Chapter 7 รักของเรา (3)

1942 Words
ภายในห้องพิเศษที่แสนเงียบงัน...มันเงียบงันเพราะจอมทัพกับบุษบากรไม่ได้ปริปากพูดคุยกันเลยนับตั้งแต่ถูกเคลื่อนย้ายมาฟักฟื้น...ห้องพิเศษที่จอมทัพเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมด โดยที่บุษบากรไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังจากนี้ใครจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายหลังจากออกจากโรงพยาบาล แววตาเคร่งเครียดยามนี้แดงก่ำ จับจ้องมองคนที่นอนตะแคงหันหลัง ถ้อยคำของแพทย์ที่ทำการรักษายังคงดังก้อง 'คุณแม่มีภาวะแท้งคุกคาม อาจเกิดจากความเครียด หรือทำงานหนักมากไป พักผ่อนไม่เพียงพอก็ทำให้เกิดภาวะนี้ได้' มันคือข่าวแสนช็อกความรู้สึก มาพร้อมกับคำถามที่อื้ออึงอยู่ในหัว...ใคร...ที่เป็นพ่อเด็กตัวจริง ชายหนุ่มพาสองขาที่อ่อนแรงเดินอ้อมเตียงไปยังฝั่ง ที่หล่อนนอนหันหน้าไปทางนั้น...แววตาที่เต็มไปด้วยคำ ถามจับจ้องมองหน้าของคนที่ยามนี้หยาดน้ำตาไหลรินอาบร่องแก้ม "เพียงดาว เราต้องคุยกัน" เสียงนั้นเบาหวิว ในใจแสนอัดอั้นเจ็บปวด มันมีทางความรู้สึกคลั่งแค้นและกังขา ในความกรุ่นโกรธจากเรื่องที่ยังฝังแน่นอยู่ในใจ ก็กลับมีความห่วงหาอาทรเจืออยู่ จนไม่อาจปล่อยหล่อนให้นอนอยู่อย่างเดียวดายได้ เขาดูเวลา...นึกขึ้นมาได้ ช่วงบ่ายมีประชุมคณะ กรรมการ เกี่ยวการกับลงมติที่เขาเสนอไป การเข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทของวรพล เป็นอีกเรื่องที่เขาไม่อาจทำเฉยโดยไม่ลงมือช่วยอะไร อย่างน้อยวรพลกับครอบครัวเขาก็รู้จักกันมานาน เสียงถอนหายใจยาวสื่อถึงอารมณ์หลากหลาย เอ่ยทำลายความเงียบ "เธอท้องกับใครฮึเพียงดาว!" บุษบากรปิดเปลือกตาหนี เมื่อถูกคาดคั้นหล่อนยิ่งสะอื้นจนกายสะท้านไหว "บอกมา! ใคร...เป็นพ่อเด็ก" เสียงกระซิบเข่นรอดไรฟัน บุษบากรสะดุ้งเฮือก เมื่อกรงอุ้งมือขยุ้มลงบนต้นแขนเรียวแล้วออกแรงบีบ "เธอจะพูดมั้ย ตอบมา เดี๋ยวนี้!" หยาดน้ำตายิ่งหลั่งไหลพรั่งพรู...บอกไม่ได้...หล่อนจะบอกออกไปได้อย่างไรว่าพ่อเด็กก็คือเขา ถ้าทำแบบนั้น มันก็ไม่ต่างไปจากการเป็นมือที่สามทำลายครอบครัวชาวบ้าน ไม่อยากถูกตราหน้าแบบนั้น ไม่อยากกลายเป็นเมียน้อยเพียงเพราะหล่อนกับเขามีโซ่ทองคล้องใจด้วยกัน เจ็บปวดเหลือเกิน...ความกดดันทำให้ในหัวอื้ออึงไปหมด เหมือนมีเสียงตะโกนก้องอยู่ในหัวจนฟังไม่ได้ศัพท์ รู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิดออกมา "ใช่ไอ้คิงส์มั้ย มันใช่มั้ยที่ทำเธอท้อง!" เขาหมายถึงภวินทร์ พี่น้องคนละแม่ที่ฝ่ายนั้นแก่กว่าเขาเพียงแค่ปีเดียว...ความเจ็บปวดคลืบคลานมาเกาะกินใจ เมื่อเรื่องในอดีตที่ยังไม่ตกตะกอนถูกกวนให้ขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง...เขายังจำความรู้สึกวันนั้นได้ดี... ปาร์ตี้ส่วนตัวที่ถูกจัดขึ้นในบ้านหรู...ตรงมุมอับที่คละคลุ้งไปด้วยควันบุหรี่ไฟฟ้า บนเดย์เบด...สองหนุ่มสาวกำลังนัวเนียกันโดยไม่สนใจกล้องวิดีโอที่อัดภาพไปเรื่อย ๆ ซึ่งคนอัดวิดีโอก็คือเพื่อนลูกชายเจ้าของบ้าน มันมาจากความเมาและความคึกคะนอง ใครดูก็รู้ว่ามันคือปาร์ตี้ยาและสุรานารี...เจ้าของงานก็คือภวินทร์ บุษบากรในสภาพเมามายยอมให้ชายอื่นกอดจูบลูบคลำ ไม่มีใครทำหล่อนได้หากหล่อนไม่เป็นฝ่ายเดินเข้าไปร่วมงาน ไม่เหลือเค้าบุษบากรคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก คนที่อ่อนหวานและเรียบร้อยหายไป จนเขาคิดว่านั่นคือเปลือกนอกที่หล่อนใช้หลอกเขาให้หลงรักจนหัวปักหัวปำ และเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนั้น เพราะทนดูต่อไปไม่ไหวจริง ๆ เขาไม่รู้ภวินทร์คิดอะไร แต่ฝ่ายนั้นเดินเข้ามาบอกเขาแบบไม่อ้อมค้อม...ผู้หญิงที่เขารักจนถึงขั้นคิดจะแต่ง งานด้วย ยามนี้หล่อนกำลังปันใจให้ชายอื่นรวมทั้งมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง และคนนั้นไม่ใช่ใคร ศัตรูหัวใจของเขาก็คือ ภวินท์ คนที่ไม่เคยลงรอยกันมานับตั้งแต่จำความได้ จอมทัพดึงตัวเองขึ้นมาจากห้วงอดีต แววตาของเขาร้อนผ่าวปวดหนึบ ยามนี้เขาคิดเป็นอื่นไม่ได้ จริง ๆ แล้วบุษบากรกับภวินทร์ยังแอบติดต่อกันแน่นอน "เงียบแบบนี้...จะให้พี่คิดยังไงเพียงดาว..." "ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ใครทั้งนั้น ดาวมันมั่วเอง มั่วเสียจนไม่รู้ว่าใครคือพ่อของลูกตัวจริง ฮือ ๆ" "เพียงดาว!" "ไม่ต้องเถียงกันหรอกครับ พ่อของเด็กในท้องก็คือผมเอง!" "กรณ์!" ชัยกร...เขาแอบฟังอยู่นานแล้ว พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เขาเข้าใจถึงทางเดินที่ตีบตันของบุษบากร จึงออกปากรับหน้าไปแบบนั้น หวังให้จอมทัพกลับไปหาครอบครัวตัวเองเสียที แต่นั่น...มันทำให้จอมทัพถึงกับช็อกซ้ำสอง ไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะอลหม่านไปถึงเพียงนี้ "นายว่าไงนะ พ่อเด็กคือนายงั้นเหรอ!" ชัยกรสบกับแววตาที่มองมาราวจะกินเลือดกินเนื้อ เขาสูดลมหายใจเข้าปอด คิดไปพร้อมกัน จะถูกตะบันหน้าจนล้มคว่ำหน้าคะมำก็ช่าง ขอแค่ช่วยเหลือเพื่อนให้พ้นจากข้อกล่าวหาไปก่อน "ครับ ผมเอง" "ไอ้...!” พลั่ก! หมัดหนัก ๆ ซัดลงบนซีกหน้าข้างซ้ายจนชัยกรเซถลา...บุษบากรยันกายลุกนั่ง ร้องห้ามเสียงดัง "อย่าค่ะ อย่าทำเขา!" จอมทัพที่กำลังโกรธจนหน้ามืด เขาโถมร่างตามลงไปซ้ำ ในขณะที่ชัยกรไม่คิดจะสู้ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายบ้าคลั่งไปกว่านี้ ยอมให้เจ้าตัวระบายความคลั่งแค้นลงบนร่างของตนจนสาแก่ใจ "พี่จอม ปล่อยเราไป แล้วก็กลับไปได้แล้ว!" บุษบากรตะโกนไล่ด้วยน้ำตานองหน้า หล่อนสงสารเพื่อนจับใจ แม้หมอจะให้นอนนิ่ง ๆ ไปสักระยะ หากแต่หล่อนไม่อาจทำได้หากจะทนมองดู เข็มที่เจาะอยู่บนหลังมือเพื่อให้น้ำเกลือถูกดึงออก ก่อนที่หล่อนจะผลุนผลันลงจากเตียง "กรณ์ ทำไมต้องทำแบบนี้" หยาดน้ำตายิ่งไหลรินเมื่อเห็นสภาพของเพื่อน สองมือค่อย ๆ ประคองเพื่อนให้ลุกขึ้น...จอมทัพมองภาพนั้นด้วยแววตาที่เจ็บปวด สองคนดูห่วงใยรักใคร่ เหม็นกลิ่นความรักเหลือเกิน เขาเบือนหน้าหนีไม่มอง บดกรามจนเป็นสันนูน รักมากก็ยิ่งเจ็บมาก เขาเจ็บที่อกข้างซ้าย...เมื่อได้รู้ว่าบุษบากรนอนกับผู้ชายหลายคน เจ็บจากเรื่องของหล่อนกับภวินทร์ก็มากพอ มันทำให้เขาเสียผู้เสียคนจนจบชีวิตตัวเองด้วยการแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเพื่อประชดหวังเอาคืน ยังต้องมาเจ็บซ้ำ ๆ เมื่อได้รู้ว่าหล่อนกับเพื่อนสนิทกำลังมีโซ่ทองคล้องใจด้วยกัน "แล้วแต่เธอเลยเพียงดาว นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พี่จะไม่ยุ่งวุ่นวายอะไรกับเธออีก!" จอมทัพหอบใจที่ร้าวรานเดินออกจากห้องไป แววตาของเขาร้อนผ่าวปวดหนึบ จากไปพร้อมอารมณ์โกรธที่ล้นอก...เขาไปแล้ว...ไปพร้อมความเข้าใจผิด บุษบากรมองบานประตูที่ปิดสนิทด้วยมุมมองที่พร่าเลือนไปด้วยหยาดน้ำตา "ฮือ ๆ" อยากทรุดกายลงกับพื้นแล้วร่ำร้องตะโกนก้อง เกลือกกลิ้งฟูมฟายให้กับโชคชะตาที่กำลังตกต่ำดำดิ่งลึก...ชัยกรรั้งร่างที่สะอื้นจนตัวโยนเข้ากอดแล้วลูบแผ่นหลังของหล่อนไปมา ให้หล่อนได้รู้ว่าถึงแม้ไม่มีใคร...หล่อนก็ยังมีเขา คือคนที่พร้อมจะช่วยเหลือให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปได้ จะไม่ทอดทิ้งกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม Liquor สำนักงานกรุงเทพฯ… "ผมไม่เห็นด้วย หาก Liquor จะทุ่มเงินไปกับการซื้อบริษัทเน่า ๆ มาไว้ในครอบครอง มันคือการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า" ภวินทร์ขัดขึ้นกลางที่ประชุม เขาสบตากับน้องชายต่างมารดา...จอมทัพ คนที่นำเรื่องนี้ไปเสนอกับบิดา...แน่นอน...เขารู้ทัน เหตุใดจอมทัพจึงอยากให้ Liquor เข้าไปเทคโอเวอร์ จอมทัพสบตากลับอย่างไม่มีใครยอมใคร...บรรยากาศชวนให้อึดอัด ใคร ๆ ก็รู้ ทั้งภวินทร์และจอมทัพนั้นไม่ค่อยจะลงรอยกัน "เราจะมาโหวตกันครับ ถ้าใครเห็นด้วยกับผม ก็ขอ ให้ยกมือ" มือของจอมทัพชื้นไปด้วยเหงื่อ...เขาปรายตามองไปโดยรอบ โครงการนี้ไม่มีใครเห็นด้วยกับเขา ชายหนุ่มบดกรามจนเป็นสันนูน เพราะมีเขาเพียงคนเดียวที่ไม่ยกมือ เป็นอันว่าจบการประชุมที่ได้ข้อสรุปไปยังฝั่งภวินทร์...ในขณะที่ทุกคนทยอยออกไป หากแต่จอมทัพยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ภวินทร์มองตามหลังกรรมการคนสุดท้ายที่เพิ่งเดินพ้นกรอบประตูออกไป และเพียงบานประตูปิดสนิท เขาก็เดินเข้ามาหาคนที่ยังคงนิ่งอยู่ที่เดิม ชายหนุ่มท้าวมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ ก้มหน้าลงต่ำกระตุกยิ้มหยัน "ลูกเมียน้อยอย่างนาย อย่าคิดจะทำตัวเหนือฉัน ลูกเมียน้อยก็ควรอยู่แบบเจียมตัว นายควรรู้เอาไว้ Liquor ไม่ใช่ของนาย คุณพ่อวางมือเมื่อไหร่ ฉันก็จะเป็นเจ้าของ Liquor อย่างเต็มตัว" จอมทัพกระตุกยิ้ม เขาลุกพรวดขึ้น สบตากลับสื่อให้รู้ว่าเกมยังไม่จบ คงต้องสู้กันไปอีกยาว "หึ อย่าเพิ่งมั่นใจขนาดนั้น แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าลูกเมียน้อยเสียที" "แล้วจะให้ฉันเรียกว่าอะไร ลูกผู้หญิงแพศยาดีมั้ย!" เมื่อมารดาถูกพาดพิง ปมในใจที่ฝังรากลึกก็ทำให้จอมทัพก็ไม่อาจควบคุมสติได้ สองมือผลักลงบนแผงอกของอีกฝ่ายเต็มแรง มองหน้าพี่น้องต่างมารดาด้วยแววตาชิงชัง เขาเกลียดภวินทร์จับจิต ยิ่งเกลียดมากที่อีกฝ่ายมายุ่งกับบุษบากร และหล่อนก็ทำท่าปันใจไปให้ภวินทร์ด้วยซ้ำ "แล้วผู้หญิงที่ใช้มารยาจับผู้ชายจนผู้หญิงอีกคนต้องเสียใจ ต้องกลายเป็นฝ่ายผิด แบบนี้เรียกว่าอะไร ใครกันแน่ที่แย่งเขาไป ถ้าไม่ใช่แม่นาย!" "ใครจะมาก่อนมาหลังไม่สำคัญ แต่ปัจจุบันแม่นายก็คือเมียน้อย จำเอาไว้ นายมันก็คือลูกเมียน้อยอยู่วันยังค่ำ และฉันยอมไม่ได้ หาก Liquor จะตกไปอยู่ในมือของลูกเมียน้อยอย่างนาย!" จอมทัพลอบกำมือแน่น บดกรามจนเป็นสันนูนเพื่อข่มอารมณ์ นับหนึ่งถึงร้อยในใจอดทนต่อรอยยิ้มหยามเหยียดที่ส่งมาให้...ปมในใจที่ฝังรากลึกมาตั้งแต่เด็ก เขาเคยบอกตัวเอง จะไม่ทำตัวแบบบิดา ทำให้มารดาของเขาต้องกินน้ำตาต่างข้าว และความที่เยื่อใยยังคงตัดไม่ขาด มารดาจึงให้กำเนิดเขาขึ้นมา แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะพาตัวเองมายืนอยู่ในจุดที่บิดาเคยยืน รู้ซึ้งกับมันก็เมื่อพานพบ...รักที่ยากจะเข้าใจ มันซับซ้อนซ่อนเล่ห์ พาเขาสับสนหลงทางจนหาทางออกไม่เจอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD