EP.28 #จริงจัง

1136 Words
“แกคิดดีแล้วจริง ๆ เหรอโย การสักมันเจ็บมากเลยนะ คนอย่างแกที่แค่ฉีดยายังต้องนั่งทำใจเป็นชั่วโมง ๆ เนี่ยนะคิดจะสัก?” “ฉันตัดสินใจไปแล้ว และจะไม่เปลี่ยนใจด้วย” “ฉันก็นึกว่าแกพูดเล่นเพื่อหาข้ออ้างในการเข้าหาพี่ควันซะอีก” ความคิดของพิชาไม่ได้ผิดเลยสักนิด ตอนแรกวาโยคิดแบบนั้นจริง ๆ แต่พอเธอเริ่มสนใจเรื่องรอยสักมากขึ้น เธอรู้สึกว่ามันเป็นศิลปะที่สวยงามและน่าหลงใหลมาก เป็นความเจ็บปวดที่สวยงามซึ่งจะอยู่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต “ครั้งนี้แกดูจริงจังมากเลยนะโย” พิชาจ้องมองเพื่อนรักที่กำลังนั่งพิมพ์บางอย่างในโทรศัพท์ ปกติยัยนี่เคยสนใจแชทกับใครที่ไหน นอกจากไลฟ์กับอ่านคอมเม้นท์แฟนคลับแล้ว วาโยแทบไม่ตอบแชทใครด้วยซ้ำ “แกชอบพี่ควันมากขนาดนั้นเลยเหรอ” ปลายนิ้วที่กำลังพิมพ์ข้อความชะงักนิ่ง เธออ่านแชทที่ตัวเองส่งไปอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่อีกฝ่ายทำเพียงเปิดอ่านแต่ไม่เคยตอบกลับมา แม้จะเป็นแบบนั้นก็ทำให้เธออดยิ้มอย่างอารมณ์ดีไม่ได้ “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ฉันไม่เคยรู้สึกชอบใครเท่านี้มาก่อน มันเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกแบบนี้” “แม้ว่าเขาจะเย็นชาใส่แกตลอดเวลาอะนะ” “สำหรับคนอย่างพี่ควัน แค่เขายอมคุยกับฉันนั่นก็ถือว่าพิเศษกว่าคนอื่นแล้วไหม” “เออก็จริง” เธอมองพิชานั่งเท้าคางพลางยิ้มซุกซน “ว่าแต่แกเถอะ พักนี้เจมันหายหัวไปไหน ไม่เห็นมันโผล่หน้ามาเลย” “ช่วงนี้เอกมันเรียนหนักเพราะใกล้สอบแล้ว ป่านนี้คงนอนตายคากองหนังสือไปแล้วมั้ง” “มีแฟนเป็นเด็กเรียนก็แบบนี้แหละ แกควรชินได้แล้วไหม” เธออดขำกับท่าทางแสนงอนของเพื่อนไม่ได้ “จริงสิ เย็นนี้ฉันต้องเริ่มสักกับพี่ควันแล้ว คงรับสายไม่ได้นะ ถ้ามีอะไรก็แชททิ้งไว้แล้วกัน” “เดี๋ยวก่อน นี่เริ่มสักเย็นนี้แล้วเหรอ? ทำไมเร็วจัง” “เห็นพี่ควันบอกว่าหลังจากนี้เขาจะค่อนข้างยุ่งเพราะต้องปั้นงานชิ้นหนึ่งส่งก่อนสอบ ตอนแรกเขาจะสักให้ฉันหลังปั้นเสร็จ แต่ฉันใจร้อน ไม่อยากรอจึงขอให้เขาแบ่งเวลามาสักให้ฉันทุกวันแทน วันละครึ่งชั่วโมงก็ยังดี” “นั่นเป็นข้ออ้างในการเจอเขาทุกวันสินะ” พิชากลอกตามองอย่างรู้ทัน “อุ้ย แสนรู้จังเลยนะจ๊ะ” มือบางเกาคางเพื่อนรักอย่างเย้าแหย่ ทำคนถูกแหย่เบ้หน้าอย่างนึกหมั่นไส้ “ชิ งั้นแกก็ไม่ว่างทุกเย็นเลยสิ” “อืม ก็คงงั้น แต่ไม่กี่วันหรอก เพราะน่าจะใช้เวลาสักไม่นาน” “แล้วบอกเรื่องนี้กับพี่คินหรือยัง” พิชาหรี่ตามองเธอที่นั่งทำหน้าเจื่อน “อย่าบอกนะว่าพี่คินยังไม่รู้?” “ฉันเคยบอกเขาไปแล้วนะว่าฉันอยากสักกับพี่ควัน เพียงแค่ยังไม่ได้บอกว่าจะเริ่มสักเมื่อไหร่” “มันไม่เหมือนกันนะโย ตอนนั้นพี่ควันยังไม่ตอบรับนี่ แต่ตอนนี้แกกำลังจะเริ่มสักกับเขาแล้ว แกก็ควรบอกพี่คินหน่อยไหม ถ้าเขามารู้ทีหลังเดี๋ยวก็งอนอีกหรอก” เธอนิ่งคิดตาม “ไว้ฉันค่อยบอกเขาแล้วกัน” . . . ตกเย็น วาโยมาถึงร้านสักตรงตามเวลานัด ควันหลงรออยู่ก่อนแล้ว ดูเหมือนเขาเพิ่งสักให้ลูกค้าเสร็จไปไม่นาน เธอมองร่างสูงที่กำลังทำความสะอาดอุปกรณ์ วันนี้เขาก็ยังดูดีเหลือเกิน เขาสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนสีดำทั้งตัวเหมือนเช่นทุกวัน ผมยาวสีดำประบ่ารวบมัดอย่างลวก ๆ เผยให้เห็นจิวต่างหูเท่ ๆ กับรอยสักสวย ๆ ซึ่งโผล่พ้นคอเสื้อออกมา หล่อจนใจเจ็บ หล่อจนตาพร่างพราวไปหมดแล้วพ่อ! ความแบดบอยและความกราวใจนี้กระแทกใจโยเหลือเกินค่ะ! “ทำไมยังไม่เปลี่ยนเสื้อ” เสียงเย็นชาถามโดยที่ยังไม่หันมามองกันสักนิด แล้วรู้ได้ยังไงว่าเธอกำลังสวมเสื้อผ้าแบบไหนอยู่น่ะ? เขามีตาทิพย์รึ?? “โยเพิ่งเลิกเรียนก็เลยไม่ได้แวะกลับห้องน่ะ” วาโยเดินเข้ามานั่งบนเตียงสัก สายตายังจ้องมองแผ่นหลังกว้างตาไม่กะพริบ พอเห็นเขาหันกลับมามองด้วยแววตาเย็นชา เธอจึงก้มหน้าเตรียมปลดเข็มกลัดกระดุมนักศึกษา “จะทำอะไร?” ปลายนิ้วเล็กชะงักงัน เธอเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง คิ้วสวยเลิกขึ้นเล็กน้อย “ถอดเสื้อไงคะ” ไม่ถอดเสื้อแล้วจะสักที่หลังเธอได้ยังไงกัน ครืด… ผ้าม่านรอบเตียงสักถูกดึงปิดพร้อมกับเสียงเย็นชาดังมาจากหลังม่าน “ถอดแค่เสื้อฝั่งเดียวก็พอ เสร็จแล้วนอนคว่ำหน้าบนเตียงแล้วอย่าลืมใช้ผ้าบนโต๊ะคลุมหลังไว้ด้วย” “ต้องคลุมผ้าด้วยเหรอคะ?” เธอมองไปทางผ้าคลุมไหล่ผืนใหม่เอี่ยม หยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสนใจ นี่เขาซื้อมาให้เธอใช้โดยเฉพาะเลยเหรอเนี่ย… พี่ควันของเธอก็มีความใส่ใจคนอื่นเป็นเหมือนกันแฮะ “คลุมซะ อย่าถามมาก เสร็จแล้วค่อยเรียก” ไม่รู้ทำไม ทั้งที่น้ำเสียงเขาเย็นชาปานนั้น แต่ริมฝีปากบางกลับหุบยิ้มไม่ได้เลย หลังจากวาโยปลดเสื้อฝั่งซ้ายออก เธอนอนคว่ำหน้าลงบนเตียงสักตามที่เขาบอกโดยไม่ลืมหยิบผ้าคลุมไหล่มาคลุมทั้งแผ่นหลังด้วย เพราะรู้ว่าวันนี้ต้องเริ่มสักเธอจึงสวมบราแบบไร้สายเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการสักของเขา “เสร็จแล้วค่ะ” บรรยากาศภายในร้านเงียบสงัด มีเพียงเสียงดนตรีแว่วมาจากไกล ๆ ซึ่งน่าจะมาจากร้านอาหารสายลมของพี่คิน เธอนอนหลับตาพยายามทำจิตใจให้สงบ ปลอบใจตัวเองไม่ให้รู้สึกหวาดกลัว เสียงม่านเลื่อนเปิดพร้อมกับไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศพัดผ่านเข้ามา ร่างบางเครียดเกร็งเล็กน้อย ลืมตามองเงาของร่างสูงที่ขยับเข้ามายืนข้างเตียงแล้ว “ฉันจะดราฟลายบนผิวของเธอก่อน จากนั้นนอนรอประมาณสิบนาทีถึงจะเริ่มสักได้” “ขะ เข้าใจแล้วค่ะ” วาโยฟุบหน้ากับแขนเพื่อข่มความตื่นเต้น แต่ใครอีกคนกลับเข้าใจว่าเธอกลัว “ถ้ากลัวก็กลับไปซะ มันเสียเวลา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD