EP.22 #คุกคาม

1190 Words
“คืนนี้โยจะมาเต้นท่าใหม่ตามสัญญานะคะ ความจริงท่าเต้นนี้โยทำคอนเท้นต์อัพลงช่องไว้แล้ว ทุกคนสามารถไปติดตามรับชมกันได้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กด subscribe ให้โยด้วยนะคะ เอาล่ะค่ะ โยพร้อมจะโชว์สเต็ปใหม่แล้ว” วาโยลุกขึ้นยืนแล้วถอยหลังออกห่างจากกล้อง หยิบรีโมทขึ้นมากดเปิดเพลงพร้อมกับตั้งท่าเตรียมออกสเต็ป จังหวะบีทหนัก ๆ ไล่ระดับขึ้นพร้อมกับร่างบางเริ่มโยกย้ายตามทำนองเพลง ท่วงท่าของเธอพลิ้วไหวสวยงามราวกับผีเสื้อหยอกเย้าสายลม เธอเคลื่อนไหวร่างกายไปตามจังหวะ ใบหน้าเผยรอยยิ้มสวยสะกดใจคนดู ยอดเข้าชมไลฟ์เพิ่มขึ้นอย่างถล่มทลาย ยอดของขวัญถูกส่งเข้ารัว ๆ จนติดอันดับหนึ่งของแอพเหมือนทุกครั้งที่เธอทำการไลฟ์ สมกับฉายาที่บรรดายูซเซอร์เรียกขานเธอว่า… [วาโยคามิร่า เทพธิดาแห่งสายลม] . . . ห้อง 9004 ครืด… โทรศัพท์เครื่องบางสั่นครืดบนโต๊ะเรียกสายตาคมละจากการร่างแบบวาดรูปปั้น เขาถอดแว่นตาออกนวดคลึงขมับเบา ๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเปิดอ่านข้อความ ในกลุ่มแชทมีลิงก์หนึ่งถูกส่งมาจากไปป์พร้อมแนบข้อความว่า ‘โรคจิตสัส ๆ’ ตอนแรกควันหลงไม่ได้สนใจ เขากดปิดแชทและกลับมาวาดแบบร่างต่อ ทว่าเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านอีกครั้ง คราวนี้เป็นภาพแคปหน้าจอจากไลฟ์สด มันเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนเต้นอยู่หน้ากล้อง แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาเขาคือคอมเม้นท์นับสิบในไลฟ์สดนั่น ‘คุณสวยจังเลย เทพธิดาของผม’ ‘ผมรักคุณ รักคุณที่สุด’ ‘คุณชอบแมวใช่ไหม ผมก็ชอบแมวนะ’ ‘ตอนคุณให้อาหารแมว คุณสวยมากเลย’ ‘ผมอยากกอดคุณ อยากลูบไล้คุณ’ ดวงตาคมกริบไล่อ่านคอมเม้นท์ทีละบรรทัด นี่เป็นคอมเม้นท์ที่มาจากคนคนเดียว และเขามั่นใจว่าเจ้าของคอมเม้นท์ต้องเป็นคนเดียวกับเมื่อตอนเย็นแน่ คนที่สะกดรอยตามวาโยตรงลานจอดรถ และอาจจะเป็นคนเดียวกับที่ร้านเมื่อคืน… . . ฉลาม : แม่งน่ากลัวสัส ๆ นี่มันคุกคามชัด ๆ กูว่าน้องเขาเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วว่ะ ไปป์ : เออดิ นี่กูนั่งดูไลฟ์น้องเขาอยู่ น้องเขาเต้นอยู่ในห้องเหมือนยังไม่เห็นเม้นท์ด้วย ฉลาม : น้องเขาก็แต่งตัวมิดชิดเต้นนี่วะ ท่าเต้นก็ไม่ได้เซ็กซี่ห่าอะไรเลย ไอ้เวรนั่นแม่งยังทำโรคจิตใส่ได้อีก กันย์ : คุยไรกันวะ? ฉลาม : @กันย์ ไอ้ไปป์มันส่องไลฟ์น้องวาโยดาวคณะเราแล้วเจอพวกโรคจิตตามเม้นท์คุกคาม มึงช่วยมันสืบหน่อยดิว่าไอ้เวรนั่นเป็นใคร ยังไงน้องก็เป็นรุ่นน้องเรา จะทำเฉยก็ไม่ได้ด้วย กันย์ : ได้ เดี๋ยวกูไปขุดมันให้ ไปป์ : มีใครอ่านอีกคนวะ? ไอ้เฟีย? ไอ้โซ่? ไอ้ควัน? . . คนถูกจับได้ว่าแอบอ่านแชทเงียบ ๆ วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ เขามองไปทางผนังห้องฝั่งที่เป็นห้องของวาโย แววตาอ่านยากจ้องอยู่นานก่อนหลุบลงหยิบดินสอร่างภาพต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น . . . ห้อง 9003 เป็นอีกครั้งที่วาโยรู้สึกหวาดกลัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกคอมเม้นท์คุกคามในไลฟ์ เธอเจอแบบนี้แทบทุกครั้งที่ไลฟ์ด้วยซ้ำ เธอแค่บล็อกพวกเขาไปมันก็จบ ทว่าครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน เพราะคนคนนี้ไม่ใช่แค่พวกเกรียนคีย์บอร์ดทั่วไป แต่เขารู้เรื่องที่เธอให้อาหารแมวด้วย! อะไรกัน… เธอโดนสะกดรอยตามงั้นเหรอ? Rrr… เสียงเรียกเข้าทำโทรศัพท์ในมือบางเกือบร่วงด้วยความตกใจ ก่อนหน้านี้เธอรีบกดปิดไลฟ์ทันทีที่ยูซเซอร์นั้นส่งคอมเม้นท์คุกคามมารัว ๆ เธอไม่อยากแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมาต่อหน้ากล้อง ไม่อยากทำให้คนโรคจิตพวกนั้นสมหวัง “อะ อืม” [โย! แกเป็นอะไรหรือเปล่า? ฉันเห็นเม้นท์ไอ้บ้านั่นแล้ว มันต้องเป็นคนเดียวกันกับยูซเซอร์แบล็กโซลเมื่อวันก่อนแน่ ๆ] มันเป็นเรื่องง่ายมากที่คนคนหนึ่งจะมีหลายยูซเซอร์ ซึ่งการตามหาตัวก็จะซับซ้อนเข้าไปอีก [แกโอเคป่ะเนี่ยโย ทำไมไม่พูดไรเลย ให้ฉันไปอยู่เป็นเพื่อนไหม?] พอเห็นว่าเธอเงียบ พิชายิ่งกังวล “อื้อ ไม่เป็นไร แกไม่ต้องมาหรอก ข้างนอกฝนตกหนักเลยด้วย ฉันอยู่คนเดียวได้” ฝนด้านนอกเริ่มตกหนักตั้งแต่ตอนหัวค่ำแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะซาลงเลย ตอนนี้สิ่งที่วาโยหวั่นใจไม่ใช่ไอ้โรคจิตนั่นแล้ว เพราะเธอเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยของคอนโดนี้ แต่เธอหวั่นใจว่าไฟจะดับต่างหากล่ะ! ครืน… เปรี้ยง! พรึ่บ! “กรี๊ด!” คิดยังไม่ทันขาดคำเสียงฟ้าคำรามดังสนั่นจนกระจกประตูระเบียงสั่นสะเทือนพร้อมกับแสงสว่างภายในห้องนั่งเล่นดับสนิท เธอกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ โทรศัพท์ตกมาอยู่ข้างตัว สองมือยกขึ้นปิดสองหูแน่น ภาพความทรงจำที่ไม่อยากจำผุดเข้ามาในหัว ภาพของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนอนคุดคู้ปิดสองหูอยู่ภายใต้ผ้าห่มท่ามกลางเสียงฝนฟ้ากระหน่ำ เด็กน้อยตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว น้ำตาไหลอาบสองแก้ม เธอร้องเรียกหาผู้เป็นแม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่ากลับไม่มีใครสักคนตอบรับเสียงร่ำร้องของเธอเลย “แฮ่ก…” วาโยหอบหายใจติดขัด หัวใจเธอเต้นรัวแรง สองหูอื้ออึง นานเกือบนาทีกว่าเธอจะได้สติกลับมา มือข้างหนึ่งควานหาโทรศัพท์บนเบาะโซฟาขึ้นมาแนบหูอีกครั้ง [โย! แกได้ยินฉันไหม? โย! เกิดอะไรขึ้น?! แกเป็นอะไร? บ้าเอ๊ย!] เสียงพิชาสบถดังมาจากปลายสายช่วยให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก อาการหายใจติดขัดค่อย ๆ ทุเลาลง “มะ ไม่มีอะไร แค่ไฟดับน่ะ” เสียงเธอสั่นมาก ร่างกายก็เช่นกัน [ไฟดับเหรอ? บ้าจริง! ที่คอนโดไม่มีไฟสำรองหรือไง แล้วนี่ไฟมาหรือยัง?] “ยังเลย” ปลายสายเงียบไปคล้ายกำลังใช้ความคิด [แล้วในห้องมีเทียนไหม? หรือไฟฉายก็ได้ แกเพิ่งย้ายไปด้วยนี่ ยังไม่ได้ซื้อของพวกนี้แหงเลย] “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ฉันไม่กล้าขยับตัวเลย” เธอนั่งกอดเข่าอยู่ท่ามกลางความมืด แสงจากสายฟ้าสว่างวาบเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นเป็นระยะ ๆ และมันทำให้เธอสะดุ้งทุกครั้งเช่นกัน [เอางี้… แกไปเคาะห้องข้าง ๆ สิ ไปขอเทียนหรือยืมไฟฉายจากเขาก่อน] “แกหมายถึงห้องพี่ควันเหรอ?” [ใช่ คนเดียวที่ช่วยแกได้ในเวลานี้ก็คือพี่ควันหลงนั่นแหละ!]
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD