รักมั้ยคับ พี่ชายรูมเมท ตอนที่ 4

1711 Words
  แล้วผมกับพี่แวนก็ขับมอไซค์มาที่โรงแรม สายตาของทุกคนดูดีขึ้นมากนะเมื่อมองผมยกเว้นแต่พี่แนนคนเดียวที่มองผมด้วยสีหน้าที่ไม่ชอบใจ งานถูกดำเนินไปอย่างไม่มีอุปสรรคแม้แต่ผีก็ไม่มากวนใจ จนผมเริ่มแปลกใจอ่ะ ผีหายไปไหนกันหมดทำไมผมไม่เจอเลยแล้วผู้หญิงคนนั้นละเธอไปไหนแล้ว ผมคิดมากจนมาถึงช่วงเลิกงานเลย “เฮ้ย ทำไรวะ” พี่แวนเข้ามาตบไหล่ผมที่กำลังมองออกไปข้างนอกโรงแรมอย่างแรงจนไหล่แทบทรุดเลย “มองดูสาวๆเดินผ่านอยู่คiyบ” “โหเจ๋ง มึงอยากไปขึ้นครูมั้ยละ เดี๋ยวพี่พาไป” “หยุดเลยพี่ไม่เอาผมกลัว” “กลัวอะไรวะ ผู้ชายนะเว้ย เราต้องไม่กลัว” พี่แวนยิ้มหน้าระรื่นมาให้ผม เฮ้อ เหนื่อยใจจริงๆ “ขุนนี่ผู้ชายแท้ใช่ปะ” พี่แนนเดินเข้ามายืนใกล้ๆพี่แวนก่อนจะเอ่ยถามผม สีหน้าของพี่แนนเหมือนรู้อะไรมาเลย “พูดอะไรอ่ะแนน” พี่แวนหันไปถามพี่แนนด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจเอามากๆ แต่ดูเหมือนพี่แนนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย “ก็ถามเฉยๆว่าขุนใช่ผู้ชายแท้รึเหล่า หรือว่าจะเป็น เก้ง กวาง บ่างอะไรประมาณนี้อะคะพี่แวน” ปากดีจริงๆ นี่ต้องให้เจ้ของผมจัดการนะแบบนี้ รับรองไม่มีปากไว้กินข้าวแน่นอน “เออ แล้วถ้าไอ้ขุนมันจะเป็นเก้ง กวางบ่าง แล้วยังไง แนนไปยุ่งอะไรกับมัน” “พี่แวนทำไมพี่แวนต้องดุแนนด้วยคะ” “ก็เพราะปากเสียไง แล้ววันหลังให้เรียกเชฟ จบนะ” พี่แวนดุพี่แนนจบก็หันมายิ้มให้ผมแล้วจูงมือผมไปที่ล็อกเกอร์ทันทีเลย “เปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวพี่จะพามึงไปหาอะไรอร่อยๆกิน” “พี่แวน พี่ไปว่าพี่แนนแบบนั้นไม่แรงไปหรอพี่” “ไม่นี่หว่า ผู้หญิงดีๆเขาไม่ดูถูกเพศอื่นหรอก” “แล้วถ้าผม…” “เออ ต่อให้มึงจะเป็น เพศ ที่ 6-7 ก็ช่างมึงพี่ก็ยังเป็นพี่มึงแบบนี้แหละ” “ขอบคุณนะครับ” ผมยิ้มให้พี่แวนที่กำลังใส่เสื้อผ้า แล้วพี่แวนก็พาผมมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวริมแม่น้ำ บอกเลยน่ากินทุกอย่างอ่ะ แล้วพอของที่สั่งมาถึงผมก็จัดการกินทันทีด้วยความหิว “พี่แวน ถามอะไรหน่อยดิ” ผมเอ่ยถามพี่แวนในขณะที่พี่แวนกำลังกินอยู่ “ว่า” “พี่ได้กับพี่แนนแล้วหรอ” พี่แวนเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับขมวดคิ้วทันที “ทำไมถามแบบนี้วะ” “ก็วันนั้นพี่ละเมอชื่อพี่แนนออกมาแถมยังจะปล้ำผมด้วย” “โห น่าอายชิบหาย เออ ได้ อยู่ 10 กว่าครั้งได้มั้ง” “พี่แวน เยอะเหมือนกันนะ” “มันก็เป็นความพึงพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้บังคับนี่หว่า” ผมพยักหน้าและคิดตามพี่แวน มันไม่ได้เป็นการบังคับแต่เป็นความสมัครใจอะเนอะ ผมจึงกินต่อไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆพี่แวนก็ชะงักแล้วเรียกชื่อผม “ขุน” “ครับ” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพี่แวนที่กำลังเอื้อมมือมาเช็ดปากให้ผมอย่างแผ่วเบา ทำไมเป็นผู้ชายอ่อนโยนแบบนี้เนี้ย “ปากเปื้อนแนะ” “ขะ...ขอบคุณครับ” ผู้คนต่างหันมามองการกระทำของพี่แวนทั้งร้าน แถมยังซุบซิบนินทากันใหญ่แต่พี่แวนก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยนะ แถมยังกินต่อไปอย่างหน้าตาเฉยอีกด้วย ทำเอาผมอดคิดไม่ได้เลยจริงๆ ถ้าพี่แวนมีแฟน คงจะใช้ปากเช็ดรอยเปื้อนแน่ๆ หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จพี่แวนก็พาผมกลับห้องพร้อมกับช่างแอร์ที่มาถึงพร้อมกันพอดี ช่างแอร์มากัน 2คนครับ วัยรุ่นคนนึง มีอายุแล้วคนนึง พี่แวนจึงเปิดประตูให้ช่างเข้าไปดูแอร์ ส่วนผมกับพี่แวนก็นั่งรอที่โซฟาไปพลางๆ แต่สายตาผมมันดันไปเห็นผีผู้หญิงคนนั้นนะซิครับ เธอลอยมาที่ระเบียง พระเจ้าหัวใจจะวาย "ว๊ากกกกก " ผมแหกปากออกมาเพราะความตกใจก่อนจะโดดไปเกาะพี่แวนจนแทบจะนั่งตักพี่เขาเลยก็ว่าได้ "อะไรวะ เป็นอะไร" พี่แวนหันมาถามผมด้วยความสงสัยและปนตกใจเช่นกัน " เอ่ออ ปะ….ป่าวครับป่าว" "มึงมีอะไรปะเนี้ย" "ไม่มีคับพี่แวน" ผมพยายามก้มหน้าแต่ก็อดที่จะหันไปมองไม่ได้ ก็มันสงสัยไงคับว่าทำไมเธอถึงมาที่ระเบียงได้ แล้วผมก็เห็นเธอชี้ไปที่ช่างแอร์วัยรุ่นคนนั้น ผมจึงหันไปมองช่างแอร์ก่อนจะหันกลับไปมองผีสาวตนนั้นอีกครั้ง เธอหมายความว่ายังไง ช่างแอร์คนนี้มีอะไรกันแน่ หรือว่าเขาเกี่ยวข้องกับการตายของผีสาวตนนี้รึเปล่า แล้วจู่ๆพี่แวนก็เอามือมาคล้องคอผมพร้อมกับยกเหล้าขึ้นมาดื่ม เป็นอะไรขอเขาผมพยายามจะขยับเพื่อที่จะได้มองช่างแอร์ได้ถนัด แต่พี่แวนกลับรั้งผมจนติดตัวพี่แวนเลย "พี่แวน รั้งผมทำไมเนี้ย" "แล้วมึงอ่ะเป็นอะไรมองไอ้ช่างแอร์ไม่วางตาเลย มันหล่อนักรึไง" พี่แวนตะคอกเสียงใส่ผม ทำเอาผมอึ้งเลยจะดุผมทำไมเนี้ยผมก็แค่มองปะ เป็นอะไรของเขา "ไม่ได้หล่อครับ แต่ผมว่าเขาท่าทางเเปลกๆ" "แปลกยังไง มึงบอกมาดิ" "เอ้า แล้วจะขึ้นเสียงทำไมละครับ" "เออวะ กูจะขึ้นเสียงทำไมวะ" พี่แวนทำหน้าเซ็งๆ ทำเอาผมชะงักเลย เพราะพี่แวนดันมีท่าทางแปลกๆขึ้นมาซะงั้น แต่มือนี่ก็ยังรั้งผมไว้แนบตัวไม่ปล่อยเลยนะ มันเลยดูเหมือนผมกำลังซบอกกว้างๆของพี่แวนอยู่นั่นเอง ใช่ดิพี่แวนเป็นเพื่อนของพี่อ๊อดนี่หว่า พี่แวนต้องรู้แน่ๆว่าผู้หญิงคนนั้นตายยังไง "พี่แวนครับ" "หืม มีอะไร" พี่แวนก้มลงมามองผมที่เงยหน้าขึ้นไปมองพี่เขาเหมือนกัน เช้ดดดดเข้ อย่างกับหนังเกาหลีตอนพระนางกำลังอินเลิฟเลยอ่ะ บ้าแล้วหยุดคิดบ้าๆได้แล้วไอ้ขุน "คือ พี่แวนรู้มั้ยครับว่าแฟนพี่อ๊อดเสียยังไง" พี่แวนขมวดคิ้วทันทีที่ผมพูดจบ แน่ละคับเป็นใครก็สงสัยอยู่ๆมาถามถึงคนที่ตายไปแล้วแบบนี้ "มึงจะอยากรู้ไปทำไม" "ก็แค่อยากรู้เฉยๆอ่ะ" ผมใช้เสียงสองกับพี่แวนทันทีเผื่อพี่แวนจะเห็นใจเด็กน้อยตาดำๆอย่างผมเพราะมันเป็นข้อมูลที่สำคัญมากๆ แล้วพี่แวนก็ใช้มือหยิกที่แก้มผมเบาๆ ทำเอาผมตกใจเลย "อ้อนเก่งนะมึงเนี้ย" ว้าววว รู้สึกดีชะมัด พี่แวนยิ้มมาให้ผมพร้อมกับยกเหล้าขึ้นมาดื่ม "ก็โดนรถชนนะ เห็นรถที่ชนบอกเธอเดินมาหารถดื้อๆเลย ตำรวจเลยสรุปว่าเธอฆ่าตัวตายโดยโดดให้รถชน" "ตอนนั้นกี่โมงครับ" "ตี3 ได้ละมั้ง" "แถวไหนครับ พี่แวนพอจะรู้มั้ย" พี่แวนเริ่มสงสัยผมพร้อมกับก้มลงมามองอีกครั้ง ผมก็อยากรู้เลยจ้องพี่แวนกลับเพราะลุ้นหนักมาก "ปากมึงนี่น่าจูบดีวะไอ้ขุน" "พี่แวนมันใช่เวลามั้ยพี่" "อ้าว ดุพี่ซะงั้น ไอ้บ้า" พี่แวนใช้มือตบหัวผมเบาๆก่อนจะเอาเนื้อทอดมาจ่อที่ปากผมซึ่งผมไม่ได้อยากกินไง แต่สายตาพี่แวนนี้บังคับมาก "เล่าต่อได้ป่าวพี่" "มึงก็แดกดิพี่จะได้เล่าต่อ" บังคับตลอดผมจึงงับเนื้อพร้อมกับรีบเคี้ยวมันจะได้จบๆ ซึ่งมันสร้างความพอใจให้พี่แวนของผมเป็นอย่างมาก "ว่านอนสอนง่าย" "เล่าได้ยั้งอ่ะ" " เออ ก็อยู่เลยถนนเศรษฐวงษ์มาหน่อย รู้สึกจะซอย 3นะ" "แถวนั้นไม่มีกล้องวงจรปิดใช่มั้ยพี่" "เออ ไม่มี แต่รถที่แล่นมามีกล้องนะเห็นชัดเลยว่าเธอเดินมาให้รถชนอ่ะ" พี่แวนยังคงเล่าต่อไปชิวๆพร้อมกับปากที่ยังคงกินกับแกล้มไม่หยุด "หิวหรอพี่" "เออ หิวจนจะกินมึงได้ทั้งตัวละ" คำพูดพูดได้มีเลศนัยมาก จะกินผม กินแบบไหนเนี่ยผมคิดลึกนะ 555 และในขณะที่ผมกำลังคุยกับพี่แวนช่างแอร์วัยรุ่นก็เดินมาที่ผม "เอ่อออ เมื่อกี้คุณกำลังพูดถึงอุบัติเหตุรถชนเมื่อเดือนที่แล้วใช่มั้ยครับ" ผมรีบเงยหน้าขึ้นไปมองพี่แวนทันทีแล้วพี่แวนก็หันไปตอบช่างแอร์อย่างไม่รีรอเลย "ใช่ครับ มีอะไรรึเปล่า" พี่แวนถามช่างแอร์ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนักส่วนมือของพี่แวนก็จับหัวผมกดลงที่แผงอกอย่างเดียวเลยผมจะเงยหน้ามาคุยกับช่างแอร์บ้างก็ไม่ได้เลย "คือวันนั้นผมอยู่ในเหตุการณ์นะครับ" ตาผมลุกวาวทันทีแบบนี้ซินะผีตนนั่นถึงมาชี้ช่างแอร์คนนี้ ผมจึงรีบเอามือพี่แวนออกและลุกขึ้นยืนคุยกับช่างแอร์ด้วยความตื่นเต้น "จริงหรอครับ แล้ววันนั้นคุณเห็นอะไรบ้างบอกผมได้รึเปล่า" "จะตื่นเต้นอะไรวะลงมานั่ง" พี่แวนกระชากเสียงดุผมก่อนจะใช้มือที่เย็นเชียบทั้งๆที่อากาศร้อนจะตายดึงผมให้ลงไปนั่งแล้วเอามือมาคล้องคอผมไว้เหมือนเดิมซึ่งน่ารำคาญมากมายเลย ผมจึงส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะหันไปถามช่างแอร์อีกครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD