16 : ไม่ยอมรับ

1930 Words
เช้าวันต่อมาเวย์ตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนนุ่มภายในห้องนอนกว้างของพาย เพราะเมื่อคืนนี้เขาและเธอทำกิจกรรมกันต่อเนื่องนานหลายชั่วโมงจนหมดแรงหลับใหลไปด้วยกัน และมันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องเมื่อคืนมันทำให้เขารู้สึกดีเอามากๆ แต่พอตื่นขึ้นมาคิ้วหนากลับต้องขมวดเข้าหากันเพราะนอกจากที่เขาได้นอนกอดหมอนข้างแทนคนตัวเล็กแล้ว แถมที่นอนข้างๆ ก็ยังว่างเปล่าอีกด้วย มือหนายื่นไปสัมผัสฝั่งที่พายนอนเมื่อคืนก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเธอลุกออกจากเตียงไปนานแล้วเพราะพื้นที่ที่มันควรจะอุ่นแต่ตอนนี้กลับเย็นเฉียบ เวย์ดันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะโยนหมอนข้างที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้กอดมันแทนกอดพายไว้ข้างเตียง พลางสายตาคมก็พลันหันไปเห็นเงินสดจำนวนหนึ่งที่ถูกวางไว้ข้างโทรศัพท์มือถือของเขาที่โต๊ะตัวเล็กข้างหัวเตียง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนยุ่ง “นี่คิดว่ากูขายอีกแล้วเหรอวะเนี้ย.... พาย!!” เสียงเข้มเค้นรอดไรฟันออกมา ตัวไม่อยู่แถมยังทิ้งเงินสดไว้ให้เขาอีก นี่เธอยังคิดว่าเขาทำงานอย่างว่าอยู่อีกสินะ แม่งเอ้ย!! เวย์เดินลงมาชั้นล่างของบ้านพลางสายตาก็สอดส่องมองหาเจ้าของบ้านไปด้วย แต่มองหาเท่าไรก็ไม่เจอแถมรถของเธอที่จอดอยู่หน้าบ้านก็ยังหายไปด้วย “หายไปไหนของเธอวะพาย!” เสียงทุ้มบ่นพึมพำอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก Rrrrr… ในขณะที่เวย์กำลังหัวเสียอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นและหน้าจอก็โชว์เบอร์ของคนที่ทำเอาเวย์ถึงกับต้องถอนหายใจยาวๆ ออกมา “ครับแม่” เสียงทุ้มกรอกไปตามสาย แต่เสียงของปลายสายที่ตอบกลับมานั้นทำเอาเขาถึงกับต้องดึงโทรศัพท์ออกจากหูทันที “(เจ้าตัวดีเมื่อคืนก่อเรื่องอะไรไว้!!)” “ผมไปทำอะไรครับ?” คิ้วหนามุ่นเข้าหากันก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองทิ้งใครอีกคนไว้ที่ร้านอาหารเมื่อคืนนี้ “(ยังจะมาถามอีก... ทำไมเราถึงได้ทิ้งหนูแอร์รินไว้ที่ร้านอาหารนั่นห๊ะตาเวย์!!)” และก็เป็นไปอย่างที่เขาคิดไว้ แอร์รินคงฟ้องแม่ของเขาเรียบร้อยแล้วสินะ “ผมไม่ได้ตั้งใจทิ้งนะครับ ผมแค่มีเรื่องด่วนต้องทำน่ะครับ” “(เรื่องด่วนอะไรที่ทำให้แกต้องทิ้งคู่หมั้นของตัวเองให้กลับบ้านเองห๊ะ!!)” คำถามของแม่ทำเอาเวย์ถึงกับส่ายหัว จะให้เขาบอกได้ไงหละว่าธุระด่วนของเขาคือลากสาวกลับบ้าน แถมไม่ใช่บ้านของตัวเองอีกต่างหาก แล้วตื่นมาตอนเช้ายังโดนเธอทิ้งอีก “โถ่แม่ครับ... ยัยนั่นโตแล้วนะครับ อีกอย่างผมไม่ได้เต็มใจหมั้นซะหน่อย ฉะนั้นผมไม่จำเป็นต้องคอยเอาใจหรือแคร์เธอ” “(ตาเวย์!!)” “แค่นี้ก่อนนะครับผมง่วง รักแม่นะครับ” พูดจบก็ตัดบทวางสายทันทีเพราะขืนคุยนานกว่านี้เขาได้โดนแม่บ่นจนหูชาแน่นอน จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกจากบ้านของพายไปด้วยท่าทางหงุดหงิด “อย่าให้เจอนะพายพ่อจะจัดให้หนักเลย!” เสียงเข้มบ่นพึมพำ พลางมือหนาก็กดโทรศัพท์เพื่อโทรหาตัวต้นเรื่องที่ทำให้เขาหงุดหงิดตั้งแต่เช้าไปด้วย.... .................................. ทางด้านของพาย... “พี่พายค่ะหนูว่าเอกสารอันนี้มันผิดนะคะ... มันเลยทำให้ตรงนี้ไม่ตรงกัน” “ไหนขอพี่ดูหน่อย” “อันนี้ค่ะ” “อืม... จริงด้วย งั้นปูเป้ช่วยส่งเมล์ไปแจ้งบริษัทนี้หน่อยนะ แล้วก็กำชับให้เขาส่งเอกสารฉบับใหม่มาให้เราวันจันทร์ด้วย เพราะพี่ต้องสรุปงบส่งให้พี่แหม่มดูในวันอังคาร” “ได้ค่ะพี่พาย” เสียงพูดคุยดังขึ้นภายในห้องทำงานของแผนกบัญชีที่มีพายเป็นหัวหน้าแผนก วันนี้เป็นวันเสาร์แต่ด้วยว่ามีงานด่วนผู้จัดการแผนกเลยโทรหาเธอแต่เช้า จนทำให้พายต้องได้มาทำงานในวันหยุดของตัวเองในสภาพที่ไม่เต็มร้อยสักเท่าไร เพราะเมื่อคืนนี้เธอผ่านสมรภูมิรบกับเวย์มาอย่างดุเดือด แล้วกว่าเวย์จะยอมให้เธอได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบค่อนคืนแล้ว ไม่รู้เขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนดุดันไม่มีแผ่วเลย คิดมาถึงตรงนี้แล้วก็โมโหตัวเองที่ยอมให้เขาทำอะไรตามใจแถมเธอเองยังรู้สึกดีไปด้วยอีก พายส่ายหน้าไปมาเบาๆ เพื่อไล่ความคิดของตัวเองก่อนจะหันกลับไปสนใจงานตรงหน้าต่อ แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำงานต่อโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้นและเบอร์ที่โชว์หน้าจอนั้นก็ไม่คุ้นเอาซะเลย ก่อนที่มือบางจะกดรับสาย “สวัสดีค่ะ พายพูดค่ะ” เสียงหวานกรอกไปตามสาย แต่ปลายสายกลับเงียบทำเอาพายถึงกับต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าคนโทรมาวางสายไปหรือยัง “ไม่ทราบว่าใครค่ะ?” “(ผัวเธอไง!!)” พายถามย้ำกลับไปแต่เสียงที่ตอบกลับมาก็ทำเอาเธอถึงกับเบิกตากว้าง เพราะเธอแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าเขามีเบอร์โทรศัพท์ของเธอได้ยังไงกันทั้งที่เขาและเธอไม่เคยได้พูดคุยเรื่องส่วนตัวอะไรกันเลย “เวย์!!” “(ยังดีที่จำกันได้ เธอนี่มันกล้ามากนะที่ทิ้งให้ฉันนอนอยู่ที่บ้านของเธอคนเดี่ยวน่ะ!)” “ตื่นแล้วก็กลับไปได้แล้ว” “(แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน!?)” เวย์ไม่ได้สนใจจะฟังในสิ่งที่เธอพูดแต่เขากลับถามคำถามเธอกลับซะอย่างนั้น “จะอยู่ที่ไหนมันก็เรื่องของฉัน ส่วนนายออกจากบ้านฉันไปได้แล้ว... แล้วหวังว่าตอนเย็นฉันกลับไปจะไม่เจอนาย แค่นี้นะฉันยุ่ง!” พูดจบก็ตัดสายทันทีโดยไม่สนใจเลยว่าปลายสายจะหงุดหงิดแค่ไหน และหลังจากนั้นเวย์ก็โทรเข้ามาหาเธออีกนับครั้งไม่ถ้วนแต่พายเลือกที่จะปิดเสียงโทรศัพท์แล้วไม่สนใจมันอีกเลย.... .................................... เวลาต่อมา.... ช่วงค่ำของวันเดียวกันเวย์ที่หงุดหงิดพายมาตลอดทั้งวันโทรนัดเซฟกับครามรวมถึงพัตให้ออกไปดื่มที่ร้านเหล้าของพี่ชายตัวเอง แต่พัตตอบปฏิเสธไปเพราะเขาไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ เพราะเจ้าตัวโดนเรียกตัวกลับบ้านที่อยุธยาด่วนตั้งแต่เช้า แก้วเหล้าถูกยกกระดกรวดเดียวจนหมดแก้วก่อนจะวางกระแทกลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้าเสียงดังจนสาวสวยที่อยู่ในชุดเดรสรัดรูปสีแดงเพลิงที่คอยเป็นคนชงเครื่องดื่มให้ถึงกับสะดุ้ง เพราะสีหน้าและท่าทางของชายหนุ่มน้องชายเจ้าของร้านที่นั่งอยู่บนโซฟาในโซน VIP ของร้านนั้นดูท่าทางหงุดหงิดมากเลยทีเดียว “มึงกลัวไม่เมาหรือไงกระดกเพียวเป็นน้ำเปล่าเลยนะมึง” เสียงทุ้มยียวนของครามดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินตรงเข้ามาหาเวย์และมีเซฟเดินตามหลังมาติดๆ ทั้งสองหนุ่มหย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับเวย์ ก่อนที่ครามจะรั้งเอวบางของสาวสวยที่เป็นคนชงเหล้าเข้ามาคลอเคลียนัวเนียโดยไม่ได้สนใจสีหน้าท่าทางหงุดหงิดของเวย์เลย แต่คนถูกทักกลับไม่ได้สนใจเพื่อนพร้อมทั้งยังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอย่างต่อเนื่องทำเอาเซฟที่นั่งมองอยู่ถึงกับสงสัย “เป็นอะไรของมึง? ดูท่าทางหงุดหงิดนะ” “กูไม่ได้หงุดหงิด!” “ไอ้สัสมองมาร้อยเมตรยังรู้เลยว่ามึงกำลังหงุดหงิด แล้วคนอย่างมึงถ้าไม่มีเรื่องอะไรกวนใจคงไม่ชวนพวกกูออกมากินเหล้าหรอกจริงไหม? เป็นเหี้ยอะไรพูดมา!?” เซฟค้านคำพูดของเวย์เพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักของเขาเป็นคนยังไง แต่น้อยครั้งนักที่ได้จะเห็นเวย์หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ “..............” เวย์ไม่ตอบคำถามเพื่อนเขาเลือกที่จะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแทน แล้วกดโทรศัพท์โทรหาพายอีกครั้งและมันก็เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ของวัน แต่เธอกลับไม่ยอมรับสายของเขาเลย เวย์หงุดหงิดหนักขึ้นไปอีกพร้อมกับโยนโทรศัพท์มือถือของตัวเองลงบนโต๊ะ “ผู้หญิง.... ถูกไหม? น้องมิลเหรอ?” ครามเลิกคิ้วสูงถามออกไปเพราะเห็นเวย์โทรหาใครบางคนแต่ดูเหมือนปลายสายจะไม่รับ “เปล่า... ไม่ใช่” เวย์เองก็ตอบกลับไปเสียงห้วนๆ “ถ้าไม่ใช่น้องมิลแล้วใครวะ? ช่วงนี้กูเห็นมึงควงน้องเขาอยู่คนเดียว” เซฟเองก็มุ่นคิ้วเข้าหากันเช่นกัน เพราะช่วงนี้ผู้หญิงคนเดียวที่เวย์ควงอยู่ก็คือน้องมิล สาวสวยดาวคณะบริหารที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับพวกเขานั่นเอง ”แต่ว่าหลังๆ มานี่กูไม่เห็นมึงอยู่น้องเขาเลย อย่าบอกนะว่ามึงมีสาวใหม่น่ะ?” ครามหรี่ตามองเวย์อย่างจับผิด แต่ที่ครามพูดมาก็ไม่ผิดเพราะตอนนี้เวย์เองก็ไม่ได้ไปเจอน้องมิลเลยตั้งแต่ที่เขาเจอพาย แต่จะบอกเพื่อนก็คงไม่ได้เพราะพายเป็นพี่สาวของพัต แถมพัตก็ยังไม่รู้ว่าเขาและพี่สาวตัวเองมีอะไรๆ ไปถึงไหนกันแล้ว “กูไม่มีใครทั้งนั้นแหละ แค่อยากกินเหล้าเลยชวนพวกมึงออกมา แดกๆ เข้าไปแล้วก็เลิกถามวุ่นวายซะทีกูรำคาญ!” เวย์พูดตัดบทพร้อมกับยกแก้วในมือกระดกรวดเดียวหมดแก้ว ภายในใจของเขาตอนนี้มันว้าวุ่นไปหมด ทั้งโมโหเธอที่ไม่ยอมรับสายของเขา ทั้งโมโหตัวเองที่ปล่อยให้ผู้หญิงเพียงคนเดียวเข้ามามีอิทธิพลมากขนาดนี้ เขาจะไม่มีวันยอมรับเด็ดขาดว่าเขาต้องการเพียงแค่เธอ เธอจะต้องไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ สิ้นความคิดเวย์ก็หันไปมองสาวสวยที่ยังนั่งคลอเคลียอยู่ข้างกายของครามก่อนจะเอ่ยถามเสียงทุ้มออกมา “เธอมีเพื่อนอีกหรือเปล่า ไปตามมาสิ” “มีค่ะ... งั้นเดี๋ยวนิวไปเรียกให้นะคะ” สาวสวยพอได้ฟังในสิ่งที่เวย์พูดก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปเรียกเพื่อนที่ทำงานแบบเดียวกับเธอให้เข้ามาบริการที่โต๊ะของสามหนุ่มทันที เซฟและครามมองตามร่างระหงส์ของสาวชงเหล้าไปจนสุดสายตาก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนรักอีกครั้ง “มันต้องอย่างนี้สิวะเสือเวย์ ลืมคนที่ทำให้มึงหงุดหงิดแล้วมาสนใจสาวๆ สวยๆ ดีกว่า” ครามว่าพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม “เราไม่ได้สนุกแบบนี้มานานแล้วนะเว้ย คืนนี้กูขอเต็มที่เลยแล้วกัน” เซฟเองก็ยิ้มกว้างพร้อมกับเลียริมฝีปากของตัวเองเบาๆ เมื่อจินตนาการไปถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ของเขาและสาวสวยอีกสองคน.....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD