มีใครบางคนว่าเอาไว้ ถ้าคุณดังพอ วันหนึ่งคุณจะเลือกได้…
เลือกงานได้
เลือกคนร่วมงานได้
เลือกคาแรคเตอร์ได้
หรือกระทั่งเลือก...ที่จะไม่แคร์ใครเลย
ซึ่งทั้งหมดนั้น ฉันทำได้หมดค่ะ
ฉันชื่อ ‘มิ้น ณิชารัน’ ค่ะ นักแสดงหญิงที่มีค่าตัวสูงจนโปรดิวเซอร์ต้องวิ่งวุ่นของบสปอนเซอร์เพิ่มเพื่อที่จะมีค่าจ้างจ่ายฉันได้
ฉันไม่ได้มีดีแค่ดัง แต่ยังมีผู้ติดตามหลายล้านทุกแพลตฟอร์ม ได้รับรางวัลใหญ่ทุกปี แถมยังขึ้นปกนิตยสารบ่อยจนฉันสนิทกับเขาไปทั่วทั้งวงการแล้วล่ะ เอาเป็นว่าเห็นหน้ากันจนเบื่อ ฮ่า...
แม้ทุกคนจะเห็นฉันไปทั่วทุกที ชนิดว่าไม่เลือกงานไม่ยากจน แต่...คุณจะไม่เห็นฉันเล่นบทนางเอกหรอก
ทำไมนะเหรอ ฉันแค่ไม่อยากวิ่งหนีรถจากการถูกลอบฆ่า ไม่อยากร้องไห้ตะโกนท่ามกลางสายฝน ไม่อยากตบตีแย่งพระเอกกับชู้หรือแม้แต่ แอบรักพระเอกแบบเงียบ ๆ อย่างเจียมเนื้อเจียมตน
ถามว่าแต่ละบทที่ผ่านมาฉันเล่นอะไรไปบ้าง ฮ่า...งั้นฉันจะสาธยายให้คุณฟังคร่าว ๆ แล้วกันนะ
บทที่ฉันเล่นก็มีบทแม่ บทพี่เลี้ยง บทคนขายลูกชิ้นทอด แค่กล้องแพนมาที่ฉันแวบหนึ่ง ฉันก็ดี๊ด๊าแล้วค่ะ
ฉันไม่ได้เล่นเพื่อให้ใครต่อใครจดจำฉันได้ดีที่สุดของเรื่อง ฉันเพียงแต่ต้องการอยู่ในวงการบันเทิงให้ได้นานที่สุดเท่านั้น อีกอย่างฉันไม่อยากเป็นเหยื่อข่าว ยิ่งแสงส่องมาเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้กดดันมากขึ้นเท่านั้น
เฉกเช่นเพื่อน ๆ ในวงการของฉันที่เคยมีแสงสว่างรอบตัว แต่ตอนนี้กลับถูกกลบจนมืดมิด และการอยู่ในเงาเล็ก ๆ แบบนี้นี่แหละ ที่ทำให้ฉันไม่ถูกลากเข้าไปอยู่ในเรื่องดราม่า อย่างน้อยฉันก็เคยคิดไว้แบบนั้น จนกระทั่ง...
“พี่มิ้นคะ ขอโทษนะคะ ขอเพิ่มบทอีกสองบรรทัดได้ไหม เดี๋ยวมันไม่สมูท!” เสียงผู้เขียนบทดังไล่มาจากหน้ามอนิเตอร์ พร้อมกับกระดาษยับ ๆ ในมือ ฉันหันไปมองเธอพร้อมรอยยิ้ม
“ได้ค่ะ แต่ช่วยอย่าให้ฉันกลายเป็นตัวเด่นก็พอ” ฉันตอบไปพร้อมกับส่งยิ้มที่สุภาพ จนทำให้ผู้เขียนบทและคนในกองหัวเราะ เพราะทุกคนรู้ว่าฉันคือใคร ก็ระดับคนที่เคยเป็นนางเอกเบอร์ต้น ๆ ที่ขอเล่นเป็น ‘คนใช้ของนางเอก’ ด้วยความสมัครใจ บทนี้มันตัวประกอบที่ยิ่งกว่าตัวประกอบเสียอีก
ฉากในวันนี้ ฉันต้องเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำ และพูดว่า “น้ำได้แล้วค่ะคุณหนู” ก่อนจะเดินออกไปช้า ๆ ราวกับไม่มีตัวตนในละครมากนัก
ฉันมีความสุขกับการเล่นบทตัวประกอบนี้มาก แต่แล้วนั้น การเป็นตัวประกอบของฉันก็ชักจะไม่ง่ายแล้วล่ะ เพราะจังหวะที่ฉันยกแก้วน้ำ กำลังจะถ่ายต่อ ประตูสตูก็เปิดออกพอดี
“ขออนุญาติดูเทคครับ” น้ำเสียงนิ่ง ทุ้ม และไม่ใช่ของทีมงานคนไหนที่ฉันจำได้เอ่ยขึ้น
ฉันหันไปมองก็พบว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีดำเรียบ ๆ ราวกับไม่ได้พยายามหล่อ แต่กลับหล่อจนน่าหงุดหงิด สร้างความงุนงงว่าเขามีอำนาจอะไรถึงสั่งการให้ทั้งกองที่กำลังวุ่นวายหยุดชะงักลงได้
เขาเดินตรงดิ่งมาหาฉัน ทำเอาใจฉันกระตุกเบา ๆ ก่อนเขาจะยื่นบทที่ฉันไม่กล้าตอบตกลง หน้าปกเขียนไว้ชัดเจน ‘บทนำ’ และข้างในนั้น ฉันคือ ‘นางเอก’
ฉันรับสคริปต์มาอย่างไม่เต็มใจนัก ขนาดฉันไม่ได้เปิดดู ฉันยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากกระดาษสามสี่แผ่นนั่น มันไม่ใช่แค่คำพูดบนกระดาษ แต่มันคือความคาดหวังทั้งกองรวมอยู่ในนี้
ทุกสายตามองมายังที่ฉันกับเขา รวมถึงพี่ผู้กำกับที่ตอนนี้นิ่งสนิทมองมาที่พวกเราสลับกันราวกับกำลังดูซีรีส์ดราม่าทางช่องของตัวเอง
“บทใหม่เหรอคะ” ฉันพยายามทำเสียงให้เรียบที่สุด ทั้งที่ใจอยากจะถามมากกว่านั้นเช่น ‘คุณเป็นใคร / รู้ไหมว่าฉันไม่เล่นบทนำ / นี่เป็นแผนจากช่องหรือแผนส่วนตัว’ ในขณะที่เขายิ้มเล็ก ๆ แบบคนรู้ทัน
“บทเก่า แค่ลืมไปว่ายังไม่เคยได้คนที่เหมาะสมมาเล่น” ประโยคนั้นพานทำให้ใจฉันรู้สึกถึงความอันตรายกำลังจะคืบคลานเข้ามา จนอยากจะเดินหนีออกจากเฟรมนี้ แต่ว่าขาฉันมันไม่ขยับเลยนะสิ สายตาฉันกลับดันไปจ้องดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นนานกว่าที่ควร เพียงเขาเอ่ยชื่อฉันที่เป็นชื่อจริง ไม่ใช่ชื่อในวงการ ไม่ใช่ชื่อที่แฟนคลับติดแฮชแท็กกันทุกวัน แต่เป็นชื่อเก่าอย่าง ‘มินตรา’
ฉันกลืนน้ำลายไปหลายอึก ก่อนจะถามกลับในเสียงที่ไม่มั่นใจนัก
“พี่แทน?” เขายิ้มอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่คุ้นเคยในความทรงจำเก่า รุ่นพี่นิเทศที่ฉันคิดว่าเป็นเกย์มาตลอด คนที่เคยยืมเสื้อแจ็คเก็ตของฉันไปครั้งหนึ่ง แล้วไม่เคยได้คืนกลับมา
ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเขาชอบผู้ชายมาโดยตลอด ก็พี่อาร์มเพื่อนสนิทของพี่เขาฉันรู้จักดี รายนั้นเกย์ตัวพ่อเลยนะ แล้วพี่แทนก็ตัวติดกับพี่อาร์มจะตายไป จะไม่ใช่เกย์ได้ไงจริงไหมล่ะ
เขาเดินมาใกล้ฉันอีกนิด ไม่ได้แตะต้อง แต่ระยะห่างตรงนี้กลับทำให้หัวใจฉันเต้นผิดจังหวะ
“ลองอ่านดูนะ ถ้ายังไม่ใช่...พี่จะเขียนใหม่” เขาพูดเบา ๆ เหมือนกระซิบไม่มีใครได้ยิน ทั้งที่ตรงนั้นมีคนยืนอยู่เป็นสิบ ๆ คน
ฉันมองบทในมือ จากนั้นก็เงยหน้ามองเขาอีกหน เพื่อถามย้ำอีกครั้ง
“พี่เขียนเองเหรอ?”
“ใช่” เขาพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยต่อ “เพื่อมิ้นโดยเฉพาะ”
และนั่นคือครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า...อยากเป็นตัวประกอบต่อไปจริง ๆ หรือเปล่า