี่กลับคลุ้มคลั่งหนักกว่าเดิมจนพยาบาลรีบล็อคตัวของลูกสาวเธอติดกับเตียง
คนเป็นแม่น้ำตาไหลยืนมองลูกสาวตาละห้อยด้วยความสงสาร ลิลลี่ลูกสาวของเธอไม่ควรมาเจออะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ ลิลลี่ควรเติมโตเป็นวัยรุ่นทั่วไปที่ใช้ชีวิตในแบบที่ควรจะเป็น
เหตุการณ์วันนั้นลูกสาวคนเล็กกลับจากโรงเรียน ในตอนนั้นแม่กับลูกสาวคนโตไปจ่ายตลาดจึงไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากพ่อ จากคำให้การของลิลลี่ที่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือบอกว่า คุณพ่อของเธอหยิบปืนออกมาจากลิ้นชักแล้วปลิดชีพตัวเองต่อหน้าตาต่อตาเธอ ลิลลี่รีบวิ่งเข้าไปประคองร่างของพ่อไว้แล้วร้องเรียกให้คนมาช่วยแต่สุดท้ายก็ไม่ทัน พ่อของเธอสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตานั่นทำให้ลิลลี่ช็อคเพราะรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ จนลิลลี่เด็กสาวที่แสนน่ารักกลายไปเป็นคนละคนเนื่องจากสภาวะจิตใจถูกกระทบกระเทือนอย่างแรง