ภายในใจของโมนาเต็มไปด้วยคำถามซ้อนทับกันวุ่นวาย ความจริงที่ถาโถมเข้ามาเหมือนคลื่นยักษ์ซัดใส่ไม่ยั้ง ไม่แม้แต่จะมีเวลาตั้งหลัก เธอสับสน สะเทือน และไม่แน่ใจว่า...สิ่งที่กำลังเผชิญอยู่นี้คือความจริง หรือเป็นเพียงภาพลวงตาที่เธอยังหาทางตื่นไม่เจอ
“ไม่ใช่ว่าฉันได้กลับบ้านแล้วเหรอ... แล้วทำไมถึงยังอยู่ในร่างใครก็ไม่รู้อีก หรือว่า...เรื่องยังไม่จบ?”
ทันใดนั้น เสียง “เต๊ด... เต๊ด... เต๊ด...” ดังแทรกเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง...เสียงพิมพ์ดีดปริศนา ที่เหมือนมาจากที่ไกลแสนไกล แต่กลับใกล้จนได้ยินชัดในหัว เธอเบิกตาโพลง รีบยกมือขึ้นปิดหูแน่น คล้ายคนจะเป็นบ้า
ทำไมถึงเป็นฉัน? ทำไมต้องมาอยู่ที่นี่? แล้วทั้งหมดนี้คืออะไรกันแน่...?
และในจังหวะที่เธอแทบไม่ไหว วงแขนที่ทั้งอบอุ่นและแน่นหนาก็โอบกระชับเข้าที่เอวจากด้านหลัง ร่างของเธอถูกดึงแนบชิดเข้ากับอกกว้าง ก่อนที่เสียงคุ้นเคยจะกระซิบใกล้หู
“อ๊ะ!” เธอสะดุ้งเฮือก ร่างแข็งเกร็งในทันที
“เป็นอะไรไปครับ...ฮันฮัน?” เสียงนุ่มทุ้มถามใกล้ใบหู ราวกับพยายามปลอบ แต่ดวงตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความสับสน
“คุณเป็นใครคะ…”
ชายตรงหน้าเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยอย่างแผ่วเบา
“โม่โฉวไง...คุณลืมผมไปแล้วเหรอ” เขาค่อย ๆ ปล่อยเธอลงกับพื้น ทว่าแววตานั้นกลับหม่นเศร้าอย่างจับใจ
“จริงสินะ... ก็ผมมันเป็นแค่ตัวแทนของเติ้งหนิงเฉิงนี่”
เขาจ้องเธอด้วยความน้อยใจ ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ รวบเอวเธอขึ้นแนบอกอีกครั้ง...ก่อนจะพาเธอไปวางลงที่ขอบอ่างอาบน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ
“เดี๋ยวผมจะ...ทบทวนให้เอง”
เสียงน้ำจากก๊อกไหลลงอ่างดังไม่ขาดสาย ราวกับกำลังนับถอยหลังให้กับสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ก่อนที่อ่างจะเต็ม ร่างสูงก็โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากของเธออย่างร้อนแรงโดยไม่ให้ตั้งตัว ริมฝีปากแข็งกร้าวบดเบียดเข้ามาจนเธอแทบไม่มีโอกาสหายใจ
“อื้อ...!” มือเล็กพยายามทุบอกแกร่ง ผลักไสสุดแรงเท่าที่มี ทว่ากลับถูกรวบไว้และยกขึ้นอย่างง่ายดาย ร่างบางถูกวางลงในอ่างที่เกือบเต็ม น้ำกระเซ็นกระจายไปทั่วพื้นห้อง เย็นวาบ…แต่กลับไม่อาจดับเปลวเพลิงในอารมณ์ที่กำลังแผดเผาร่าง
“ปล่อยฉันนะคะ!” เสียงตะโกนแหบพร่าด้วยความตื่นกลัว แต่ไม่รู้เพราะอะไร…หัวใจของเธอกลับเต้นรัว ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างฉุดรั้งให้เธออยู่นิ่ง ๆ ทั้งที่สมองร้องบอกให้หนี
มันเป็นสัมผัสที่เธอคุ้นเคย... รู้สึกเหมือนกับ...หลี่เซี่ย...
ดวงตาเบิกกว้างในวินาทีนั้น แต่ก่อนจะได้ทบทวนให้แน่ใจ ร่างสูงก็เข้ามาประชิด เธอถูกร่างสูงเข้ามาครอบครองใต้ร่างของเธอเรียบร้อยแล้ว
จู่ ๆ มือของเธอก็เกี่ยวรั้งร่างเขาเข้ามาแนบชิดแน่นขึ้น...โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว…ราวกับเป็นการกระทำที่ไม่ใช่ของเธอเอง
“อะไรกัน... ฉันหลุดออกมาจากหลี่เซี่ยแล้วนี่นา หรือว่า...นิยายยังไม่จบ? หลี่เซี่ยกับหยางจื่อหาว...มาอยู่ในยุคปัจจุบันงั้นเหรอ?...ยังไม่ได้กลับ แต่แค่เปลี่ยนฉากสินะ...”
ก่อนที่เธอจะคิดเตลิดไปไกลกว่านั้น เสียงหวานก็หลุดออกจากริมฝีปาก
“อ่า…” เสียงครางนั้นแผ่วเบา แต่กลับชัดเจนเสียจนเธอต้องเบิกตากว้าง
“ไม่จริง... ฉันพยายามต่อต้านแล้ว แต่ร่างกายนี้กลับไม่ยอมฟังคำสั่งของฉันเลย…”
ในขณะที่เธอยังคงคิดวนไปมา เสียงทุ้มต่ำก็แทรกเข้ามาในความเงียบ
“ปากเธอบอกว่าจำฉันไม่ได้...” เขาแสยะยิ้ม มุมปากยกขึ้นอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่เจือความพอใจชัดเจน “แต่ร่างกายของเธอน่ะ...ยังตอบสนองแรงปรารถนา เหมือนเคยเลยนะ”
จู่ ๆ ร่างของเธอก็ถูกยกขึ้นลอยเหนือพื้น โดยที่ทุกส่วนยังคงแนบชิดกับเขาไม่ต่างจากก่อนหน้า วงแขนแกร่งตวัดรับใต้ต้นขาอย่างแนบแน่น ขณะที่อีกมือรั้งสะโพกเธอกระแทกเข้าออกจุดอ่อนไหวเขารัวๆระหว่างเดิน...ราวกับจะรวมสองร่างให้กลายเป็นหนึ่งเดียว
เรียวขาของเธอเกี่ยวกระหวัดร่างเขาไว้แนบแน่นอย่างลืมตัว ทั้งโหยหาทั้งกลัวจะตกจากอ้อมแขนที่แข็งแรงเกินจะต้าน
“อ่า...” เสียงครางหวานหลุดออกมาเป็นสาย “ทำไมเค้าแข็งแกร่งอย่างนี้...แข็งแกร่งจนเสียวไปหมด...อ่าาา..”
ร่างกายของเธอสั่นไหวไปตามทุกจังหวะการเคลื่อนไหวของเขา
ก่อนที่ทั้งสองร่างจะไปถึงขอบเตียง ร่างสูงก็หยุดฝีเท้า วางร่างเธอลงบนเตียงนุ่มด้วยแรงที่ทั้งหนักแน่นและเร่งเร้า ราวกับอดกลั้นมานานเกินไป
เธอหอบหายใจ หน้าอกขยับขึ้นลงถี่รัวในขณะที่นอนอยู่ตรงหน้าเขา...ผิวขาวที่มีร่องรอยแผลเป็นจางๆบนผิว นอนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นทุกส่วนที่เขาโหยหา
สายตาคมกริบของเขากวาดมองอย่างหิวกระหาย ริมฝีปากยกยิ้มเพียงเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวลง จูบลงบนหน้าท้องแบนราบของเธออย่างจงใจ
ริมฝีปากร้อนผ่าวลากไล้ขึ้นไปเรื่อย ๆ ทาบทับไปทั่วแผ่นเนื้อ ทั้งแรงและลึก ราวกับจะละลายเธอทั้งร่างให้หลอมรวมกับตัวเขา
มือใหญ่ลูบไล้ตามสัดส่วน สะโพกของเธอถูกรั้งแนบเข้าหาอย่างไม่ให้หลบหนี
“อ่าาา...ซิ๊ดดด...” เสียงหอบครางเบา ๆ หลุดออกจากปากเธอ ขณะที่ความวาบหวามแผ่กระจายไปทั้งกาย
เขากระซิบชิดริมฝีปากเธอ ก่อนบดจูบลงมาอีกครั้ง คราวนี้รุนแรงขึ้นจนเธอแทบไม่มีช่องว่างให้หายใจ
“ยังจะบอกอีกไหม...ว่าร่างกายเธอไม่จดจำฉัน…” เขากระซิบแหบพร่า ก่อนจะกระแทกสะโพกเข้าหาจุดอ่อนไหวเธอถี่ๆรัวๆอีกครั้ง
เสียงกระแทกของเตียงกระทบผนังดังเอียดอ้าดเป็นจังหวะถี่รัว สองร่างบนเตียงขยับประสานกันอย่างไร้ซึ่งช่องว่าง ร้อนแรง เร่งเร้า และดุดันราวกับพายุที่ปลดปล่อยทุกความรู้สึกที่เคยเก็บกดไว้
กระทั่งทุกอย่างพุ่งสู่จุดสูงสุด...ร่างสูงสะท้านเล็กน้อยก่อนจะปล่อยวางตัวลงข้างเธออย่างหมดแรง เสียงหอบหายใจของทั้งสองประสานกันในความเงียบ เสียงเดียวที่ยังคงมีอยู่คือเสียงหัวใจที่เต้นแรง และไออุ่นที่แผ่ซ่านในอากาศ
หลังจากค่ำคืนอันเร่าร้อนที่แสนยาวนาน ทั้งสองร่างก็เผลอหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน จนแสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านเข้ามาแตะต้องผิว
ร่างสูงขยับตัวอย่างเงียบเชียบ ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย และแต่งกายอย่างเรียบร้อยด้วยท่วงท่าสงบนิ่งเหมือนทุกอย่างถูกเตรียมไว้แล้ว
เขากลับมาหยุดยืนข้างเตียงอีกครั้ง ก้มลงหอมแก้มนวลที่ยังหลับสนิทด้วยความอ่อนล้า ริมฝีปากแนบผิวเบา ๆ ราวกับไม่อยากปลุกให้ตื่น
จากนั้น เขาก็ผละออกช้า ๆเดินออกจากห้องโดยไม่ส่งเสียง ทิ้งไว้เพียงกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งบนโต๊ะหน้าทีวี