4

1129 Words
บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปแบบคนเพี้ยน ตั้งแต่ที่รู้จักได้เจอจนถึงตอนนี้เวลาเพียง 48 ชั่วโมง ทำให้ผู้หญิงที่มีชีวิต อันแสนสงบสุขต้องเปลี่ยนไป เสียงซุบซิบของสาวๆ ในบริษัทยืมมองตรงกระจกลงไปยัง ชั้นล่าง ทำเอาคนที่พึ่งออกจากห้องประชุมมาหยุดนิ่ง มองด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไร มีใครทำอะไรด้านล่าง “วันนี้พนักงานของเราดูคึกคักแปลกๆว่าไหมแก” อ้อนแอ่นกระซิบพูดกับเพื่อนรัก “อือ! วันนี้มีงานหรือใครมาออกบูธด้านล่างหรือเปล่า” นิรินถามอย่างสงสัย “ไม่นะ” อ้อนแอ่นส่ายหน้า ทั้งคู่เดินไปตรงจุดที่บรรดาพนักงานสาว ยืนบิดซ้าย บิดขวา มองลงไปด้วยสายตาเคลิ้ม “ว้าย! แก น่าอิจฉา ใครกันคือผู้หญิงโชคดี” อ้อนแอ่นสนใจร่วมด้วย นิรินมองลงไป เธอจำได้ทันที แม้จะมองจากระยะที่ไกลพอสมควร ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่รู้จะเขินหรือโมโหไอ้เด็กบ้าคนนั้น “…” “นังริน แกว่า…” อ้อนแอ่นกำลังจะหันหน้าไปพูด แต่เพื่อนเธอเดินเกือบจะวิ่งลงไปชั้นล่าง เธอจึงรีบวิ่งตามลงไป งานนี้มันต้องเกี่ยวกับนังรินแน่นอน “ริน! แกรู้จักผู้ชายคนนั้นเหรอย๊ะ” “ไม่ให้รู้จักได้ยังไง ก็ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนั้นกำลังเข้ามาป่วนชีวิตฉันอยู่นะสิ” มองจากชั้นบนดูมองเห็นความอลังการของช่อดอกไม้หลากหลายช่อ ลูกโป่งที่เขียนสารพัดคำชม จะไม่ให้สาวๆในบริษัทกรี๊ดได้ยังไงก่อน นิรินเห็นแล้วปวดหัวขึ้นมาทันที ประชุมวางแผนการตลาดยังไม่ปวดหัวเท่ากับสิ่งที่เห็นในตอนนี้เลย “เบบี๋! จ้า” เสียงหล่อๆทักมาก่อนที่นิรินจะวิ่งไปถึงตัว “เบบง เบบี๋ อะไรของนายฟังแล้วขนลุก ว่างนักหรือไง ไม่เอาเวลาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ไปตั้งใจเรียนหนังสือให้จบ” นิรินโวยก่อนทันที “เบบี๋ ห่วงอนาคตเค้าใช่ไหม” กวินทร์ใช้ความมึน ตอนนี้ใครจะเอาไปพูดว่าเค้าคลั่งรักก็ไม่เถียง “ฉันไม่ได้ห่วงนาย ห่วงพ่อแม่นายต่างหากที่เสียเงินให้ คนอย่างนายได้เรียนหนังสือ ตอนเรียนตั้งใจเรียนเหมือนทำเรื่อง ไร้สาระแบบนี้หรือเปล่า” คนฟังทนไม่ไหวต้องบ่น อ้อนแอ่นพอจะเดาได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคือผู้ชายในค่ำคืน เห็นแล้วอดอิจฉาเพื่อนรักไม่ได้ ไม่แปลกใจแล้วทำไมถึงหายไปสองวันสองคืน “เห็นไหมผมบอกแล้วว่า มีแฟนอายุเยอะกว่ามันดีอย่างนี้ ห่วงอนาคตของแฟน” กวินทร์เปลี่ยนจากคำว่า ผัว เป็นคำว่า แฟน “ฉันพูดกับนายหลายครั้งแล้วนะว่า …” นิรินกำลังจะพูดคำว่าไม่ใช่ทั้งผัวทั้งแฟน สายตาที่จ้องมามันทำให้เธอต้องหยุดพูดคำนั้น “ว่า! ว่าอะไรครับ ผมเป็นอะไร เอาให้ชัดๆ ตอบไม่ตรงใจระวังตัวเองเอาไว้ให้ดี นี่ไม่ใช่คำขู่ เบบี๋ก็น่าจะรู้ว่า ผมคนจริง” “นายขู่ฉันเหรอ ไอ้…” “ไอ้อะไรจ้ะ อยู่ให้ปราบมาหลายคืนน่าจะรู้ หากทำให้หงุดหงิดตอนกลางคืนระวังจะถูกลงโทษสถานหนัก” อ้อนแอ่นฟังแล้วดวงตาเบิกโต ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนมองด้วยสายตาขอคำอธิบายด่วน นิรินหลบสายตา “กลับไปคุยกันที่ห้อง” “ห้องใครครับ” กวินทร์ย้อนถาม นิรินถลึงตาใส่ไม่ให้พูด แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะทำย้อนกับที่สิ่งห้าม “นังชะนี! มานี้เลย แกอธิบายด่วน เรื่องมันเป็นยังไง” “เอาไว้วันอื่นได้ไหม ตอนนี้แกช่วยฉันก่อน ช่วยเอาเด็กคนนี้ไปเก็บที” นิรินกระซิบกระซาบกับอ้อนแอ่น กวินทร์ยกยิ้มมุมปาก เอาสิ! ดื้อนัก ข้อแม้เยอะแยะไปหมด มีเหรอผู้ชายแบบเขาจะยอม “นังชะนี แกนะแก” อ้อนแอ่นทำเสียงประชด “สรุปยังไง จะไปคุยต่อที่ห้องไหน ห้องของเราหรือว่าห้องอื่นเผื่อเบบี๋อยากเปลี่ยนบรรยากาศ” “นายมันต้องหน้าด้านขนาดไหน บ้าไปแล้วหรือไงที่มาตามตื๊อแบบนี้” “ถ้าบ้าก็คงเพราะ เบบี๋นะแหละที่ดื้อไม่เข้าเรื่อง” “ฉันอยากจะจับนายหั่นเป็นชิ้นๆ จริง” นิรินกัดฟันพูด “อย่าพึ่งสิครับ นี่แค่เริ่มต้นยังไม่มีอะไรพิเศษ” กวินทร์หัวเราะในลำคอยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ “ฉันควรทำยังไงกับนายดี” นิรินกำหมัดอยู่ข้างลำตัว “ไม่ต้องทำไรมาก แค่ทำตัวน่ารักก็พอ” สถานการณ์ที่ชวนอึดอัด อ้อนแอ่นเห็นหน้าของเพื่อนรักแล้วก็อดสงสารไม่คิดจริงๆว่านางจะมีผู้ชายมาทำแบบนี้ให้ ดูจากสิ่งที่แล้วน่าจะเป็นคนมีฐานะแน่นอน “เอ่อ! ขอโทษนะคะ พอดีพี่ชื่ออ้อนแอ่นเป็นเพื่อนนิริน น้องผู้ชายชายชื่อ…”อ้อนแอ่นทำหน้าอึกอัก “กวินทร์หรือวินก็ได้ครับ ปกติผมไม่ค่อยให้ใครเรียกวินเฉยๆ ถ้าไม่สนิทกันจริงๆ” “แล้วน้องวินให้พี่เรียกได้เหรอคะ”อ้อนแอ่นถามอย่างมีจริต “ได้สิครับ ในเมื่อพี่อ้อนแอ่น” น้ำเสียงทุ้มนุ่ม “เรียกชื่อซะเคลิ้มเลย” อ้อนแอ่นเขินตัวบิด ระหว่างที่พูดและทำท่าเคลิ้มอยู่ๆ ก็มีฟาดไปตรงต้นแขนดังเพี๊ยะ “ชะนี! ฉันเจ็บนะ”อ้อนแอ่นถึงกับมองค้อน “ฉันให้แกช่วยไม่ได้ให้แกมาเคลิ้ม” นิรินกระซิบพูดเบาๆ “น้องวินพี่คิดว่า เราไปคุยกันที่ห้องเจ้าของบริษัทดีกว่าไหม” อ้อนแอ่นพยายามช่วยดูเหมือนการช่วยครั้งนี้จะไม่ถูกใจเพื่อนรักเท่าไหร่ “นังอ้อน แกจะให้เด็กคนนี้ขึ้นไปบนห้องฉันทำไม” “แล้วแกจะให้ไปคุยที่ไหน สน.ไหมละ” “ที่อื่นมีเยอะแยะไม่ไป” “แล้วทำไมแกไม่พูดเอง นังชะนี” ระหว่างที่อ้อนแอ่น นิรินทะเลาะกันอยู่กัน กวินทร์ได้เดินขึ้นบันไดไปยังส่วนด้านบน ฟังคร่าวๆก็พอจะเดาออกว่า ห้องผู้บริหาร อยู่ไหนไม่ยากสำหรับเขาอยู่แล้ว ขนาดคนเขายังหาเจอห้องแค่นี้จะหาไม่เจอเลยหรือไง อ้อนแอ่นหันกลับไปกำลังจะอ้าปากพูด หันขวับกลับไปมองตรงบันได ก่อนจะชี้และตีไปที่ต้นแขนเพื่อน “ชะนี! เด็กแกไปโน้นแล้ว” นิรินมองขึ้นไปตรงบันได ก่อนจะวิ่งเพื่อไปขวางไม่ให้อีกฝ่ายไปถึงห้องทำงานของตัวเองดูเหมือนว่าช้าไปแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD