ตอนที่ 2

1226 Words
“แล้วยังไง นี่คือวิธีที่ดีที่สุดที่เจ้าคิดได้งั้นหรือ” “เจ้าเป็นใครมาช่วยข้าทำไม ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาจึงปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ “ในเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเจ้าควรจะลืมมันไปซะสิ จะจดจำไว้เพื่ออะไร ในเมื่อเจ้าเลือกแบบนั้นเอง” “ข้า…” หญิงสาวพูดไม่ออก ใช่แล้วมันเป็นอย่างที่คนตรงหน้าพูดเธอเป็นคนเลือกมันเอง “เจ้าคิดว่าพอเจ้าตายแล้วทุกอย่างมันจะจบอย่างนั้นหรือ” “อย่างน้อยมันก็คง…จะเจ็บปวดน้อยลงกว่านี้” หญิงสาวเลือกที่จะเดินกลับไปที่หน้าผาเช่นเดิม “เจ้านี้มันอ่อนปวกเปียกกว่าที่ข้าคิดเอาไว้อีก คิดว่าเจ้าฆ่าผู้คนมามากมายแล้วมันจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งแต่เปล่าเลยเจ้ามันอ่อนแอ” “เจ้าเป็นใครถึงมาพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ามันจะไปรู้อะไร” “ทำไมข้าจะไม่รู้” “ข้าพยายามใช้ชีวิตต่อไป แต่ไม่มีวันไหนเลยที่ข้าไม่นึกถึงมันไม่มีวันไหนเลยที่ข้าไม่คิดถึงเขา” หญิงสาวเอ่ยไปน้ำตาก็รินไหล อาบแก้มไป “งั้นเหรอ นั้นข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง ว่าหากเจ้าตายเจ้าคิดว่าทุกอย่างจะจบเหรอ” หญิงสาวก้มหน้ารับฟังสิ่งที่คนตรงหน้าพูด ไม่เพียงแต่ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจ แต่เธอก็ไม่อยากตายเช่นกัน “ข้าอยากมีชีวิตอยู่ ข้าก็ไม่อยากตายแบบนี้ แต่เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร ข้าอยู่กับความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้” หญิงสาวเอ่ยทั้งน้ำตา “นั้นข้าจะให้เจ้าอยู่” “เจ้าเป็นใครกันแน่” “ข้าเหรอ…ข้าก็คือยมทูตที่จะมาช่วยเจ้าไง” “ไม่…จริง” หญิงสาวไม่ทันระวังจนเผลอพลาดท่าตกลงหน้าผาไป แต่แล้วก็มีคนอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน “เจ้าจงมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อชดใช้สิ่งที่เจ้าทำ นับแต่นี้อีก365วัน เจ้าจงทำให้ชายที่เคยรักเจ้าจนหมดใจกลับมามีใจให้เจ้าอีกครั้ง หากเจ้าทำไม่สำเร็จข้าจะให้เจ้าตายอย่างทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกเป็นพันครั้ง นี่คือโอกาสและบทลงโทษของเจ้า” “เจ้าทำได้เช่นไร” ชายหนุ่มพูดขึ้นระหว่างที่ลอยอยู่กลางอากาศ หญิงสาวถามขึ้นทันทีเมื่อเธอลงถึงพื้นดินย่างปลอดภัย “เป็นไง ได้ร่วงลงมาเจ้ารู้สึกเช่นไรบ้าง” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “......” หญิงสาวไม่ตอบ เธอแหงนขึ้นไปมองหน้าผาอันสูงชันนึกย้อนถึงอดีตที่เคยมีความสุข ไม่ว่าจะกับครอบครัวของเธอ หรือแม้กระทั่งกับชายผู้นั้น “วันนี้ข้าไม่น่าจัดเต็มเสื้อผ้ามาเลย ช่างไม่สะดวกยิ่งหนัก” เมื่อไม่ได้รับคำตอบชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ที่เจ้าพูดเมื่อกี้หมายความว่าอย่างไร” “ตอนไหน อ๋อ ตอนที่ร่วงลงมานะเหรอ ก็หมายความอย่างที่พูด” “แต่…ข้า” “ไม่มีคำว่าแต่ จงมีชีวิตต่อไป” สิ้นคำพูดนั้นก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาจนเธอไม่อาจลืมตาขึ้นได้ ผ่านไปครู่หนึ่งแสงนั้นก็ค่อยๆ จางลงไป เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอต้องอ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า “ที่นี่มันที่ไหนกัน” เริ่มนับวันที่หนึ่ง “ลุค อันนี้ผมฝากคุณดูต่อหน่อยนะ” “ได้ครับ ศาสตราจารย์”เทวินตกปากรับคำ ศาสตราจารย์คือคนที่ผมนับถือและเป็นคนเชิญชวนเขาเข้ามาทำงานวิจัยยาที่บริษัทแห่งนี้ งานของชายหนุ่มคือวิจัยและคิดค้นยาชนิดหนึ่งที่ช่วยยืดอายุและช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยให้พ้นจากโรคร้าย เป้าหมายคือการพัฒนาสุขภาพและทำให้ผู้คนมีชีวิตที่ดียืนยาวมากขึ้น ฟังดูอาจจะเพ้อเจ้อไปหน่อยแต่เขากำลังจะทำให้มันเป็นจริงให้ได้ “คุณลุคครับ เมื่อไรจะเลิกงานผมหิวจะแย่แล้วนะครับ”เสียงทิวา หนุ่มไอทีสุดหล่อเพื่อนสนิทของเทวินตั้งแต่มัธยม สาเหตุทิวามักจะพูดเพราะกับเขาไม่ใช่เพราะลุคที่ดูเนิร์ดๆแต่อย่างใด แต่ทิวาชอบแดกดันเพื่อนอย่างเขาซะมากกว่า “อะไรของคุณครับคุณทิว หิวก็ไปหาไรกินครับ” “โธ่...ไอ้ลุค กลับเหอะ กูหิวแล้วไปหาไรแดกกัน” “กูไม่หิว” “มีร้านเปิดใหม่แถวริมแม่น้ำ บรรยากาศดีมากเลยนะมึง ไปเหอะ”ทิวาตีหน้าอ้อน ก็เขาหิวลำพังจะไปคนเดียวก็เหงา เขามันคน ไร้คู่ “เอ่อๆ เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที”เทวินส่ายหน้าเก็บของเดินไปถอดเสื้อกาวน์ออก ไม่วายทิวาก็ยังคงเดินตามมา “ไม่น่ารักเหรอ เขาว่ามันออกจะน่ารัก”ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุทิวายังคงทำหน้าซื่อตาใสเดินตามเทวินอยู่แบบนั้น “ไอ้ทิวเลิกทำ ขนลุก” “ฮ่า ฮ่า ฮ่า มึงนี่ตลกชะมัด”สองหนุ่มเดินทอดน่องคุยกันออกจากตึกไปยังร้านอาหาร “ร้านนี้มันได้จริงว่ะ บรรยากาศโคตรดี”เทวินมองบรรยากาศรอบ ๆ อย่างสบายตา ตลอดทางที่เดินมาร่มรื่น เพราะเป็นสวนสาธารณะที่ไว้พักผ่อน เขามองไปเรื่อยก่อนที่หางตาจะไปสะดุดกับอะไรบางอย่างเข้าแต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไรนัก “อาหารมาแล้วจ้า ทานให้อร่อยนะ” “ขอบคุณครับ”ทั้งสองกล่าวคำขอบคุณก่อนจะเริ่มลงมือทานอาหารอย่างพอใจ “อร่อยว่ะ”ทิวาตาลุกวาวไม่รู้ว่าเพราะความหิวรึเปล่าแต่อาหารตรงหน้าช่างอร่อยสมการรอคอย มุมหนึ่งของริมแม่น้ำที่ให้บรรยากาศดีในยามเย็น สายลมกำลังพัดผ่านครู่หนึ่งก่อนจะปรากฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่งขึ้นมา “ที่นี่มันที่ไหนกัน”แสนดีลืมตาขึ้นพบกับสถานที่ไม่คุ้นเคย หญิงสาวทอดสายตามองไปตรงหน้าพบตึกสูงมากมายตั้งตระหง่านอยู่ เธอโผล่มาใต้สะพานเก่าๆแห่งหนึ่ง ก่อนจะก้มลงมองสภาพตัวเองในตอนนี้ นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!! ไอ้บ้านั้น!! อร้ายยย!! หญิงสาวกรีดร้องออกมาดังก้องไปทั่วบริเวณ ใครจะไปทนไหวดูสภาพเธอในตอนนี้สิ ขอทานดี ๆ นี่เอง เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยไม่มีชิ้นดี แค่ปกปิดร่างกายเธอได้ก็บุญแล้ว ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเหมือนคนไม่ได้สางมาพันปี หน้าตามอมแมมเหมือนใครจงใจเอาถ่านมาป้ายหน้า แสนดีเดินออกมาจากใต้สะพานเพื่อมองให้ชัดว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วเธอต้องมาทำบ้าอะไรที่นี่ ก่อนจะย้อนกลับไปคิดถึงคำพูดของ ชายหนุ่มในตอนที่เธอตกลงจากเขา “ไอ้บ้านั้นพูดว่าอะไรนะ” เจ้าจงมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อชดใช้สิ่งที่เจ้าทำลงไป นับแต่นี้อีก 365 วัน เจ้าจงทำให้ชายที่เคยรักเจ้าจนหมดใจกลับมามีใจให้เจ้าอีกครั้ง หากเจ้าทำไม่สำเร็จข้าจะให้เจ้าตายอย่างทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกเป็นพันครั้ง นี่คือโอกาสและบทลงโทษของเจ้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD