13 : ค็อกเทลเป็นเหตุ

2659 Words
ร้านอาหารบนดาดฟ้าตึกสูงกลางใจเมืองที่มีผู้คนบางตาเพราะร้านแห่งนี้ต้องจองโต๊ะไว้เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ได้ขึ้นมา และหนึ่งในนั้นก็คือพายและริชา สองสาวเลือกนั่งโต๊ะริมมุมหนึ่งของร้านติดกับระเบียงกระจก พายทอดสายตามองไปยังแสงสียามค่ำคืนของเมืองใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหล สายลมเย็นพัดผ่านกระทบผิวบางจนรู้สึกหนาวและใบหน้าหวานนั่นก็หม่นลงถนัดตาเมื่อนึกถึงเรื่องราวของเช้าวันนี้ จริงๆ แล้วเธอนึกถึงมันตลอดทั้งวันจนแทบไม่เป็นอันทำงาน ทั้งเรื่องของเวย์และเรื่องของคิวท์มันก่อกวนเธออยู่ไม่น้อย “เป็นไรไป... กรูเห็นเมิงนั่งเหม่อตั้งแต่มาถึงละ กรูอุตส่าห์พามาร้านหรูขนาดนี้ยิ้มให้เห็นว่าเมิงดีใจหน่อยได้ไหมเพื่อนรัก” เสียงใสของริชาเหน็บแนมพายที่เอาแต่สนใจกับวิวทิวทัศน์เบื่องหน้าจนไม่สนใจเธอเลย “จร้า.... แม่นักขายดีเด่น ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์พากรูมาเลี้ยงข้าวด้วยกิฟวอเชอร์ที่ลูกค้าให้เมิงมาฟรีเนี้ย” พายหันมามองริชาพร้อมกับประชดประชันเธอไปหนึ่งดอกก่อนจะหลุดยิ้มออกมากับท่าทางงอนๆ ของริชา “ก็ได้มาฟรีนี่นาต้องรีบใช้เดี๋ยวมันหมดอายุ” ริชาหัวเราะเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าที่วันนี้เธอและพายได้มาทานข้าวที่นี่ก็เพราะกิฟวอเชอร์ที่เธอได้รับมาจากลูกค้าของเธอ “ว่าแต่เมิงเป็นอะไรหรือเปล่ากรูเห็นเมิงเหม่อๆ ตั้งแต่ที่บริษัทแล้วนะ” “เปล่า... ไม่มีอะไรหรอก กรูก็คิดอะไรไปเรื่อยนั่นแหละ สั่งอาหารเถอะหิวแล้ว” พายเลือกที่จะไม่บอกริชา เพราะเธอรู้ดีว่าเพื่อนรักของเธอจะโกรธมากหากรู้ว่าคิวท์กลับมาหาเธออีกครั้ง สองสาวนั่งทานอาหารกันไปพูดคุยกันไปพร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบข้าง แต่อีกมุมหนึ่งของร้านนั้นกลับมีใครบางคนกำลังนั่งมองมาทางพวกเธออย่างไม่ละสายตาเลยทีเดียว.... เวย์ที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของร้านกำลังจ้องมองผู้หญิงที่เขานอนกอดมาทั้งคืนและเป็นคนเดียวกันกับที่ทำให้เขาหงุดหงิดมาตลอดทั้งวันอีกด้วย สายตาคมของเขาจ้องมองผ่านผู้คนเลยไปยังพายที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของร้าน จะบอกว่าเป็นความบังเอิญก็คงไม่ผิดเพราะวันนี้ที่เขามาอยู่ที่นี่ก็เพราะแม่ของเขาบังคับให้เขาพาคู่หมั้นมาทานข้าวนั่นเอง คู่หมั้นที่เขาเองไม่ได้เต็มใจจะหมั้น “พี่เวย์คะ... ทำไมไม่เห็นทานอะไรเลยหละคะ อิ่มแล้วเหรอ?” เสียงใสของหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเอ่ยถามขึ้นและมันก็ดึงให้เวย์หลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง เขาละสายตาจากพายแล้วหันมามองเธอ.... แอร์ริน สาวสวยลูกสาวเพื่อนสนิทของแม่เวย์ เธออายุน้อยกว่าเขาสองปี และเธอก็มีบุคลิกน่ารักสดใสแถมยังยิ้มเก่งและเป็นที่หมายตาของหนุ่มๆ แต่เวย์กลับไม่คิดแบบนั้น เขาและเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กและเขาก็เห็นเธอเป็นเพียงแค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายกลับจับทั้งคู่หมั้นกันซะอย่างนั้นโดยไม่ถามความสมัครใจเลย “ไม่หิวน่ะ... เธอกินต่อเถอะ” ว่าพลางยกแก้วน้ำเย็นเฉียบขึ้นดื่มพร้อมกับสายตาที่ปรายไปมองอีกมุมหนึ่งของร้านอีกครั้ง แต่แล้วคิ้วหนาก็ต้องขมวดเข้าหากันเพราะภาพที่เห็นไม่ได้มีแค่พายกับเพื่อนของเธอแต่ยังมีผู้ชายอีกคนที่เขาไม่รู้จักอยู่ด้วย และทั้งสามคนก็ดูเหมือนจะสนิทสนมกันจนทำเอาคนแอบมองอย่างเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา “ใครวะ!” เสียงทุ้มพึมพำออกมาเบาๆ พร้อมกับมือหนาที่บีบแก้วน้ำจนแน่น.... ทางด้านของพาย.... ในขณะที่เธอกับริชากำลังทานอาหารกันอยู่นั้นกลับมีใครบางคนเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงทุ้มที่เอ่ยทักทาย แต่พอสองสาวเงยหน้าขึ้นมองคนมาใหม่ก็ต้องเผยรอยยิ้มออกมาเพราะคนตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่นเขาคือชานนท์นั่นเอง “พี่นนท์มาทานข้าวที่นี่เหมือนกันเหรอคะ?” ริชาฉีกยิ้มเอ่ยทักทายชานนท์ที่ยืนยิ้มมองพายอยู่ “ครับ... พี่มากับเพื่อนๆ น่ะ พอดีเห็นเราสองคนก็เลยเดินมาหา แล้วนี่มากันแค่สองคนเหรอครับหรือว่ามีใครมาด้วยอีกหรือเปล่า?” “มากันแค่สองคนนี่แหละคะ” ยังเป็นริชาที่ตอบออกไป ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปมองพายแล้วยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาแล้วหันกลับไปมองชานนท์ที่เอาแต่ยืนยิ้มมองหน้าเพื่อนรักของเธออยู่ “พี่นนท์นั่งด้วยกันไหมคะ?” “แกก็ชวนไม่คิดนะริชา... พี่เขาก็บอกอยู่ว่ามากับเพื่อน” พายที่เห็นสายตาของเพื่อนจึงรีบตอบออกไป ไม่ใช่ว่าเธอรังเกียจชานนท์หรอกนะแต่เธอแค่ไม่อยากให้ความหวังเขาก็เท่านั้น “ถ้าพายกับริชาไม่ว่าอะไร งั้นพี่ขอนั่งด้วยคนนะครับ” “ยินดีมากเลยคร้า” ริชาฉีกยิ้มกว้างแล้วผ่ายมือให้ชานนท์นั่งลงข้างกับพาย พายเองก็ยิ้มฝืดกลับไปให้เขาก่อนจะหันมาถลึงตาใส่เพื่อนรักของตัวเองที่ดูก็รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ “ทานข้าวเสร็จแล้วจะไปไหนกันต่อไหมครับ?” ชานนท์เอ่ยถามออกมาแต่สายตาของเขากลับจ้องมองพายพร้อมรอยยิ้มบางๆ “ไม่ได้ไปไหนต่อหรอกค่ะว่าจะกลับบ้านเลย วันนี้พายเหนื่อยๆ น่ะค่ะ” พายเองก็ตอบกลับเขาไปพร้อมรอยยิ้มบางๆ เช่นกัน เพราะวันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยจริงๆ เพราะมีทั้งเรื่องงานและเรื่องของใครบางคนที่กำลังก่อกวนใจเธออยู่ “พี่ว่าจะชวนดื่มอยู่พอดีเลย แต่ถ้าพายอยากกลับบ้านก็ไม่เป็นไรครับ” ชานนท์มีสีหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบของพาย ทำเอาคนตอบรู้สึกผิดขึ้นมาเลย “ถ้างั้นพายอยู่ดื่มกับพี่ก่อนก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้วันหยุดอยู่ดึกนิดหน่อยคงไม่เป็นไร” พายตอบออกไป เธอเองพอเห็นสีหน้าของชานนท์ก็ไม่อยากเสียมารยาทกับเขาเพราะเขาอุตส่าห์ชวน สิ้นเสียงของพายชานนท์ก็ยิ้มกว้างออกมาทำเอาคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างริชาอดที่จะแซวไม่ได้ “แหม... ยิ้มกว้างเชียวนะคะพี่นนท์” “ครับ” ตอบกลับริชาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทั้งสามคนนั่งพูดคุยกันจนกระทั่งบนโต๊ะตอนนี้มีแก้วเครื่องดื่มสีสวยมาวางอยู่แล้ว พายยกแก้วค็อกเทลขึ้นจิบเบาๆ ก่อนจะเผยรอยยิ้มหวานออกมา “รู้ไหมครับว่าค็อกเทลแต่ละแบบมันบ่งบอกรสนิยมและนิสัยของคนดื่มด้วยนะ” ชานนท์เอ่ยออกมาพลางปรายสายตามองพายไปด้วย พายเองก็ยิ้มบางๆ คิ้วเรียวเลิกสูงเป็นเชิงถาม “ยังไงคะ?” “ก็อย่างที่พายกำลังดื่มอยู่คือ Blue Margarita (บลู มาการิต้า) ใช่ไหมครับ... สีฟ้าของมันกับรสชาติหวานอมเปรี้ยวมันช่วยเพิ่มความสดชื่นให้คนที่ดื่มมันได้เป็นอย่างดี และมันยังสื่อได้ดีด้วยว่าคนที่ดื่มมันเป็นคนที่มีความเรียบง่าย สบายๆ และชื่นชอบในธรรมชาติ... เหมือนกับพายไง... พี่พูดถูกไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมกับสายตาหวานที่จ้องมองเธอ “ค่ะ...” พายเองก็อมยิ้มเบาๆ เพราะที่เขาพูดมามันก็ถูก “แหม... รู้สึกว่าพี่นนท์นี่จะรู้ใจยัยพายไปซะทุกอย่างเลยนะคะ แล้วอย่างนี้ที่ริชาดื่ม Cosmo (คอสโม) นี่หมายความว่าริชาเป็นคนยังไงคะ” ริชาเอียงคอมองพายกับชานนท์พร้อมกับเอ่ยแซวออกมาเบาๆ แต่คำพูดของเธอกลับทำให้พายถลึงตาใส่ แต่คนอย่างริชามีเหรอจะสนใจ เจ้าตัวไม่สนใจแถมยังยิ้มกวนให้เพื่อนรักอีกต่างหาก “พี่ว่าคอสโมก็เหมาะกับริชาดีนะ... รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ดื่มง่ายแถมมีแอลกอฮอล์น้อยด้วย มันเหมาะกับคนที่มีความหวานซ่อนเปรี้ยวและมีความมั่นใจในตัวเองอย่างริชา” เสียงทุ้มตอบกลับ และคำตอบของเขาก็ทำเอาริชายิ้มกว้างออกมาทันที “พี่นนท์พูดผิดแล้วหละคะ ริชาไม่ใช่ผู้หญิงหวานซ่อนเปรี้ยวแต่เป็นผู้หญิงเปรี้ยวปรี๊ดเลยต่างหาก” คำพูดทะเล้นกับรอยยิ้มขี้เล่นทำเอาชานนท์และพายถึงกับหัวเราะออกมา “แล้วแก้วของพี่นนท์หละคะ... มีความหมายไหม?” พายหันกลับมาสนใจคนข้างๆ เพราะเธอเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาแล้ว ชานนท์เองก็หันมาตอบเธอพร้อมรอยยิ้มบางๆ แสนละมุนของเขา “ปกติพี่ไม่ค่อยชอบดื่มค็อกเทลหรอกครับ... แต่ Dry Martini (ดรายมาร์ทีนี) แก้วนี้มันเหมาะกับผู้ชายแบบพี่... ความเข้มของมันบ่งบอกได้ดีว่าคนดื่มมันชอบความท้าทายและต้องการค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง...” “แล้วมันเหมือนกับพี่ตรงไหนคะ? พายว่าพี่นนท์เป็นผู้ชายอบอุ่นต่างหาก น่าจะเหมาะกับเครื่องดื่มซอฟท์ๆ มากกว่า” เสียงหวานตอบออกไป เพราะชานนท์ที่เธอรู้จักเป็นผู้ชายในแบบที่เธอพูดจริงๆ “เหมือนตรงที่พี่ชอบความท้าทายไง... ท้าทายกับความยากที่อยากจะทำความรู้จักกับพายให้มากขึ้นไงครับ” เสียงทุ้มตอบออกไปพร้อมกับสายตาคมที่จ้องใบหน้าหวานของพายนิ่ง และมันก็ดูจริงจังจนคนถูกมองรู้สึกได้ แต่สิ่งที่ชานนท์พูดออกมาทำเอาพายถึงกับเงียบไป สายตาหวานของเธอจ้องมองหน้าของเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมายกแก้วเครื่องดื่มของตัวเองขึ้นกระดกรวดเดียวหมดแก้ว “พายขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” พูดจบพายก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปทางห้องน้ำทันที ชานนท์มองตามเธอไปก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ ออกมา เพราะสิ่งที่พายแสดงออกมามันชัดเจนแล้วว่าเธอไม่ได้คิดแบบเดียวกับเขา “ให้เวลาพายมันหน่อยนะคะพี่นนท์... มันยังไม่พร้อมเริ่มใหม่จริงๆ” ริชามองชานนท์ด้วยความเห็นใจเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พายปฏิเสธความรู้สึกดีๆ จากชายหนุ่มตรงหน้า และเธอก็รู้ดีว่าทำไมเพื่อนรักของเธอถึงได้ทำแบบนี้ “พี่เข้าใจครับ...” พายเลี่ยงที่จะตอบคำถามของชานนท์โดยการขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำเพราะเธอรู้ดีว่าเขารู้สึกยังไงกับตัวเอง แต่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเธอจึงเลือกที่จะเดินออกมาดีกว่าที่จะต้องนั่งฝืนยิ้มต่อ... หลังจากที่พายจัดการธุระส่วนตัวเสร็จและกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเองนั้นร่างบางของเธอก็ถูกดึงรั้งจากใครบางคนจนเธอเซถลาไปตามแรงดึง แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับคนที่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ “เวย์!!” “ไงครับพี่สาวเพื่อน!” เสียงทุ้มพร้อมกับสายตาดุดันมองเธอนิ่ง ฝ่ามือหนาบีบแขนของพายเอาไว้จนแน่นและมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับเธออยู่ไม่น้อย “เวย์ปล่อย! มันเจ็บ!” พายเชิดหน้ามองอย่างเอาเรื่อง เขาเป็นแค่เพื่อนของน้องชายเธอแท้ๆ แล้วมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับเธอ “ทำไม!... จะรีบกลับไปหาไอ้หมอนั่นเหรอ? เมื่อคืนนอนกับฉัน... เช้ามาก็กอดกับผู้ชายอีกคนที่หน้าบ้าน พอตอนเย็นก็มากินข้าวกับผู้ชายอีกคน... เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ เลยพาย!” ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มออกมาพร้อมกับเสียงทุ้มที่ถูกเค้นรอดไรฟันออกมา พอนึกไปถึงเรื่องเมื่อเช้าที่เห็นเธอยืนอยู่กับผู้ชายที่หน้าบ้านเวย์ก็อารมณ์ขุ่นขึ้นมาทันที “พูดให้มันดีๆ นะ... ฉันกับนายแค่นอนห้องเดียวกันและฉันเองก็ไม่ได้เต็มใจด้วย นายบังคับฉันต่างหาก!... ส่วนเรื่องที่ฉันจะคุยกับใครหรือกินข้าวกับใครนั่นมันก็เป็นเรื่องของฉัน เด็กอย่างนายอย่ายุ่ง!!” ใบหน้าหวานเชิดขึ้นพร้อมกับถ้อยคำที่เอ่ยออกไป แต่สิ่งที่เธอพูดออกไปนั้นกลับทำให้คนฟังอารมณ์ขุ่นขึ้นมากกว่าเดิม “เด็กงั้นเหรอ!! จำไม่ได้หรือไงว่าเด็กคนนี้นี่แหละที่เป็นผัวเธอ!!” “แค่ครั้งเดียวฉันไม่นับหรอก ถือซะว่าแค่ทางผ่าน!!” “พาย!!” เวย์โกรธจนขบกรามขึ้นเป็นสันนูน คำพูดของเธอมันกวนอารมณ์ที่คุกรุ่นของเขาอยู่แล้วให้ทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก “เป็นบ้าอะไรของนายมาขึ้นเสียงใส่ฉันทำไม!! โอ้ยยย!! ปล่อยนะ!! นายจะพาฉันไปไหน!!” พายขึ้นเสียงใส่คนตรงหน้าแต่แล้วก็ต้องร้องเสียงหลงเพราะอยู่ดีๆ เวย์ก็ลากแขนเธอให้เดินตามเขาไปจนถึงลิฟท์ “เวย์หยุด!! หยุดเดี๋ยวนี้ฉันจะกลับไปหาเพื่อน!!” เสียงหวานโวยวายแต่คนตัวโตกลับไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูดเลย เพราะตอนนี้ความโกรธมันกำลังครอบงำเขา มือหนายื่นไปกดลิฟท์โดยไม่สนใจเธอเลย ก่อนจะลากเธอเข้าไปด้านในด้วยกัน ทันทีที่เข้ามาถึงด้านในลิฟท์ร่างสูงของเวย์ก็ดันร่างเล็กของพายเข้าไปจนชิดมุมพร้อมกับใช้แขนแกร่งทั้งสองข้างยันกับผนังลิฟท์ไว้ สายตาคมจ้องมองเธอด้วยความดุดัน “ถ้าไม่หยุดโวยวายฉันจะจับเธอกระแทกให้ยับตรงนี้เลย!” เสียงเย็นเหยียบถูกเค้นรอดไรฟันออกมา ทำเอาพายถึงกับเบิกตากว้างทันที และความร้อนก็แล่นผ่านแก้มขาวของเธอไปจนถึงใบหู คำพูดที่แสนดุดันและหยาบคายของเวย์ทำเอาพายร้อนวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก จริงๆ เธอควรจะโกรธเขาสิไม่ใช่มารู้สึกร้อนรุ่มแบบนี้ พายสะบัดหน้าของตัวเองเบาๆ เพื่อไล่ความคิดบ้าๆ ออกจากหัว “พูดบ้าอะไรของนาย! ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ! ฉันจะกลับไปหาเพื่อนฉัน!” “จะกลับไปหาเพื่อนหรือจะกลับไปหาไอ้หมอนั่น!!” “พูดให้มันดีๆ นะเวย์ เขาเป็นผู้ใหญ่กว่านาย ฉันเองก็เหมือนกัน... ฉะนั้นช่วยให้เกียรติฉันด้วย!” “หึ!! โทษทีวะพายฉันมันเป็นผู้ชายประเภทดื่ม On The Rock (ออน เดอะ ร็อค) ไม่ใช่พวกติ๋มๆ แดกค็อกเทลเหมือนไอ้หมอนั่น!!” สิ้นเสียงของเวย์พายก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่าสิ่งที่เขาพูดมันหมายถึงอะไร นี่เขาคงได้ยินในสิ่งที่พวกเธอคุยกันสินะ “ไม่มีใครบอกรึไงว่าแอบฟังคุยอื่นเขาคุยกันน่ะมันเสียมารยาท!” “แหกปากคุยกันดังขนาดนั้นนั่งอยู่อีกตึกหนึ่งยังได้ยินเลยมั้ง!” “เวย์! นายนี่มันมารยาททรามจริงๆ เลย ไอ้เด็ก.... อื้มมม...!!” พายยังด่าไม่ทันจบเวย์ก็พุ่งเข้ามากดจูบเธอทันทีเพราะเขาทนฟังเธอด่ามามากพอแล้ว การที่เธอปกป้องคนอื่นแล้วด่าเขาฉอดๆ มันทำให้เขาหงุดหงิดจนคุมตัวเองไม่อยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD