ตอนที่หนึ่ง
ครืด ครืด
โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูดังขึ้น ระหว่างที่คนตัวเล็กกำลังก้าวเท้าเข้าตึกที่พัก ขวัญนรีล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋า ชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอทำให้หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นโดยไม่รู้ตัว
“ค่ะพี่”คนตัวเล็กกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ด้วยความตื่นกลัว
[ขวัญใช่ไหม ฉันเป็นเพื่อนของจีนนะพอดีจีนมันเมามากหลังจากน้องกลับไป มารับมันหน่อยได้ไหม พวกเราไม่อยากเจอพ่อมัน]
[ปล่อยฉัน...เอาเหล้ามาอีกดิ] เสียงปลายสายแทรกเข้ามา
“เอ่อ…พี่พาพี่จีนไปส่งที่คอนโดก็ได้นะคะ อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น”
[เหรอ นั้นน้องก็มารับมันไปหน่อยก็แล้วกัน พวกฉันมีนัดต้องไปต่อ หรือน้องจะปล่อยให้มันนอนอยู่ที่คลับก็ได้นะ]สายถูกตัดไป คนตัวเล็กไม่มีทางเลือกนอกจากกลับไปที่คลับเดิมอีกครั้งเพื่อรับพี่สาว
“ไปที่Zคลับค่ะพี่”ขวัญนรีเอ่ยบอกคนขับแท็กซี่
“ขึ้นเลยน้อง”แม้จะหวั่นๆ กับท่าทางที่ไม่น่าไว้ใจของคนขับจนคนตัวเล็กอยากจะบอกปัด แต่กลัวพี่สาวจะโดนทิ้งให้อยู่ที่คลับคนเดียวไร้การดูแลจึงเปิดประตูก้าวขึ้นรถ
“ทางนี้ไปได้แน่เหรอคะพี่”ขวัญนรีเกิดกลัวขึ้นมาเมื่อสองข้างทางไร้ซึ่งรถสัญจรไปมามีเพียงรถแท็กซี่คันที่เธอนั่งมาเท่านั้น บรรยากาศสองข้างทางเต็มไปด้วยป่ารกรกทึบ แสงไฟสลัวจากริมทางชวนขนลุกจนเธอนั่งไม่ติดเบาะ
“ทางลัดนะน้อง รับรองถึงเร็ว”คนขับลอบมองกระจกหลัง ยิ่งเห็นคนตัวเล็กตื่นกลัวเขายิ่งยกยิ้มพอใจ
เอี๊ยดดดด!!
เสียงล้อเบียดลากพื้นถนนทำให้หญิงสาวตกใจจนต้องกรีดร้องออกมา ศีรษะของเธอชนเข้ากับเบาะหน้าอย่างจัง
“อร้ายยยย!!”
“อะไรวะ!!”
ท่ามกลางแสงไฟสลัวสองข้างทาง พบกลุ่มชายปริศนาตีกันโดยใช้อาวุธ ขวัญนรีปรายตามองไปรอบๆ พบชายร่างสูงกำลังชักปืนออกจากด้านหลังและเธอเผลอไปสบตาเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“พี่รีบไปเร็ว คนนั้นเขามีปืน” เธอตะโกนเสียงดัง ร่างกายแข็งทื่อไร้การควบคุม เธอกลัวอาวุธพวกนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถึงแม้จะมีพ่อเป็นนายพลทหารยศใหญ่โต แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปข้องแว้งกับเรื่องพวกนี้
ร่างสูงปริศนาจ้องมองมายังรถแท็กซี่สายตาเขม็ง กระบอกปืนถูกชักออกมาจากด้านหลัง ยกขึ้นชี้ปากกระบอกไปยังรถคันนี้
“เอาไงดีน้อง เราตายแน่มันมีปืน”ด้วยความลนลานของเจ้าของแท็กซี่ทำให้หญิงสาวนั่งไม่ติดเบาะ หัวใจเต้นรัวเหมือนจะทะลุออกจากอกข้างซ้าย
“ถอยหลังค่ะ”
“ทำไงอะน้อง พี่กลัวขาพี่มันเหยียบคันเร่งไม่ไปด้วยซ้ำ”
“พี่ใจเย็นก่อนนะ!!ใจเย็น…หายใจเข้า หายใจออก”เธอพยายามผ่อนคลายความกังวลให้คนขับเพื่อเขาจะได้พาเธอออกไปจากสถานที่อันตรายแห่งนี้
“ไม่ได้น้องพี่กลัวมันเดินมาแล้ว”คนกลัวโวยวายเสียงดัง ก้มหน้าซุกพวงมาลัย
ขวัญนรีประคองสติที่มีน้อยนิด ทางเลือกทางเดียวที่เธอคิดได้ในตอนนี้คือการบอกให้เจ้าของแท็กซี่ย้ายไปนั่งอีกฝั่งของรถแทน
“ลุกพี่ ขยับไปอีกฝั่งหนูขับเองค่ะ”
“ห๊ะ!”
“ลุกค่ะพี่”
“ได้ๆ”คนกลัวลนลานก้าวขาไปอีกด้านของเบาะผู้โดยสาร หัวใจเขาแทบจะหยุดเต้นเมื่อชายร่างสูงเล็งปากกระบอกปืนมาทางเขา
ขวัญนรีนั่งประจำตำแหน่งคนขับ อกข้างซ้ายเต้นไม่เป็นจังหวะราวกับจะทะลุออกมา เมื่อเห็นว่าร่างสูงเดินเข้ามาหารถแท็กซี่ใกล้ขึ้นอีก
ปลายกระบอกปืนที่เล็งพร้อมยิง ทำให้หญิงสาวต้องเหยียบคันเร่งใส่เกียร์ถอยหลังกรู จ้องมองร่างสูงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเหยียบคันเร่งเดินหน้าแล้วขับออกไปทันที ระหว่างทางเธอมองกระจกหลังเป็นระยะหวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ตามมา
“ให้ตามไปไหมครับนาย”
ร่างสูงทอดสายตามองรถแท็กซี่ที่ห่างสายตาไปเรื่อยๆ เขาเก็บปืนพกเข้าที่ ก่อนจะหันไปตอบลูกน้องด้วยน้ำเสียงเข้ม
เจ้าของร่างสูงที่ใครได้ยินชื่อเป็นต้องกลัวจนตัวสั่น มังกร ไอศูรย์ เขาไม่เพียงแค่โหด ดิบ เถื่อน แต่ยังเอาแต่ใจเป็นที่สุด ของที่เขาอยากได้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือคนเขาต้องได้มันโดยไม่มีข้อแม้
“ไม่ต้อง แค่ผู้หญิงคนเดียว”
“แล้วคนขับแท็กซี่ล่ะครับ”
“ตามหามันให้เจอแล้วจัดการซะ”
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มปรายตามองยังร่างใหญ่ที่นอนจมกองเลือด เสียงหายใจรวยรินบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังจะขาดอากาศหายใจ ร่างสูงก้าวข้ามร่างนั้นไป
“แม่ง! รองเท้าใหม่กู”เลือดที่เปรอะเปื้อนตามพื้นทำให้รองเท้าสั่งตัดคู่ใหม่ของเขาเปื้อน เท้าใหญ่ยกขึ้นเช็ดไปมากับเสื้อของคนที่นอนอยู่ ก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปขึ้นรถ ไร้ซึ่งความผิดชอบชั่วดีจากคนอย่างเขา
หลังจากที่เกิดการทะเลาะกับน้องสาวตัวดีกลางคลับหรูจนทำให้เธอหงุดหงิด แต่แล้วคนฉลาดอย่างเธอก็คิดแผนการชั่วได้ เมื่อเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นโชว์เบอร์ของคนที่เธอรังเกียจเข้าไส้ เธอก็คิดแผนที่ทำให้ยิ้มได้ออกมา
“ยิ้มอะไรของแก เมื่อกี้ยังหงุดหงิดอยู่เลย”
“ฮัลโหล อยู่ไหนคะ”
[คอนโดครับ]
“มากินเหล้าเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
[วันนี้มาแปลกนะ]
“แล้วจะไม่มาเหรอ”
[กำลังไปครับ]
เธอกดวางสายพร้อมยกยิ้มชั่วร้าย
“ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”
“ถ้าเป็นเรื่องสนุกก็ส่งมา”เพื่อนสาวรับโทรศัพท์เครื่องหรูกดโทรออกถึงปลายสาย กรอกเสียงพูดตามที่จารวีเอ่ยบอก
“มาแล้วเหรอคะ”
“ครับ ผมไม่รู้ว่าอยู่กันเยอะแบบนี้”
“เพื่อนกันทั้งนั้น นั่งลงสิ”
เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที จารวียัดแก้วสีอำพันใส่มือไอศูรย์แก้วแล้วแก้วเล่า เธอตั้งใจจะมอมให้อีกฝ่ายเมามายจะได้เข้าสู่แผนการที่เธอวางไว้โดยง่าย
“ดื่มอีกสิ”
“ถ้าผมดื่มแล้วผมจะได้อะไรครับ ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านหรือคุณจะอยู่กับผมทั้งคืน”
หน้าตาก็แย่ หุ่นก็งั้นๆ ต่อให้แกรวยแค่ไหน คนอย่างฉันก็ไม่คิดจะปรายตามองผู้ชายขี้เหร่แบบแก น่ารังเกียจชะมัดที่ต้องทนให้มันมานั่งจีบอยู่แบบนี้
จารวีบ่นขึ้นภายในใจ ก่อนจะปรายตามองเขาอีกครั้ง ถ้าไม่ติดว่าเธอต้องหลอกน้องสาวให้มาติดกับดักในแผน เธอคงไม่นั่งดื่มกับผู้ชายคนนี้แน่นอน
ไอศูรย์ผู้เป็นเจ้าของส่วนสูงร้อยแปดสิบหก ที่มีใบหน้าธรรมดาออกไปทางขี้เหร่ในสายตาของคนที่เขาชอบ เขามีเพียงความรวยที่พอจะหลอกล่อเธอได้ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคิด
หญิงสาวที่เขาตามจีบมาแล้วสองเดือนเต็มมักปฏิเสธการเชิญชวนของเขาอย่างไร้เยื่อใย แต่แล้ววันนี้กลับเป็นเธอที่เป็นฝ่ายเชิญชวนให้เขามาหาด้วยตัวเอง
“นอกจากหน้าตาแย่แล้วยังโง่ชะมัด”เพื่อนของจารวีต่างพากันกระซิบนินทาในรูปลักษณ์ของคนตรงหน้าพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ เคล้ากับเสียงเพลง พวกเธอคิดว่าชายหนุ่มไม่ได้ยินเสียงที่พวกเธอสนทนากัน
“ดื่มก่อนสิคะ ฉันยังไม่อยากกลับตอนนี้”จารวีถ่วงเวลาเพื่อรอน้องสาวตัวดีของเธอ
“ครับ”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลายสายกรอกคำพูดสองสามคำที่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับนั่งไม่ติด ต้องรีบออกไปจัดการให้เรียบร้อย
“ผมมีธุระต้องไปจัดการ คงต้องขอตัวก่อน”
“ไม่ได้นะ”
“ทำไมครับหรือคุณเปลี่ยนใจ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ธุระของคุณนานแค่ไหน ฉันอยากจะเจอคุณคืนนี้”
“ส่งที่อยู่มา ผมจัดการธุระเสร็จจะรีบไปหา”
“ได้ค่ะ”ว่าจบร่างสูงก้าวยาวออกไปจากผับ เพราะด้านนอกมีเรื่องนองเลือดให้เขารอไปจัดการอยู่