ช่วงสายของวันเดียวกัน เวย์ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าที่อิ่มเอมเพราะเจ้าตัวได้นอนยาวไปหลายชั่วโมงแถมในอ้อมแขนยังมีร่างนุ่มนิ่มของหญิงสาวหน้าสวยที่เขาเพิ่งจะมีอะไรด้วยเมื่อคืนนี้ แต่ทันทีที่เขาลืมตาตื่นขึ้นเขาก็ต้องขมวดคิ้วเข้มเข้าหากัน เพราะร่างนุ่มนิ่มที่เขาคิดว่าเป็นของหญิงสาวในอ้อมกอดนั้นมันกลับกลายเป็นหมอนข้างใบนุ่มแทน ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องก็ไม่พบร่างบางของเธอแล้ว และอารมณ์ที่สดใสแบบสุดๆ ของเขาก็กลับขุ่นขึ้นมาทันที เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้สิทธิ์นอนค้างคืนกับเขาหรือเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขามาก่อน เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับสิทธิ์นั้นแต่เจ้าหล่อนกลับหนีหายไปในตอนเช้าเนี้ยนะ
“แม่งเอ้ย!! ” เวย์สถบออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะยันตัวลุกออกจากเตียง แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเงินจำนวนหนึ่งที่วางอยู่ที่โต๊ะตัวเล็กข้างเตียงนอน มือหนาเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา เงินพวกนี้เขาแน่ใจว่ามันไม่ใช่ของเขาอย่างแน่นอน และถ้าให้เขาเดามันคงจะเป็นของเธอคนนั้นเป็นแน่
“นี่คิดว่ากูขายตัวเหรอว่ะเนี้ย แม่งเอ้ย!!” เวย์สถบออกมาเสียงดังก่อนจะโยนเงินจำนวนนั้นลงบนเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว.....
................................
หลายวันผ่านไป....
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง.....
หลังเลิกเรียนวิชาสุดท้ายของวันนี้เวย์และกลุ่มเพื่อนพากันมานั่งเล่นกันอยู่ที่โต๊ะม้าหินในลานกิจกรรมข้างๆ ตึกคณะ พร้อมกับพูดคุยกันตามประสาหนุ่มโสด
“ไอ้เวย์คืนก่อนที่คลับพี่ของมึง กูได้ข่าวว่ามึงลากผู้หญิงคนหนึ่งกลับไปด้วย ใครวะ? เด็ดป่ะ?”
เสียงของเซฟเพื่อนของเวย์เอ่ยถามออกมาเพราะอยู่ดีๆ เขาก็นึกเรื่องของคืนก่อนนั้นขึ้นมาได้ เวย์ที่นั่งดูดน้ำอัดลมอยู่ข้างๆ วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะก่อนจะเองหลังพิงไปกับพนักเก้าอี้ พลางในใจของเขาก็ขุ่นมัวขึ้นมาอีกครั้งเพราะนึกถึงเช้าวันนั้นที่เขาตื่นมาแล้วเจอกับเงินก้อนหนึ่งที่วางทิ้งไว้
“ก็เฉยๆ “ เวย์ตอบกลับเพื่อนเสียงเรียบ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดแบบนั้นเพราะเธอคนนั้นยังทำให้เขาคิดถึงสัมผัสของเธอได้จนถึงวันนี้
“แค่เฉยๆ เหรอวะ... น่าเบื่อวะ กูคิดว่าจะแจ่ม” ครามเองก็เอ่ยออกมาหลังจากนั่งฟังเพื่อนรักพูดคุยกัน
“พวกมึงไม่มีเรื่องอื่นคุยกันแล้วใช่ไหม” เมื่อสิ้นเสียงของคราม เสียงของใครบางคนก็ดังขัดบทสนทนาขึ้นมาพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินมาหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กับเวย์
“อ้าว มาแล้วเหรอมึง อาจารย์ว่าไงบ้างวะ?” เวย์หันไม่ถามคนมาใหม่
“ก็ไม่ว่าอะไร... ส่งงานเสร็จก็มาหาพวกมึงเนี้ย” พัต หลังจากที่ส่งงานเสร็จก็เดินเข้ามาหากลุ่มเพื่อนที่นั่งรอเขาอยู่พร้อมกับที่เขามาทันได้ยินเพื่อนรักที่กำลังพูดถึงหญิงสาวที่เวย์ลากกลับไปจากคลับด้วย พัตเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เพราะเขาไม่เคยมั่วกับใคร ดังนั้นเขาเลยไม่ค่อยจะชอบเวลาที่เพื่อนเอาผู้หญิงมาพูดแบบนี้
“ว่าแต่วันนี้เราไปไหนกันดีวะ ร้านเหล้าแถมมหา’ลัยไหม ได้ข่าวว่ามีแต่สาวๆ สวยๆ ทั้งนั้นเลยนะเว้ย” คราม เอ่ยชวนเพื่อนพร้อมกับสายตากรุ้มกริ่มวาบวับของเขา
“ไม่ได้วะ... วันนี้พี่สาวกูมารับ พรุ่งนี้กูต้องกลับบ้านที่อยุธยาแต่เช้า”
“โหหห... มึงเป็นเด็กประถมหรือไงถึงต้องมีผู้ปกครองมารับเนี้ย”
“กูก็บอกอยู่นี่ไงว่ากูต้องกลับบ้านที่อยุธยาแต่เช้าไอ้พวกเวร!!” พัตด่าเซฟกับครามพร้อมกับมุ่นคิ้วเข้าหากัน เวย์เองก็ส่ายหัวไปมาที่ได้ยินบทสนทนาของเพื่อน ก่อนที่เขาจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
“กูก็ไปไม่ได้.... กูมีนัด”
“นัดกับใครวะ?” เซฟและครามผสานเสียงกันถามเวย์พร้อมกับคิ้วที่มุ่นเข้าหากัน เพราะร้อยวันพันปีเวย์ไม่เคยจะปฏิเสธถ้าพวกเขาชวนไปดูสาว ก่อนที่ความสงสัยของพวกเขาจะกระจ่างด้วยเสียงหวานใสของพร้อมกับร่างบางของสาวสวยที่เดินเข้ามาหาเวย์
“พี่เวย์คะ”
“อ้าว... น้องมิล เลิกเรียนแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ... ขอโทษทีนะคะ พอดีมิลไปคุยเรื่องงานกับอาจารย์มาด้วยน่ะค่ะก็เลยมาช้านิดนึง... ว่าแต่เราไปกันเลยไหมคะ... มิลหิวแล้วอ่ะค่ะ”
“ได้ครับ” เวย์ยันตัวลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเข้าไปยืนข้างๆ สาวสวยดาวคณะบริหารที่เขาเพิ่งจะจีบติดเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนจะหันกลับมายักคิ้วให้เพื่อนรักที่นั่งมองเขาตาปริบๆ ก่อนที่เพื่อนรักทั้งสามคนของเขาจะอมยิ้มออกมาเพราะเข้าใจแล้วว่าทำไมเวย์ถึงปฏิเสธที่จะไปร้านเหล้ากับพวกเขา
“มึงนี่มันร้ายไอ้สัส” เซฟเอ่ยแซวเวย์ แต่เจ้าตัวกลับยักไหล่ไม่สนใจ ส่วนน้องมิลก็ยืนบิดเขินอยู่ข้างๆ เวย์
Rrrrr.... ในขณะที่เพื่อนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ของพัตก็ดังขึ้นมา เขาหยิบมันออกมาดูก่อนจะกดรับสาย
“ครับพี่”
“(พัตอยู่ไหน)”
“มาถึงแล้วเหรอพี่?”
“(ถึงแล้ว... แล้วก็หิวน้ำมากด้วย นี่พี่กำลังเดินไปซื้อน้ำที่ซุ้มน้ำข้างตึกคณะของเราอ่ะ)”
“งั้นก็เดินมาเลย ผมก็อยู่แถวๆ ซุ้มน้ำนี่แหละ”
“(โอเคจ้ะ)”
พัตวางสายจากพี่สาวก่อนที่จะหันซ้ายขวาเพื่อมองหาเธอเพราะเธอบอกว่ากำลังเดินมา ก่อนที่สายตาของเขาจะเห็นผู้หญิงร่างบางที่กำลังเดินตรงมาทางเขาแต่ดูเหมือนเธอจะไม่เห็นเขาเพราะเจ้าตัวเอาแต่ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์มือถือในมือ
“พี่มึงมาแล้วเหรอวะไอ้พัต?” ครามเอ่ยถามพัตเมื่อเห็นเขาคุยโทรศัพท์กับพี่สาว
“เออ มาแล้ว... นั่นไง” พัตตอบกลับเพื่อนก่อนจะชี้นิ้วไปทางหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ให้เพื่อนๆ ของเขาดู
“พี่... พี่พาย... ทางนี้พี่!!”
พัตตะโกนออกไปพร้อมกับลุกขึ้นยืนโบกไม้โบกมือเพื่อให้พี่สาวของตัวเองเห็นเขาได้ง่ายๆ และเพื่อนๆ ของเขาที่มองตามสายตาของพัตไป แต่กลับมีอยู่คนหนึ่งที่พอเห็นว่าเป็นใครที่กำลังเดินเข้ามาก็นิ่งอึ้งไป พร้อมกับมุมปากหยักที่ยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงนั่งลงไปอีกครั้ง
“อ้าว พัต... เออ....”
พายที่เดินมาถึงกลุ่มของน้องชายก็ชะงักเท้านิดหน่อยเพราะสายตาเพื่อนของน้องชายเธอที่มองมานั้นทำเอาเธอทำตัวไม่ถูกเลย ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมารับน้องชายที่มหา’ลัยแต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับเพื่อนของน้องชายตัวเอง เพราะตั้งแต่เรียนมหา’ลัยพัตก็ไม่เคยพาเพื่อนไปที่บ้านเลย
“สวัสดีครับพี่สาว... ผมชื่อเซฟนะครับ เป็นเพื่อนของไอ้พัต”
เซฟที่เห็นพายเดินเข้ามาเขาก็ชิงแนะนำตัวก่อนคนอื่นทันที เพราะพี่สาวของเพื่อนที่เขาจินตนาการไว้นั้นกลับตรงกันข้ามกับพายโดยสิ้นเชิง แม้พัตจะเคยบอกว่าพี่สาวของเขาอายุห่างกับเขาถึง 5 ปีก็ตาม เพราะพายดูสาวและสวยกว่าที่เขาคิดไว้มาก ทั้งรูปร่างและหน้าตาของเธอนั้นทำเอาเซฟละสายตาไม่ได้เลย วันนี้พายใส่ชุดเดรสสีกรมตัดกับสีขาวและมีเสื้อสูทตัวยาวสีกรมทับอีกที ผมยาวของเธอถูกดัดเป็นลอนหลวมๆ พร้อมกับรองเท้าส้นสูงสีเดียวกับชุด พายที่เห็นเซฟมองตัวเองตาแทบไม่กระพริบก็เริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมา เธอก้มมองตัวเองเพราะคิดว่าตัวเองมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
“ไอ้เซฟ มองพี่เขาตาไม่กระพริบเลยนะมึง พี่เขาเขินหมดแล้ว... ผมชื่อครามนะครับ เป็นเพื่อนไอ้พัตเหมือนกัน” ครามหันไปดุเพื่อนแล้วหันกลับมาแนะนำตัวกับพายอีกคน และสายตาของเขาก็ไม่ต่างจากเซฟสักเท่าไร พายเองก็ยิ้มรับเพื่อนทั้งสองคนของน้องชาย
“ค่ะ... พี่ชื่อพายคะ”
“พี่พายยยยย” สองหนุ่มเหมือนหลุดลอยและเคลิ้มไปกับรอยยิ้มหวานของพาย จนทำให้พัตถึงกับต้องตบกะโหลกเพื่อนทั้งสองเพื่อเรียกสติ
“โอ้ยยย... เจ็บนะเว้ยไอ้พัต” เซฟและครามโอดครวญที่โดนพัตตบพลางลูบหัวของตัวเองปรอยๆ ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับพายอีกครั้ง พายเองก็อมยิ้มกับท่าทางของพวกเขา
“พี่กูไอ้พวกเวร!!”
“งั้นเรากลับกันเลยไหม... เดี๋ยวรถติด” พายยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาแล้วหันไปพูดกับน้องชายตัวเอง
“อื้ม... กลับกันเหอะ อยู่นานๆ ไม่ดีหรอกพี่... ไอ้พวกนี้มันโรคจิต”
“อ้าว... ไอ้พัต ไอ้เหี้ย...ดิสเครดิตพวกกูเลยเหรอ” เซฟมองค้อนให้พัตที่ชิงแฉพฤติกรรมของพวกเขาให้พายได้ฟัง แต่พัตกลับยักไหล่ไม่สนใจสายตาขุ่นเคืองของเพื่อนเลย
“ถ้างั้นพี่กลับก่อนนะคะ” พายยิ้มขำๆ ให้กับน้องชายและเพื่อนๆ ก่อนจะเอ่ยลาพวกเขาพร้อมกับหันไปยิ้มให้หญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ พวกเขาด้วย พลางในใจเธอก็คิดว่าสาวสวยคนนี้อาจจะเป็นเพื่อนของพวกน้องชายของเธอ น้องมิลเองที่เห็นพายยิ้มให้เธอก็ยิ้มตอบแต่ยังคงยืนนิ่งอยู่
“มึงไม่คิดจะแนะนำกูให้พี่สาวของมึงรู้จักหน่อยเหรอ”
แต่ก่อนที่พายและพัตจะได้ก้าวขาออกไปกลับมีเสียงทุ้มของใครบางคนเอ่ยออกมาทำเอาพัตและพายถึงกับต้องหยุดเดิน เวย์ที่นั่งอยู่ด้านหลังของเพื่อนและฟังอยู่นานค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พร้อมกับสายตาคมของเขาที่มองตรงไปยังพาย พายเองพอเห็นคนที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นเธอก็นิ่งอึ้งไป
“เออ... กูลืม... พี่พาย...นี่ไอ้เวย์เพื่อนผมอีกคนพี่”
“สวัสดีครับ.... พี่พาย...” เวย์ยกยิ้มแล้วมองหน้าเธอนิ่งๆ แต่ตอนนี้พายรู้สึกเหมือนช็อกพร้อมกับคำหนึ่งที่ผุดขึ้นในหัวของเธอตอนนี้ ....เหี้ย!!!!....
พายที่ตกอยู่ในอาการช็อกรีบสะบัดหัวตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติ เธอจำคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดีว่าเขาเป็นใครและก็เหมือนว่าเขาเองก็จำเธอได้เช่นกัน แต่แค่ไม่คิดว่าจะมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้ และเขายังอยู่ในฐานะเพื่อนของน้องชายตัวเองอีก พลางในหัวของเธอก็คิดว่านี่มันคือความบังเอิญหรือโลกกลมกันแน่??
“เออ... ค่ะ... พัตกลับกันเหอะ” พายตอบกลับเวย์แค่นั้นก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไปเลย พัตที่เห็นแบบนั้นก็วิ่งตามพี่สาวออกไป
“อ้าว พี่ รอด้วยดิ!! ไหนว่าหิวน้ำไง ไปซื้อน้ำก่อนไหม”
“แกไปซื้อให้พี่หน่อย... เดี๋ยวพี่ไปรอที่รถ” พายตอบกลับพัตแบบลวกๆ แล้วรีบก้าวเท้าเดินไปยังลานจอดรถทันทีพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัวของเธอ
และทันทีที่เข้ามานั่งในรถพายก็ยกมือขึ้นกุมหัวใจของตัวเองที่ตอนนี้รู้สึกได้ถึงแรงสั่นของมันจนแทบจะทะลุอกออกมาอยู่แล้ว
“นี่เรา.... มีอะไรกับเพื่อนของน้องชายเหรอวะเนี้ย” เสียงหวานของพายพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นทึ้งหัวตัวเองไปมา พลางภาพในคืนนั้นของเธอกับเขาก็ฉายวนกลับเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง ...ยัยพายเอ้ยยยย โคตรซวยเลย...