อุณาแทบจำไม่ได้เลยว่าตัวเองมานอนอยู่ในห้องพักหรูหราแบบนี้ได้อย่างไร เธอรู้เพียงว่าเหมือนเลือดในกายร้อนระอุประดุจถูกลวกด้วยน้ำเดือด ผ้าคลุมขนเฟลอร์ที่ผูกเชือกไว้หลวมๆ กับเรือนกายอ่อนนุ่มที่สวมเพียงชุดชั้นในสีขาวก็เกะกะน่ารำคาญ แต่จะดึงออกก็ไม่ได้ เพราะสองแขนและสองขาของเธอถูกตรวนล่ามไว้กับเสาเตียงทั้งสี่ด้านเลย
“ร้อน...”
สาวน้อยหอบหายใจแรงจนทรวงอกกระเพื่อม ดวงตามืดมัวเลือนรางมองเพดานห้องสลัว จมูกสัมผัสถึงกลิ่นหอมของน้ำหอมปรับอากาศราคาแพง หูรับรู้ถึงเสียงเปิดประตูแผ่วเบาแล้วปิดลงดังแกรก ก่อนที่ดวงตาจะแลเห็นชายหนุ่มหล่อเหลาชะโงกมองเธอจากด้านบนของเตียงขนาดคิงไซส์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกปนประหลาดใจ
อา เขาหล่อจัง
ดวงตาคมกล้าราวกับสิงห์ คิ้วเข้มจนน่าพิศวง จมูกโด่งเป็นสัน ปากและกรามรับกันอย่างเหมาะเจาะจนหัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงอยู่แล้วยิ่งเต้นเร่าด้วยความตื่นเต้น
จำได้แล้ว อุณาจำได้แล้ว!
เธอรู้แล้วว่ามาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลกลใด
เขาไง เธอต้องปรนนิบัติเขาให้มีความสุขที่สุด ถ้าเขาถูกใจเธอ ‘คุณแม่’ ก็จะได้เงินเยอะๆ และถ้าเขาให้ทิปเธอ เธอก็จะนำเงินนั้นไปมอบให้คุณแม่ให้หมดเลย
“เธอมาทำอะไรที่นี่” เขาถามอย่างงุนงง ก่อนก้มมองพวงกุญแจคล้องคีย์การ์ดระบุเลขที่ห้องในมือ แต่ก็ดูเหมือนเขาจะเข้ามาถูกห้องแล้วนี่นา “ใครทำแบบนี้กัน”
เขาถามต่อและทิ้งตัวลงนั่งข้างเตียง มือใหญ่แตะตรวนข้อมือของอุณาด้วยดวงตาสับสน ก่อนเหลือบไปเห็นลูกกุญแจคล้องห่วงหลายลูกวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง
สิงหราชรีบฉวยลูกกุญแจมาลองไขดูจนไขออกข้างหนึ่ง เขาไขตรวนทั้งหมดออกจากข้อมือข้อเท้าหญิงสาวได้ในเวลาไม่กี่อึดใจด้วยความร้อนรน และคิดว่าคงต้องแจ้งตำรวจหลังจากหาเสื้อผ้าให้เธอสวมมิดชิดกว่านี้
เหลือแค่กุญแจคล้องปลอกคอหนังประดับโซ่ตรวนขนาดยาว ที่คอเธอนี่แหละที่ดูเหมือนจะไม่มีมาด้วยในพวงนี้
ทีนี้จะทำยังไงดีล่ะ
ถึงเขาจะสามารถตัดปลอกคอหนังออกได้ด้วยกรรไกรโดยไม่ต้องใช้ลูกกุญแต แต่ในห้องพักแห่งนี้ก็ไม่น่าจะมีกรรไกรอันใหญ่ขนาดนั้น
คิดพลาง ดวงตาคมก็เหลือบมองส่วนโค้งส่วนเว้าวับแวมภายใต้ผ้าคลุมขนเฟลอร์สีขาวพลาง ก่อนกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังเมื่อสาวน้อยลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน ฮู้ดผ้าคลุมรูปหัวแกะน่ารักหลุดจากเรือนผมหยักศกอ่อนนุ่ม ดวงตาคู่หวานมองเขาอย่างเทิดทูนบูชาจนชายหนุ่มต้องเบือนหน้าหนี หัวใจเต้นเร่าราวกลองชัย
ความใหญ่โตขึงขังที่เป้ากางเกงมันร่ำร้องแทบอยากคิดแทนสมองว่ากดตัวเธอลงกับเตียงสิวะ! ลูกแกะจะเข้าปากสิงห์ขนาดนี้แล้ว คายก็โง่!
แต่จิตใต้สำนึกที่ดีก็ฉุดรั้งไว้ให้เขาลุกจะผละออกไปหาเสื้อผ้าให้เธอใส่ ทว่ามือนุ่มคว้ามือเขาไว้ เธอวางปลายโซ่ติดปลอกคอหนังไว้ในฝ่ามือหนาด้วยดวงตาเชื่อมหวาน ก่อนคุกเข่าบนเตียงแล้วโถมร่างมากอดร่างแข็งทื่อราวศิลาของชายหนุ่มไว้อย่างสาวใจกล้า
“ขย้ำหนูสิคะ” เธอกระซิบข้างแผงอกกว้างกำยำด้วยความงุนงงที่เขาไม่ทำอะไรเลยเสียที ก็คุณแม่บอกมานี่นาว่าพอเขาเข้ามาแล้ว เขาจะขย้ำ เขาอาจทำให้เธอช้ำ ทำให้เธอเจ็บ แต่ถ้ารักคุณแม่ เธอก็ต้องอดทน...
“อะไรนะ” สิงหราชกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก เขาอาจได้ยินผิดไป หรือว่าเขาจะหลับฝันอยู่วะเนี่ย
อยู่ดีๆ พอเปิดประตูเข้ามาในห้องพักก็เจอลูกแกะสาวแสนสวยโดนล่ามไว้บนเตียงแบบนุ่งน้อยห่มน้อย แถมยังขอให้เขาขย้ำเธอเนี่ยนะ!
“ขย้ำหนู” เธอกระซิบย้ำ ยกใบหน้าขึ้นจากอกกว้างกำยำ สองมือเลื่อนลูบแผงอกเขาอย่างกลัวๆ กล้าๆ แต่อาจเพราะ ‘ยา’ ที่คุณแม่ให้เธอกินก่อนจะออกจากห้องนี้ไป ที่ทำให้เธอมีความกล้าขึ้นกว่าปกติมากโขเลย
กล้าถึงขนาดที่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาแล้วประทับจูบตรงแผงอกกว้างเบาๆ อุณาอายุสิบแปดแล้วในปีนี้ เธอพอจะรู้มาบ้างว่างานที่ทำต้องจูบกัน จูบไปทั่วตัว เสียดสีร่างกายกัน และต้องทำให้ ‘แขก’ มีความสุขที่สุด
ลิปสติกสีชมพูถูกประทับที่แผงอกเขาอย่างน่าประหลาด อุณามองมันด้วยความวาบหวามในหัวใจ ก่อนที่ชายหนุ่มจะกระตุกโซ่ในมือจนหญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของเขาแกร่งกร้าวเต็มไปด้วยความหื่นกระหายและไร้ความยับยั้งชั่งใจอีกต่อไป
“อย่ามาร้องไห้ทีหลังแล้วกัน”
พูดไม่ทันจบริมฝีปากอุ่นร้อนก็ประกบลงมา ก่อนที่อุณาจะถูกผลักล้มลงหงายบนเตียงอย่างไม่ทันตั้งตัว...