ตอนที่ 8 : คิดถึงบ้าน

1212 Words
เช้าวันต่อมา แสงแดดยามเช้าอ่อนโยนลอดผ่านบานหน้าต่างไม้กระทบลงบนเปลือกตาเรียวยาวของชายหนุ่ม ร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงขยับเล็กน้อย ก่อนหลี่เซี่ยจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ กลิ่นยาสมุนไพรจาง ๆ ลอยปะปนกับกลิ่นไม้หอม เขากระพริบตา มองสำรวจรอบกายอย่างงุนงงเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงผ้าห่มอุ่นที่ห่มกาย ร่างสูงของหยางจื่อหาวนอนฟุบอยู่ข้างเตียง แขนหนึ่งพาดลงบนขอบไม้ มืออีกข้างยังจับข้อมือเขาแน่นราวกลัวว่าจะสูญเสียไปอีกครั้ง หลี่เซี่ยมองคนตรงหน้าเงียบ ๆ แววตาแฝงความซับซ้อน ก่อนจะค่อย ๆ ดึงมือออกเบา ๆ ลุกจากเตียงโดยไม่ปลุกให้ตื่น ฝ่าเท้าเปล่าก้าวเหยียบลงบนพื้นไม้เย็นเฉียบ ชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปช้า ๆ ราวกับกลัวเสียงฝีเท้าจะปลุกความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง เขาเดินลัดเลาะไปตามแนวเรือน ผ่านลานฝึกทหารที่ยังไร้ผู้คน ผ่านต้นหลิวที่ใบยังไหวเอนตามแรงลม จนมาหยุดยืนอยู่ที่ริมเนิน -สถานที่ที่หยางจื่อหาวเคยพาเขามาเมื่อไม่นานมานี้ ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ทอดยาวไกลสุดสายตา แสงแดดยามเช้าทาบลงบนใบหญ้าเหมือนคลุมด้วยผ้าสีทอง หลี่เซี่ยยืนนิ่ง สูดลมหายใจลึกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า สายลมหอบกลิ่นหญ้าสดใหม่พัดผ่านชายแขนเสื้อ เขาหลับตาลงชั่วครู่ ภาพของบ้าน ภาพของอดีต และเสียงเมื่อคืนย้อนกลับมาทุกถ้อยคำ “…เราเป็นผู้ให้ชีวิตเจ้า…หากมิใช่เรา แล้วใครจะพรากมันไปได้อีก…” ริมฝีปากบางเม้มแน่น ความรู้สึกบางอย่างปะปนอยู่ในใจ สับสน เย็นชา ปวดร้าว…และลึก ๆ คล้ายจะเจ็บ ในเวลาเดียวกัน ภายในจวน โครม! เสียงโถยาสมุนไพรแตกกระจายตามด้วยเสียงตะโกนลั่น “หลี่เซี่ย! หลี่เซี่ยอยู่ที่ไหน!?” หยางจื่อหาวสะดุ้งตื่นเมื่อไม่เห็นคนที่ตนเฝ้ามาทั้งคืน เขากวาดตามองทั่วห้อง ก่อนจะผลุนผลันออกจากประตูโดยไม่รอฟังคำจากผู้ใด มือใหญ่คว้าเสื้อนอกมาสวมคร่าว ๆ ขณะถามเสียงดังลั่น “เห็นคนบาดเจ็บเดินออกไปหรือไม่!?” ทหารเวรผลัดเช้าตอบอย่างตกใจ “พะยะค่ะ! เห็นเดินไปทางทุ่งหญ้าบนเนินเขา…” ไม่ทันจบคำ เขาก็กระโดดขึ้นหลังม้าตัวดำสนิทควบออกจากเรือนไปอย่างรวดเร็ว ฝุ่นทรายฟุ้งตลบตามแรงฝีเท้าสัตว์พาหนะ เสียงกีบม้าดังสะท้อนใจเขาที่สั่นไหว “เจ้าไม่รู้หรือว่าเจ้าเกือบตายไปแล้ว! ยังจะเดินออกมาอีก!” เขากัดฟันแน่น ใจร้อนราวเพลิงลามไม้แห้ง แววตาดุดันผสมความหวั่นใจเต็มเปี่ยม ปลายทางของม้าคือเนินเขาที่มีเพียงลมพัดผ่านกับเงาร่างของคนผู้หนึ่งยืนหันหลังให้กับเขาอย่างเงียบงัน เสียงกีบม้าดังสะท้อนทั่วแนวเขาไม่ต่างจากเสียงหัวใจของชายหนุ่มผู้กำลังเดือดพล่าน หยางจื่อหาวควบม้าไปอย่างรวดเร็ว ตรงดิ่งขึ้นสู่เนินเขา ร่างสูงบนหลังม้าดูดุดัน แขนข้างหนึ่งกระชับบังเ**ยนแน่น อีกข้างตระเตรียมรับคนที่เขาไม่คิดจะปล่อยให้ห่างตาอีกต่อไป เมื่อม้าหยุดตรงหน้าร่างที่ยืนทอดสายตาอยู่ริมเนิน ลมหายใจของหลี่เซี่ยยังคงสม่ำเสมอ ราวกับไม่ได้ตกใจแม้แต่น้อย เขาไม่หันกลับมา แต่ก็รับรู้ถึงพลังกรุ่น ๆ ที่กำลังเคลื่อนเข้าหา หยางจื่อหาวไม่รอให้ทันหัน “บัดซบ…เจ้าจะดื้อไปถึงไหนกัน!” เขากระโจนลงจากหลังม้า คว้าข้อมือหลี่เซี่ยฉุดขึ้นโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาปฏิเสธ “ปล่อย!” หลี่เซี่ยร้องเสียงเข้ม พยายามดิ้นรน “ข้าไม่ได้” “เจ้าจะหนีอีกหรือ!?” ชายหนุ่มคำราม ลากหลี่เซี่ยขึ้นบนหลังม้าด้านหน้าโดยแรง พริบตานั้นม้าก็พยศด้วยน้ำหนักที่เพิ่มกะทันหัน พร้อมแรงต้านของคนสองคนที่กำลังยื้อกันกลางอาน “เจ้าบ้า! ข้าบอกให้ปล่อยไง!” หลี่เซี่ยผลักอกอีกฝ่ายเต็มแรง แต่แรงโต้กลับกลับทำให้เสียจังหวะ ม้าสะบัดตัวอีกครั้งก่อนจะกระโดดพลิกไปด้านข้าง ร่างทั้งสองกลิ้งตกจากหลังม้ากลางอากาศ ร่างพันกันแน่นหนาราวกับไม่มีใครยอมใคร เสียงกลิ้งดังครืดลงเนิน ร่างทั้งสองกลิ้งทับกันไปจนถึงตีนเขา ก่อนจะหยุดลงกลางกองหญ้านุ่ม กลิ่นดิน กลิ่นหญ้า และกลิ่นกายอีกฝ่ายลอยปะปนจนหายใจแทบไม่ออก “อึก…” หยางจื่อหาวอยู่ด้านบน แขนข้างหนึ่งยันพื้น อีกข้างตรึงร่างหลี่เซี่ยแน่นไว้ใต้ร่าง “เจ้ามันบ้าไปแล้ว…” หลี่เซี่ยกระซิบเสียงพร่า แววตาเต็มไปด้วยความสั่นไหว ทั้งคู่จ้องตากันนิ่งงันลมหายใจร้อนผ่าวประสานกันกลางทุ่งหญ้า สายตา…ที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน แววตาเคยแข็งกร้าวของหยางจื่อหาวแปรเปลี่ยนเป็นลังเล ซับซ้อน และลึกซึ้งอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ส่วนดวงตาคมของหลี่เซี่ยก็ไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนก่อน หากแต่สั่นไหวราวกับกำลังต่อสู้อะไรบางอย่างในใจ ช่วงเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ แต่เหมือนเนิ่นนานเหลือเกิน… แต่อีกมุมหนึ่ง…ห่างออกไปจากทุ่งหญ้าและเงาเขา สายลมพัดไหวเบาๆ คล้ายจะกลบซ่อนบางสิ่งบางอย่าง ใช่...มีใครบางคนกำลังจับจ้องอยู่ในความเงียบงันนั้น ในพุ่มไม้รกชัฏ ไม่ไกลนัก ดวงตาคมกริบคู่หนึ่งสะท้อนแสงอาทิตย์วับวาว ชายผู้นั้นสวมเสื้อคลุมสีดินพรางกลมกลืนกับภูมิประเทศ เงาร่างนิ่งสงบราวกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ แต่ในใจกลับกำลังเดือดพล่าน สายลับ... ผู้ถูกส่งมาจากวังหลวงโดยตรง จาก "ฝ่าบาท" และ "อ๋องหยางหมิง" ภารกิจของเขาคือ เฝ้าจับตา “หลี่เซี่ย” อย่างเงียบเชียบ ไม่ให้คลาดสายตาแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่สายลับคาดไม่ถึง…คือภาพเบื้องหน้าที่ได้เห็น ชายหนุ่มผู้ควบม้ามาหยุดตรงหน้าอีกคนหนึ่ง…ฉุดลากกันขึ้นหลังม้า…กลิ้งตกลงมากลางทุ่งหญ้า… และในตอนนี้ พวกเขานอนแนบชิดกันใต้ร่มเงา แววตาที่มองกัน…เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด "ไม่น่าเชื่อ..." เขาพึมพำในลำคอเบาๆ ไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์นี้หลุดรอดไปได้ เขาหันหลังกลับแทบจะในทันที ฝีเท้าเงียบเชียบแต่เร็วราวกับลมกรด เมื่อถึงที่ซ่อน เขาหยิบกระดาษบางออกมาจากอกเสื้อ มือหยาบรีบเขียนด้วยอักษรลับอย่างเชี่ยวชาญ: “หลี่เซี่ยมีท่าทีสนิทสนมกับท่านอ๋องจื่อหาวเกินกว่าที่ควร...สายตาที่มองกันมิใช่เพียงสหายร่วมศึก...โปรดพิจารณาโดยเร็ว” เขาม้วนกระดาษใส่ปลอกหนัง มัดกับขานกพิราบสื่อสารที่ซ่อนอยู่ในกรงไม้เล็ก แล้วปล่อยให้มันโผบินขึ้นฟ้า มุ่งตรงสู่วังหลวง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD