กึก…
มือที่กำลังวางทาบลงบนผิวขาวชะงักกึกทันที ควันหลงเหลือบมองใบหน้าสวยที่กำลังซุกลงบนแขนจนมิด มองไม่เห็นว่าเธอกำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่ ทั้งที่ตอนแรกยังทำปากเก่งเหมือนไม่กลัวอยู่เลย พอเอาเข้าจริงกลับซุกหน้าหนีจนหมดท่า
“ฮึ…”
วาโยได้ยินเสียงหัวเราะเย้ยหยันดังข้างหู รู้สึกเจ็บใจชะมัด แต่ทำไงได้ล่ะ อย่างที่พิชาบอกว่าแค่เข็มฉีดยาเข็มเดียวเธอยังนั่งทำใจเป็นชั่วโมง ๆ เลย แล้วนับประสาอะไรกับเข็มสักที่จะแทงผิวเธอนับร้อยนับพันเข็มกันเล่า
“โยไม่ได้กลัวนะ แค่ตื่นเต้นน่ะตื่นเต้น พี่เริ่มสักได้เลย ไม่ต้องสนใจโย”
“หันมานี่”
ใบหน้าสวยยอมหันมองตามคำสั่งของเขา มือหนาหยิบลูกอมวางลงบนเตียงตรงหน้าเธอสี่เม็ด มันเป็นลูกอมรสช็อกโกแลตที่ดูหวานมาก ๆ
“เลือดเธอจะออกระหว่างลงเข็ม ความหวานช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดี” เขาพูดเรื่องน่ากลัวด้วยใบหน้านิ่งสนิทแบบนั้นได้ยังไงกัน
“ขอบคุณค่ะ” มือบางรีบแกะลูกอมใส่ปากทันที เธอเหลือบมองเข็มสักในมือพี่ควันหน้าซีด รีบหันหน้าฟุบหนีอีกครั้ง พยายามสะกดจิตตัวเองไว้ว่าไม่กลัว ไม่เจ็บ ใช่ ต้องไม่กลัว ต้องไม่เจ็บ…
ความจริงเธอจะขอให้พี่ควันทายาชาให้ก่อนสักก็ได้ แต่หลังจากศึกษาข้อมูลมาพอสมควรทำให้รู้ว่าถ้าใช้ยาชาในการสัก สีที่สักออกมาจะซีดจางไม่ค่อยสวย หรืออาจจะต้องสักซ้ำรอบสองเลยก็มี แล้วจากรีวิวของผู้หญิงหลาย ๆ คนก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการสักไม่ได้เจ็บอย่างที่คิด ฉีดฟิลเลอร์ยังเจ็บกว่าด้วยซ้ำ
เอาเถอะ ถึงเธอจะไม่เคยฉีดฟิลเลอร์จึงไม่รู้ระดับความเจ็บนั้น แต่ถ้าเสียงส่วนมากบอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่เจ็บแหละ
“อึก…” สัมผัสแรกของปลายเข็มทิ่มลงบนผิวหนังมันไม่ได้เจ็บอย่างที่วาโยคิดจริง ๆ เพียงแค่รู้สึกจี๊ด ๆ แสบ ๆ คัน ๆ และยังมีความรู้สึกเย็น ๆ ค่อยไล่เช็ดเป็นระยะ ๆ สัมผัสนั้นแผ่วเบามาก ต้องยอมรับว่าพี่ควันมือเบามากจริง ๆ เขาทำให้ความหวาดกลัวในใจของเธอผ่อนคลายลง
แผ่นหลังเครียดเกร็งค่อย ๆ ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างสงบ ควันหลงชะงักมือเมื่อเห็นว่าร่างบางผ่อนคลายลงแล้ว ริมฝีปากหนาบิดโค้งจาง ๆ จดจ่ออยู่กับการลงฝีเข็มอย่างตั้งใจ
หนึ่งชั่วโมงต่อมาเสียงเข็มสักสงบลง ทว่าร่างบางบนเตียงกลับยังคงนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ควันหลงเก็บอุปกรณ์ด้วยความเงียบเชียบ กระทั่งเก็บจนเสร็จจึงหันมองคนบนเตียงสักอีกครั้ง
นี่เธอหลับไปแล้วเหรอ? หลับขณะที่เขากำลังลงเข็มสักบนผิวเธอเนี่ยนะ?
Rrr…
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เรียกดวงตาปิดสนิทให้ลืมขึ้นช้า ๆ วาโยไม่ได้หลับอย่างที่ควันหลงคิด แต่รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อยจึงหลับตานอนนิ่ง ๆ รอจนกว่าอาการเวียนหัวทุเลาลงจึงค่อยคิดจะขยับตัว
ครืด…
เสียงรูดม่านดังขึ้นด้านหลัง ควันหลงคงออกไปจากห้องแล้ว วาโยยันตัวลุกขึ้นนั่ง ความแสบร้อนบริเวณแผ่นหลังค่อย ๆ เด่นชัดขึ้น ใบหน้าสวยเบ้หน่อย ๆ ขณะดึงเสื้อนักศึกษาสวมทับ เธอรู้สึกตึง ๆ บริเวณผิวหนังจึงลองสัมผัสมันเบา ๆ และพบว่ามันค่อนข้างเจ็บพอสมควร
ตอนสักไม่ค่อยรู้สึกเจ็บเท่าไหร่ แต่ทำไมหลังสักเสร็จแล้วมันถึงเจ็บแบบนี้นะ
“เธอโอเคหรือเปล่า?” เสียงถามดังมาจากด้านหลังม่าน ควันหลงยังไม่ได้ออกไปจากห้อง แต่เขากำลังยืนรอเธอหลังม่านเงียบ ๆ
“มันก็… รู้สึกเจ็บ ๆ แสบ ๆ ค่ะ แต่ตอนสักโยแทบไม่เจ็บเลยนะคะ พี่ควันมือเบามากจริง ๆ ไม่รู้ทำไมพอสักเสร็จแล้วมันกลับรู้สึกเจ็บซะงั้น”
“มันเป็นเรื่องธรรมดา ตอนนี้ผิวเธอกำลังอักเสบ และอาจมีการระบมร่วมด้วย กินยาแก้อักเสบแล้วนอนพักก็จะดีขึ้น”
วาโยเปิดม่านออกหลังจากสวมเสื้อเสร็จเรียบร้อย เธอผงะเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าควันหลงจะยืนใกล้กันขนาดนี้ อยู่ ๆ อาการเวียนหัวแล่นวาบเข้ามากะทันหันจนร่างบางซวนเซ ท่อนแขนเล็กถูกฝ่ามือเย็นเฉียบคว้าพยุงเอาไว้ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองสบตาเขา
“เธอควรนั่งพักก่อน ถึงไม่ได้เสียเลือดเยอะ แต่ก็อาจทำให้หน้ามืดได้”
เธอควรบอกเขาดีไหมว่าการเสียเลือดเพียงน้อยนิดของเธอก็อาจเป็นปัญหาได้ เพราะว่าตอนเด็ก ๆ เธอเคยเป็นโรคโลหิตจาง ทว่าตั้งแต่เข้าไฮสคูลโรคนี้ก็ไม่ค่อยแสดงอาการเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะเธอออกกำลังกายด้วยการเต้นอยู่เสมอ และยังทานอาหารที่มีประโยชน์ เธอจึงคิดว่าตัวเองหายขาดจากโรคนี้ไปแล้ว ใครจะคิดว่าแค่เลือดออกจากการสักแค่นิดหน่อยจะทำให้อาการกำเริบขึ้นมาได้ หรือมันเป็นผลมาจากสภาวะทางจิตใจกันนะ?
“เธอขับรถมาเองหรือเปล่า?”
“คะ?” วาโยดึงความคิดตัวเองกลับมามองร่างสูงตรงหน้า เขากำลังหลุบตามองเธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “รถโยจอดอยู่ที่ลานจอดไนท์บาร์ซ่าค่ะ”
“เอากุญแจมา ฉันจะขับกลับไปส่ง”
ว่าไงนะ… นี่มันเหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว! พี่ควันจะขับรถให้เธองั้นเหรอ? นี่เขาเริ่มมีใจให้เธอแล้วใช่ไหม??
“เธอเป็นลูกค้าฉัน ถ้าตอนขับรถกลับมีอาการวูบขึ้นมาแล้วเกิดอุบัติเหตุ ร้านฉันคงได้เจ๊งแน่”
โถ่… พี่ไม่จำเป็นต้องพูดทำลายความมโนในใจโยก็ได้ไหมล่ะ!