“แกคิดจะทำอะไรวะโย บอกไว้ก่อนเลยนะว่าห้ามสร้างเรื่องเด็ดขาด พวกพี่เขานิสัยดีนะเว้ย เขาเพิ่งจะผ่านเรื่องร้าย ๆ มากันด้วย กว่าเขาจะได้คบกันโคตรยาก แกอย่า… โอ๊ย!” เจเจพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกโบกกบาลแรง ๆ ไปหนึ่งที เขาลูบหัวตัวเองปอย ๆ มองคนลงไม้ลงมือด้วยสายตาไม่ได้รับความเป็นธรรม “มันเจ็บนะไอ้โย! ตบกูเป็นลูกเลย!”
“ฉันไม่ถีบก็บุญหัวแล้ว! นี่แกเห็นฉันเป็นคนยังไงวะไอ้เจ!” วาโยกลอกตามองบนใส่เพื่อนรัก
มันคิดว่าเธอจะไปหั่นขาเตียงชาวบ้านเขาหรือยังไงกัน บ้าบอ
“อ้าว ก็แกยิ้มชั่วก่อนทำไม เฮ้ย! ห้ามตบนะ” ร่างสูงวิ่งพรวดหลบหลังพิชาเมื่อวาโยเงื้อมือขึ้นสูงอีกรอบ
“แกน่ะสิชั่ว! รีบพาฉันไปแนะนำได้แล้ว!”
“หะ… แนะนำกับใคร?”
เธอลดมือลงเปลี่ยนเป็นกอดอกเหมือนเดิม สายตามองตรงไปทางร่างบางเจ้าของเรือนผมสีเทาควันบุหรี่
“ถามได้ ก็ต้องพี่ชบาน่ะสิ”
“แกคิดจะทำอะไรวะโย” พิชาขมวดคิ้วถาม
“ก็ไอ้เจมันพูดไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากทำให้พี่ชบาเข้าใจผิด งั้นฉันก็แค่เข้าไปคุยกับพี่เขาตรง ๆ เลยก็จบ ยังไงฉันก็บริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว”
“เออ ก็จริง”
“เอางั้นเหรอ” เจเจทวนถาม พอเห็นสีหน้าจริงจังของวาโยจึงไม่กล้าขัดใจอีก
“พี่ชบา”
เจ้าของชื่อชบาเงยหน้าจากหนังสือเรียนขึ้นมอง ดวงตาเรียวรีเฉยชาสบตากับผู้มาใหม่ทั้งสามคน เธอหยุดสายตาลงที่วาโย หัวคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อย
“เอ่อ นี่พิชาแฟนผมที่เคยเล่าให้ฟัง ส่วนนี่วาโยเพื่อนสนิทผม” เจเจทำหน้าที่แนะนำอย่างอึกอัก เขายังไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเพื่อนบอกให้ทำก็ต้องทำแหละ เพื่อนว่าดีเจก็ว่าดี “ส่วนนี่พี่ชบานะ พี่เทคฉันเอง”
“สวัสดีค่ะพี่ชบา” พิชาพยักหน้าทักทาย ทว่าชบายังไม่ทันตอบรับอะไร วาโยที่ยืนเงียบมาตั้งแต่แรกเดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามหน้าตาเฉย ท่าทางกะทันหันนั้นทำชบาชะงักมอง
“คือว่าโยมีเรื่องจะถามพี่ค่ะ” เธอโพล่งขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยตามนิสัยตรงไปตรงมา เจเจรีบเข้ามาสะกิดไหล่เพื่อนเพื่อห้ามปราม
“เฮ้ยไอ้โย เอางี้เลยเหรอ”
“โยขอคุยกับพี่หน่อยได้ไหมคะ” เธอปัดมือเจเจออกพลางส่งยิ้มการค้าให้ผู้หญิงตรงหน้า ชบามองเจเจสลับกับวาโยด้วยแววตางุนงงก่อนพยักหน้ารับ
“ได้สิ อยากรู้เรื่องอะไรเหรอ” น้ำเสียงตอบรับราบเรียบ ไม่ได้เย็นชา แต่ก็ไม่ได้เป็นกันเองเช่นกัน
วาโยไม่ถือสา เพราะเธอสนใจแค่เรื่องที่อยากรู้เท่านั้น
“เรื่องพี่ควันหลงค่ะ”
ชบาชะงักเล็กน้อยก่อนมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างละเอียดอีกครั้ง ตอนแรกเธอแอบคิดว่าวาโยอาจเป็นหนึ่งในบรรดาผู้หญิงในอดีตของฉลาม เพราะทั้งรูปร่างและหน้าตาของวาโยเรียกได้ว่าตรงสเป็คฉลามทุกอย่าง แต่ดูท่าแล้วเธอคงจะเข้าใจผิดสินะ
“โยอยากรู้เรื่องพี่ควันหลง พี่พอจะรู้เรื่องเขาบ้างไหมคะ” วาโยคิดว่าถามเอาจากชบาตรง ๆ น่าจะคุยกันง่ายกว่าฉลาม เพราะถึงยังไงก็เป็นผู้หญิงด้วยกัน เธอแค่อยากรู้เรื่องของควันหลงเท่านั้น จะรู้จากใครก็ไม่สำคัญ
“หมายถึงควันหลงเพื่อนฉลามน่ะเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
ชบาเม้มปากนิด ๆ เพราะเธอเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับบรรดาเพื่อน ๆ ฉลามมากนัก
“ฉันก็ไม่ค่อยรู้หรอกนะ ถ้ายังไงรอถามจากฉลามดีกว่านะ”
“ได้เหรอคะ?”
“ได้สิ รอฉลามเล่นบาสเสร็จแล้วค่อยถามจากเขาเลย” จบคำตอบของชบา วาโยมองเจเจคล้ายจะบอกทางสายตาว่า ‘แค่นี้จบไหม?’
จุดประสงค์หลักของเธอก็แค่อยากรู้เรื่องของพี่ควันหลง ไม่ได้อยากจะหั่นขาเตียงใครอย่างที่เพื่อนตัวดีมันกลัวสักหน่อย
“อ้าว พี่ฉลามมาพอดี”
ทุกคนหันมองร่างสูงในชุดบาสเหงื่อโทรมกายที่กำลังเดินอวดความหล่อเข้ามา ดวงตาคมเหลือบมองพิชากับวาโยด้วยความสงสัย ชบาลอบมองปฏิกิริยาของแฟนตัวเอง เมื่อเห็นว่าฉลามไม่ได้มีความผิดปกติอะไรนอกจากแววตาสงสัยยามมองวาโยเธอก็อดยกยิ้มมุมปากไม่ได้
“ใครอ่ะ เพื่อนเธอเหรอยัยหมวย?” ฉลามนั่งลงข้างแฟนสาวพลางกระซิบถาม ชบามองวาโยก่อนจะยิ้มบาง ๆ ให้
“เจ้าตัวมาแล้ว ถามเอาเองเลย”
“หือ? ถามอะไรอ่ะ?” เขาทำหน้างุนงงมองวาโยสลับกับชบา ในใจนึกหวาดเสียวขึ้นมาตะหงิด ๆ ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ เขาก็งานงอกหรอกนะ
“ชื่อวาโยนะคะ เป็นเพื่อนกับเจเจ” วาโยแนะนำตัวเองก่อน เห็นเธอแบบนี้เธอก็รู้จักมารยาทนะ แต่พอเห็นพี่ฉลามมีท่าทางระมัดระวังเธอก็อดนึกขำในใจไม่ได้ นี่น่ะเหรอหนุ่มฮอตของเอกเคมี
อดีตเป็นเสือ ปัจจุบันเป็นแมวไปแล้วสินะ
“อะ อ้อออ เพื่อนไอ้เจนี่เอง” น้ำเสียงเขาโล่งใจมาก คิดว่าจะชะตาขาดซะแล้ว
ชบาแค่นยิ้ม แสร้งทำเป็นอ่านหนังสือเรียนต่อไม่สนใจคนทั้งคู่ แต่หูน่ะฟังอยู่นะ…
“คือโยมีเรื่องอยากจะถามพี่ฉลามหน่อยน่ะค่ะ”
“อ่าหะ ถามเรื่องอะไรครับ” เขาพาดแขนวางบนพนักเก้าอี้หินอ่อนด้านหลังชบาพลางเอนตัวพิงท่าทางผ่อนคลายลง อีกมือหยิบแก้วชานมของชบาขึ้นมาดูดแก้กระหายไปด้วย
“เรื่องพี่ควันหลงค่ะ”
“แค่ก ๆ” ฉลามสำลักแทบจะทันที ชบาส่ายหัวมองแฟนตัวเอง ยื่นกระดาษทิชชูส่งให้ เขารับมาปิดปากไอสองสามทีก่อนจะเงยหน้ามองผู้หญิงตรงหน้า “เมื่อกี้พูดว่าไงนะ?”
“โยอยากรู้เรื่องพี่ควันหลงค่ะ”
“ไอ้ควัน? น้องจะอยากรู้เรื่องมันไปทำไม? หรือว่ามันไปทำอะไรไม่ดีกับน้องไว้?”
“เปล่าค่ะ โยก็แค่สนใจเขา อยากรู้ว่าร้านสักเขาอยู่ที่ไหน”
“อ้อ น้องจะไปสักกับมันเหรอ” ฉลามคลายความแปลกใจลง เขาหยิบแก้วชานมขึ้นมาดูดใหม่อีกครั้ง “ถ้าเรื่องที่อยู่ร้านมันพี่บอกพิกัดให้ได้ แต่พี่ไม่แน่ใจนะว่ามันจะรับสักให้หรือเปล่า ไอ้นี่มันอินดี้ มันไม่ค่อยรับลูกค้าแปลกหน้า”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะโยไม่ได้ไปสัก แต่จะไปจีบ”
“แค่ก ๆ ๆ!”
ตาย… วันนี้ฉลามได้สำลักนม เอ๊ย ชานมตายแน่ ๆ!