อินถาอ้าปากค้าง กว่าจะได้สติว่าเท้านั้นได้ทำการหยุดเดินเอง และหยุดอยู่กับที่ก็ตอนที่พวกมันคนหนึ่งเหลียวหลังมามอง โชคดีกระโดดหลบไปตรงมุมอับทัน รอพวกมันหายไปจากซอยนั้นจนหมดถึงจะลุกขึ้นมาใหม่ เธอหันซ้ายหันขวามองหาตัวช่วย เมื่อไม่เห็นใครสักคนเนื่องจากฝนตกหนัก และซอยนั้นก็เป็นซอยร้าง จึงเลือกที่จะเดินต่อไปโดยกะจะทำเป็นมองไม่เห็น ทว่าสายเลือดพลเมืองดีที่มีอยู่น้อยนิดเกิดทำงานฉับพลัน สั่งให้สมองหันไปมองอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ถึงกับตัวอ่อน สาวเจ้ากลืนน้ำลายฝืดคอเมื่อเห็นขาและเท้าทั้งสองข้างของเขาโผล่ออกมาให้เห็นจากมุมอับ “เป็นความโชคร้ายของฉัน หรือความโชคดีของนายกันแน่เนี่ย” ย้อนนึกไปถึงเรื่องการจอดรถขณะย่องเดินไปหา ช่างบังเอิญ เพราะก่อนหน้านี้ที่ที่เคยจอดประจำไม่ว่างแม้แต่ที่เดียว ทำให้ต้องขับเลยไปจอดซะไกล ถึงได้มีโอกาสได้เดินผ่านตรอกซอย และเปียกปอนเหมือนผู้ประสบภัยเช่นนี้ “คุณ..” สาวเจ้าร้อ

