เช้าวันต่อมา
"ครับแม่ ครับๆ ได้ครับ"
"วันนี้เลยใช่มั้ยครับ ครับ ๆ "
ผมกดวางสายเมื่อคุยกับแม่เสร็จ แม่โทรมาแจ้งเรื่องทุนการศึกษาที่จะนำไปมอบให้เด็กๆ ต่างจังหวัด ท่านให้ผมไปเป็นตัวแทนคุยเรื่องนี้กับชาวบ้านต่างจังหวัด บริษัทของที่บ้านมอบทุนการศึกษาแบบนี้ทุกปี ปีก็อีกเช่นเคย ปกติแม่จะไปด้วยตัวเองแต่ท่านติดภารกิจก็เลยมอบหมายให้ผมไปแทน ก่อนไปคงต้องจัดการยายเด็กแสบบนเตียงให้เรียบร้อยก่อน ไม่รู้ว่าอาการปวดเป็นยังไงบ้าง ถ้าไม่ติดว่างานนี้สำคัญมากผมว่าจะเลื่อนไปก่อน แต่ต้องเป็นวันนี้เท่านั้น
"หม่อน หม่อน ตื่นได้แล้ว"
"อื้อ จะนอนยังง่วงอยู่เลย " ใบหม่อนดึงผ้าขึ้นมาคลุมหัวแล้วนอนต่อไม่สนใจผมสักนิด ขี้เซาไปถึงไหน
"พี่จะกลับแล้วนะมีงานด่วนต่างจังหวัด"
"ไปด้วยสิ " อะไรกันเมื่อกี้ยังไม่อยากตื่นอยากนอนต่ออยู่เลย อารมณ์ไหนวะ
"จะนอนต่อไม่ใช่เหรอ "
"ไม่นอนแล้ว ไปด้วยสิ นะๆ หม่อนไม่อยากอยู่ห้องมันน่าเบื่อ" แทนตัวเองว่าหม่อนผมไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย
"อ้อนพี่ก่อน " อยากไปก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ดูสิว่าเธอจะเอาอะไรมาอ้อนผม คนอย่างผมแพ้ลูกอ้อนผู้หญิงอยู่แล้ว แค่อยากเห็นผู้หญิงตรงหน้าใช้ลูกอ้อนกับผมบ้างก็เท่านั้น
"ไม่ไปก็ได้ ไปก็เป็นภาระเปล่าๆ หม่อนเข้าใจ" โถยายเด็กแสบ มาไม้นี้เลยเหรอ เข้าโหมดเศร้าน่าเห็นใจเชียวนะ ผมไม่เคยคิดว่าเธอเป็นภาระอยากพาเธอไปด้วยแต่แค่ให้พูดเพราะๆ กับผมบ้างก็เท่านั้น
"พี่ไม่เคยคิดว่าหม่อนเป็นภาระเลย อยากไปมากมั้ย"
" หม่อนอยากไป"
"มันไกลนะถนนหนทางก็ลำบาก อยู่ที่นี่แหละ"
"พี่เอเดนจะทิ้งหม่อนจริงๆ เหรอ" มาแบบนี้ผมก็ตายน่ะสิ ยอมอย่างเดียวใครจะทิ้งลง เด็กแสบทำตาละห้อยน่าสงสาร กะพริบตาปริบๆ ทำไมยิ่งโตยิ่งน่าตีแบบนี้นะ
"ไปอาบน้ำ "
"เย่ๆ "
...............................................
"ว้าว อากาศดีจัง" ฉันนั่งมองวิวทิวทัศน์ข้างทางที่มีทั้งหุบเขา ทุ่งหญ้าเขียวขจี แล้วก็วิถีชีวิตของชาวบ้านที่คงแบบโบราณไว้อยู่ ร้องตามคนตัวโตมาคุยงานที่ต่างจังหวัดด้วยกว่าจะยอมให้มาเปลืองคำพูดดีๆ ไปตั้งเยอะ
"ชอบเหรอ"
"ใช่ หม่อนชอบบรรยากาศแบบนี้ทำให้คิดถึงแม่ " มาอยู่ไทยหลายวันแล้วจนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ไปเยี่ยมแม่บ้างเลย พูดถึงแล้วก็คิดถึง
"อยากไปหามั้ยละไว้พี่คุยงานเสร็จแล้วเราค่อยไปกัน"
"จริงนะ"
"จริงสิ " ทำไมใจดีจัง จะพาฉันไปหาแม่ด้วย แต่ตอนนี้ขอดื่มด่ำกับบรรยากาศตรงหน้าให้เต็มอิ่มก่อนนะ
พอมาถึงหมู่บ้านก็มีกลุ่มคนยืนต้อนรับอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าบริษัทของเขามีการมอบทุนให้กับเด็กยากไร้ด้วย ฉันปลีกตัวออกมานั่งข้างนอก ระหว่างรอฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปบรรยากาศของหมู่บ้านนี้ไว้ ขนาดสัญญาณมือถือยังไม่ค่อยมีเลย เชื่อแล้วล่ะว่าลำบากจริงๆ อาจเป็นแค่เราที่คิดแบบนั้น ชาวบ้านพวกนี้อาจจะคุ้นชินไปแล้วก็ได้
เราใช้เวลาเดินทางเกือบทั้งวัน เริ่มค่ำแล้ว
"ปะกลับ"
"เสร็จแล้วเหรอ"
"ใช่" เราสองคนเดินมาที่จุดจอดรถ แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อรถที่ขับมาสตาร์ทไม่ติด
"สงสัยไดร์สตาร์ทคงจะมีปัญหา" คนตัวโตเปิดกระโปรงรถแล้วเช็กนู่นเช็กนี่จนได้ข้อสรุปที่แท้จริงออกมา
"แล้วทำไงอะทีนี้" นี่ก็ค่ำแล้วด้วย
"คงต้องนอนที่นี่ไปก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยโทรตามช่างมาดู" นอนค้างที่นี่ ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับฉันจริงๆ เหมือนมาเข้าค่ายลูกเสือเลย
"แล้วเราจะนอนที่ไหนกัน"
...............................................
"พรุ่งนี้ผมจะให้คนไปตามช่างมาให้ คืนนี้พักที่บ้านผมไปก่อน "
"ได้ครับ ขอบคุณมากครับผู้ใหญ่" เขาพาฉันมาที่บ้านผู้ใหญ่ คืนนี้เราสองคนคงต้องพักกันที่นี่ ฟ้าก็มืดมากแล้วฝนก็ทำท่าจะตกลงมาอีก
"อีหนูเดี๋ยวเอาเสื้อผ้าลูกสาวป้าไปใส่ก่อนนะลูก " คุณป้าภรรยาของผู้ใหญ่ยื่นผ้าถุงกับเสื้อคอกระเช้ามาให้ฉัน ทั้งยังมีผ้าถุงลายดอกอีกหนึ่งผืน
"ขอบคุณค่ะคุณป้า"
"ที่นี่เขาใช้ผ้าถุงอาบน้ำกันใช้เป็นรึเปล่าลูก" ที่บ้านหนูเขาแก้ผ้าอาบเลยค่ะคุณป้าแอบเห็นโอ่งน้ำตั้งอยู่ด้านนอกคงเป็นที่อาบน้ำแน่ๆ
"ไม่ค่ะ "
"มาป้าจะสอนให้ ส่วนพ่อหนุ่มเดี๋ยวใช้ผ้าขาวม้าผืนใหม่ของพ่อผู้ใหญ่นะลูก ป้าเตรียมไว้ให้แล้วเสื้อผ้าด้วย "
"ครับคุณป้า" คุณป้าสอนวิธีฉันนุ่งผ้าถุงให้เสร็จสรรพ ทำไมบรรยากาศมันน่ากลัวแบบนี้ ฟ้าก็แลบ ฉันรีบตักน้ำราดตัวตามด้วยฟอกสบู่แบบลวกๆ เพราะกลัวฟ้าผ่า อาบคนเดียวเสียวสันหลังชิบ ว่าแต่พ่อตัวดีหายไปไหนทำไมยังไม่มาอาบน้ำอีก
"จ๊ะเอ๋ "
"อุ๊ย แม่ แม่ ตก หายหมดแล้ว ตกไปแล้ว "
"หม่อนพี่เอง"
" ไอ้บ้า ตกใจหมด" ขณะที่ฉันตกใจหัวใจแทบวายตาย มีคนกำลังยืนหัวเราะจนตัวงอ
"ฮ่าๆ ตลกชะมัด" ฉันรีบจัดการตัวเองจนเสร็จสรรพแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นทันที ไม่ใช่เรื่องตลกเลยสักนิด
........................................
"เอาล่ะเสร็จแล้วลูก ใส่แบบนี้ก็ดูสวยไปอีกแบบ" ป้าก็ชมเกินไป คุณป้าช่วยฉันใส่ผ้าถุงจะบอกว่ากางเกงในกับบลาก็ไม่ได้ใส่ ใสส่ผ้าถุงแบบนี้โคตรโล่งเลย ปกติฉันก็นอนไม่ใส่เสื้อผ้าอยู่แล้ว แบบนี้มันก็แปลกดีนะ
"ขอบคุณค่ะคุณป้า"
"ที่นอนป้าจัดไว้ให้แล้วนะลูก เคยนอนมุ้งกันรึเปล่า" มุ้งงั้นเหรอเกิดมาก็เพิ่งเคยนอนครั้งนี้นี่แหละ
" ป้าทำไมมีแค่อันเดียวคะ"
"มีแค่นี้แหละลูกป้าไม่ค่อยมีแขก ลูกสาวก็นานๆ กลับมาก็เลยมีแค่นี้" อย่าบอกนะว่าคืนนี้ฉันต้องนอนมุ้งเดียวกับไอ้บ้านั่นอีกแล้ว เมื่อกี้ยังไม่หายเกลียดเลย
"ออค่ะ"
"ฝันดีนะลูกป้าขอตัวไปนอนก่อน"
"ค่ะ"
......................................
พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมก็เดินมาที่นอนที่คุณป้าจัดไว้ให้ ป่านนี้ยายตัวแสบคงมุดเข้ามุ้งไปแล้ว เธอยังโกรธผมอยู่ เธอน่าแกล้งนี่ ยิ่งเห็นใส่ผ้าถุงอาบน้ำแบบนั้นยิ่งไม่อยากให้ใครเห็นผิวขาวๆ ทำให้หวง ผมเปิดมุ้งเข้าไปก็เห็นคนตัวเล็กนอนใช้ผ้าห่มคลุมตัวอยู่ ผมรู้ว่าเธอยังไม่หลับเพราะตอนนี้ฝนกำลังจะตก ฟ้าร้องเสียงดังมากแล้วยังมีฟ้าแลบแสงสว่างวาบไปทั่วท้องฟ้า
"หม่อน กลัวรึเปล่า" ใบหม่อนเป็นโรคกลัวเสียงฟ้าร้องมาตั้งแต่เด็กแล้ว เธอไม่ตอบผม แถมยังขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม
"ให้พี่กอดมั้ย"
..................
"หม่อนอยากกลับบ้าน ฮือ หม่อนอยากกลับบ้าน"
"ฝนยังตกอยู่เลย รอให้ฝนหยุดก่อนค่อยกลับเนอะเดี๋ยวพี่ไปส่ง"
"หม่อนกลัว อึก หม่อนกลัว ฮือ"
"มาพี่กอดไม่กลัวนะ"
"พี่เอเดน ห้ามทิ้งหม่อนนะหม่อนกลัว "
.................................
ผมยังจำวันนั้นได้ดี ผู้หญิงตัวเล็กนั่งตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดของผม ผมกอดใบหม่อนไว้แน่นจนฝนหยุดตก คืนนี้ก็อีกเช่นกัน ใบหม่อนยอมให้ผมกอดเพราะเธอกลัว เนื้อตัวสั่นมีเสียงสะอื้นออกมาเป็นระยะ ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น กลิ่นตัวของเธอโคตรหอม ทำให้ผมแทบจะอดใจไม่ไหว พี่จะไม่ยอมให้ใบหม่อนตกไปเป็นของใครทั้งนั้น เด็กน้อยของพี่ ผมเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนานวันที่เธอกลับมา ผมไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอบ้าง แต่ผมก็พร้อมจะยอมรับมันได้ทุกเรื่อง