บทที่ 2

1436 Words
ตอนที่หนึ่ง ครืด ครืด โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูดังขึ้น ระหว่างที่คนตัวเล็กกำลังก้าวเท้าเข้าตึกที่พัก ขวัญนรีล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋า ชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอทำให้หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นโดยไม่รู้ตัว “ค่ะพี่”คนตัวเล็กกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ด้วยความตื่นกลัว [ขวัญใช่ไหม ฉันเป็นเพื่อนของจีนนะพอดีจีนมันเมามากหลังจากน้องกลับไป มารับมันหน่อยได้ไหม พวกเราไม่อยากเจอพ่อมัน] [ปล่อยฉัน...เอาเหล้ามาอีกดิ] เสียงปลายสายแทรกเข้ามา “เอ่อ…พี่พาพี่จีนไปส่งที่คอนโดก็ได้นะคะ อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น” [เหรอ นั้นน้องก็มารับมันไปหน่อยก็แล้วกัน พวกฉันมีนัดต้องไปต่อ หรือน้องจะปล่อยให้มันนอนอยู่ที่คลับก็ได้นะ]สายถูกตัดไป คนตัวเล็กไม่มีทางเลือกนอกจากกลับไปที่คลับเดิมอีกครั้งเพื่อรับพี่สาว “ไปที่Zคลับค่ะพี่”ขวัญนรีเอ่ยบอกคนขับแท็กซี่ “ขึ้นเลยน้อง”แม้จะหวั่นๆ กับท่าทางที่ไม่น่าไว้ใจของคนขับจนคนตัวเล็กอยากจะบอกปัด แต่กลัวพี่สาวจะโดนทิ้งให้อยู่ที่คลับคนเดียวไร้การดูแลจึงเปิดประตูก้าวขึ้นรถ “ทางนี้ไปได้แน่เหรอคะพี่”ขวัญนรีเกิดกลัวขึ้นมาเมื่อสองข้างทางไร้ซึ่งรถสัญจรไปมามีเพียงรถแท็กซี่คันที่เธอนั่งมาเท่านั้น บรรยากาศสองข้างทางเต็มไปด้วยป่ารกรกทึบ แสงไฟสลัวจากริมทางชวนขนลุกจนเธอนั่งไม่ติดเบาะ “ทางลัดนะน้อง รับรองถึงเร็ว”คนขับลอบมองกระจกหลัง ยิ่งเห็นคนตัวเล็กตื่นกลัวเขายิ่งยกยิ้มพอใจ เอี๊ยดดดด!! เสียงล้อเบียดลากพื้นถนนทำให้หญิงสาวตกใจจนต้องกรีดร้องออกมา ศีรษะของเธอชนเข้ากับเบาะหน้าอย่างจัง “อร้ายยยย!!” “อะไรวะ!!” ท่ามกลางแสงไฟสลัวสองข้างทาง พบกลุ่มชายปริศนาตีกันโดยใช้อาวุธ ขวัญนรีปรายตามองไปรอบๆ พบชายร่างสูงกำลังชักปืนออกจากด้านหลังและเธอเผลอไปสบตาเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ “พี่รีบไปเร็ว คนนั้นเขามีปืน” เธอตะโกนเสียงดัง ร่างกายแข็งทื่อไร้การควบคุม เธอกลัวอาวุธพวกนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถึงแม้จะมีพ่อเป็นนายพลทหารยศใหญ่โต แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปข้องแว้งกับเรื่องพวกนี้ ร่างสูงปริศนาจ้องมองมายังรถแท็กซี่สายตาเขม็ง กระบอกปืนถูกชักออกมาจากด้านหลัง ยกขึ้นชี้ปากกระบอกไปยังรถคันนี้ “เอาไงดีน้อง เราตายแน่มันมีปืน”ด้วยความลนลานของเจ้าของแท็กซี่ทำให้หญิงสาวนั่งไม่ติดเบาะ หัวใจเต้นรัวเหมือนจะทะลุออกจากอกข้างซ้าย “ถอยหลังค่ะ” “ทำไงอะน้อง พี่กลัวขาพี่มันเหยียบคันเร่งไม่ไปด้วยซ้ำ” “พี่ใจเย็นก่อนนะ!!ใจเย็น…หายใจเข้า หายใจออก”เธอพยายามผ่อนคลายความกังวลให้คนขับเพื่อเขาจะได้พาเธอออกไปจากสถานที่อันตรายแห่งนี้ “ไม่ได้น้องพี่กลัวมันเดินมาแล้ว”คนกลัวโวยวายเสียงดัง ก้มหน้าซุกพวงมาลัย ขวัญนรีประคองสติที่มีน้อยนิด ทางเลือกทางเดียวที่เธอคิดได้ในตอนนี้คือการบอกให้เจ้าของแท็กซี่ย้ายไปนั่งอีกฝั่งของรถแทน “ลุกพี่ ขยับไปอีกฝั่งหนูขับเองค่ะ” “ห๊ะ!” “ลุกค่ะพี่” “ได้ๆ”คนกลัวลนลานก้าวขาไปอีกด้านของเบาะผู้โดยสาร หัวใจเขาแทบจะหยุดเต้นเมื่อชายร่างสูงเล็งปากกระบอกปืนมาทางเขา ขวัญนรีนั่งประจำตำแหน่งคนขับ อกข้างซ้ายเต้นไม่เป็นจังหวะราวกับจะทะลุออกมา เมื่อเห็นว่าร่างสูงเดินเข้ามาหารถแท็กซี่ใกล้ขึ้นอีก ปลายกระบอกปืนที่เล็งพร้อมยิง ทำให้หญิงสาวต้องเหยียบคันเร่งใส่เกียร์ถอยหลังกรู จ้องมองร่างสูงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเหยียบคันเร่งเดินหน้าแล้วขับออกไปทันที ระหว่างทางเธอมองกระจกหลังเป็นระยะหวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ตามมา “ให้ตามไปไหมครับนาย” ร่างสูงทอดสายตามองรถแท็กซี่ที่ห่างสายตาไปเรื่อยๆ เขาเก็บปืนพกเข้าที่ ก่อนจะหันไปตอบลูกน้องด้วยน้ำเสียงเข้ม เจ้าของร่างสูงที่ใครได้ยินชื่อเป็นต้องกลัวจนตัวสั่น มังกร ไอศูรย์ เขาไม่เพียงแค่โหด ดิบ เถื่อน แต่ยังเอาแต่ใจเป็นที่สุด ของที่เขาอยากได้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือคนเขาต้องได้มันโดยไม่มีข้อแม้ “ไม่ต้อง แค่ผู้หญิงคนเดียว” “แล้วคนขับแท็กซี่ล่ะครับ” “ตามหามันให้เจอแล้วจัดการซะ” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มปรายตามองยังร่างใหญ่ที่นอนจมกองเลือด เสียงหายใจรวยรินบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังจะขาดอากาศหายใจ ร่างสูงก้าวข้ามร่างนั้นไป “แม่ง! รองเท้าใหม่กู”เลือดที่เปรอะเปื้อนตามพื้นทำให้รองเท้าสั่งตัดคู่ใหม่ของเขาเปื้อน เท้าใหญ่ยกขึ้นเช็ดไปมากับเสื้อของคนที่นอนอยู่ ก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปขึ้นรถ ไร้ซึ่งความผิดชอบชั่วดีจากคนอย่างเขา หลังจากที่เกิดการทะเลาะกับน้องสาวตัวดีกลางคลับหรูจนทำให้เธอหงุดหงิด แต่แล้วคนฉลาดอย่างเธอก็คิดแผนการชั่วได้ เมื่อเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นโชว์เบอร์ของคนที่เธอรังเกียจเข้าไส้ เธอก็คิดแผนที่ทำให้ยิ้มได้ออกมา “ยิ้มอะไรของแก เมื่อกี้ยังหงุดหงิดอยู่เลย” “ฮัลโหล อยู่ไหนคะ” [คอนโดครับ] “มากินเหล้าเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” [วันนี้มาแปลกนะ] “แล้วจะไม่มาเหรอ” [กำลังไปครับ] เธอกดวางสายพร้อมยกยิ้มชั่วร้าย “ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ” “ถ้าเป็นเรื่องสนุกก็ส่งมา”เพื่อนสาวรับโทรศัพท์เครื่องหรูกดโทรออกถึงปลายสาย กรอกเสียงพูดตามที่จารวีเอ่ยบอก “มาแล้วเหรอคะ” “ครับ ผมไม่รู้ว่าอยู่กันเยอะแบบนี้” “เพื่อนกันทั้งนั้น นั่งลงสิ” เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที จารวียัดแก้วสีอำพันใส่มือไอศูรย์แก้วแล้วแก้วเล่า เธอตั้งใจจะมอมให้อีกฝ่ายเมามายจะได้เข้าสู่แผนการที่เธอวางไว้โดยง่าย “ดื่มอีกสิ” “ถ้าผมดื่มแล้วผมจะได้อะไรครับ ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านหรือคุณจะอยู่กับผมทั้งคืน” หน้าตาก็แย่ หุ่นก็งั้นๆ ต่อให้แกรวยแค่ไหน คนอย่างฉันก็ไม่คิดจะปรายตามองผู้ชายขี้เหร่แบบแก น่ารังเกียจชะมัดที่ต้องทนให้มันมานั่งจีบอยู่แบบนี้ จารวีบ่นขึ้นภายในใจ ก่อนจะปรายตามองเขาอีกครั้ง ถ้าไม่ติดว่าเธอต้องหลอกน้องสาวให้มาติดกับดักในแผน เธอคงไม่นั่งดื่มกับผู้ชายคนนี้แน่นอน ไอศูรย์ผู้เป็นเจ้าของส่วนสูงร้อยแปดสิบหก ที่มีใบหน้าธรรมดาออกไปทางขี้เหร่ในสายตาของคนที่เขาชอบ เขามีเพียงความรวยที่พอจะหลอกล่อเธอได้ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคิด หญิงสาวที่เขาตามจีบมาแล้วสองเดือนเต็มมักปฏิเสธการเชิญชวนของเขาอย่างไร้เยื่อใย แต่แล้ววันนี้กลับเป็นเธอที่เป็นฝ่ายเชิญชวนให้เขามาหาด้วยตัวเอง “นอกจากหน้าตาแย่แล้วยังโง่ชะมัด”เพื่อนของจารวีต่างพากันกระซิบนินทาในรูปลักษณ์ของคนตรงหน้าพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ เคล้ากับเสียงเพลง พวกเธอคิดว่าชายหนุ่มไม่ได้ยินเสียงที่พวกเธอสนทนากัน “ดื่มก่อนสิคะ ฉันยังไม่อยากกลับตอนนี้”จารวีถ่วงเวลาเพื่อรอน้องสาวตัวดีของเธอ “ครับ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลายสายกรอกคำพูดสองสามคำที่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับนั่งไม่ติด ต้องรีบออกไปจัดการให้เรียบร้อย “ผมมีธุระต้องไปจัดการ คงต้องขอตัวก่อน” “ไม่ได้นะ” “ทำไมครับหรือคุณเปลี่ยนใจ” “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ธุระของคุณนานแค่ไหน ฉันอยากจะเจอคุณคืนนี้” “ส่งที่อยู่มา ผมจัดการธุระเสร็จจะรีบไปหา” “ได้ค่ะ”ว่าจบร่างสูงก้าวยาวออกไปจากผับ เพราะด้านนอกมีเรื่องนองเลือดให้เขารอไปจัดการอยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD