เธอถูกพี่ควันหลงไล่ออกจากร้าน!
ร่างบางในชุดนักศึกษารัดรูปจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งแสนเย้ายวนยืนนิ่งงันอยู่หน้าประตูร้านสัก แสงพระอาทิตย์ค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้าแทนที่ด้วยบรรยากาศมืดสลัว ไฟส่องสว่างจากทางเดินและร้านรวงตกกระทบลงบนพื้นซีเมนต์ ดวงตาสวยหลุบมองเงาตัวเองบนพื้น ภายในหัวขบคิดเป็นล้านแปดว่าเพราะอะไรเธอถึงโดนปฏิเสธอย่างเลือดเย็นแบบนี้
แน่นอนว่าเธอสวย… ยืนยันได้จากดีกรีดาวคณะคนล่าสุด
และเธอดัง… อาจไม่ดังไม่ปังเหมือนดาราหรือศิลปินในวงการบันเทิง แต่เธอก็ติดอันดับเน็ตไอดอลสาวสวยที่มีผู้ติดตามเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศเชียวนะ
เธอเก่ง… แหงล่ะ เธอมีพรสวรรค์ด้านการเต้นมาก ๆ เธอได้เป็นตัวแทนนักเต้นตั้งแต่ไฮสคูล ตอนอยู่อเมริกาเธอร่วมแข่งขันรายการใหญ่ ๆ มาแล้วหลายรายการ หลังจากมาเรียนต่อเมืองไทยวาโยก็ยังคงเต้นต่อไป แม้ไม่ได้เดินสายประกวด แต่เธอมีแชนเนลเป็นของตัวเอง แชนแนลที่มีผู้ติดตามหลายสิบล้านทั่วโลก
ด้านนิสัย… เธอคิดว่าตัวเองก็นิสัยดีนะ ออกจะเฟรนด์ลี่ขี้เล่น เธอเป็นสาวยุคใหม่ ทัศนคติก็เหมือนเด็กอเมริกาทั่วไป มีความคิดเป็นของตนเอง มีความกล้าแสดงออก มีความนอกกรอบในบางครั้ง ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่ และเธอไม่เคยทำร้ายใคร
ถ้างั้นแล้วทำไมผู้ชายคนนั้นถึงไม่สนใจเธอเลยล่ะ
เธอไม่มีเสน่ห์เหรอ?
ใบหน้าสวยหันมองกระจกสะท้อนเงาตัวเอง ในนั้นปรากฏภาพใบหน้าขาวเรียวสวย ดวงตากลมโตคมเฉี่ยว นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบเทาสะกดใจคน จมูกโด่งเชิดรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มเย้ายวน ผิวขาวนวลเนียนอมชมพูเปล่งปลั่ง เรือนร่างโค้งเว้าทรงนาฬิกาทราย หน้าอกหน้าใจคัพซี สะโพกอวบอั๋นงอนงาม เรียวขายาวสูงโปร่ง…
ไม่มีเสน่ห์ตรงไหนเอาปากกามาวงซิ!
Rrr…
เธอดึงสายตากลับมาสนใจเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ หน้าจอแสดงชื่อเพื่อนรักคนสนิท ไม่ต้องรับสายก็รู้ ยัยนี่โทรมาอัปเดตความคืบหน้าแน่ ๆ
“อือ ว่าไง”
[แกอยู่ไหนวะโย]
“ที่ถามนี่คือไม่รู้จริงหรือแกล้ง?” วาโยเดินลากเท้าออกห่างจากบริเวณหน้าร้านสัก เสียงรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วบดกระแทกกับพื้นซีเมนต์เบา ๆ รอบกายเริ่มมีผู้คนพลุกพล่านมากขึ้น หลายสายตาหันมองเธอ มีทั้งแววตาสนใจใคร่รู้ แววตาชื่นชม แววตากลัดมัน และแววตาอิจฉา
เธอชินแล้ว
[นี่แกบุกไปร้านพี่ควันหลงจริง ๆ เหรอเนี่ย ฉันคิดว่าแกพูดเล่น] พิชาทำเสียงหนักอกหนักใจ
เออ ฉันก็หนักใจเหมือนกัน
“คนอย่างฉันเคยพูดเล่นเหรอ? แล้วนี่มีอะไร ทำไมโทรมา?”
[อ้อ ฉันจะโทรมาบอกว่านัดคืนนี้ยกเลิกนะ ทางฝั่งลูกค้าเขาเกิด accident นิดหน่อย เขาโทรมาเลื่อนนัดเป็นวันมะรืนแทน]
พิชาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนรักเพื่อนสนิทของวาโย แต่เธอเป็นผู้จัดการส่วนตัวด้วย เธอรับหน้าที่ดูแลจัดการงานต่าง ๆ ด้านโซเชี่ยลของวาโย ทั้งการทำคอนเท้นต์ การรับงานโฆษณาต่าง ๆ ล้วนต้องผ่านมือพิชาก่อนเสมอ
“โอเค งั้นคืนนี้แกก็พักผ่อนไปเถอะ จะได้มีเวลาอยู่กับไอ้เจสองต่อสองบ้าง มันจะได้เลิกมาแยกเขี้ยวเป็นหมาบ้าใส่ฉันทุกทีที่เจอ”
[มันก็บ้าแบบนั้นตลอดแหละ] น้ำเสียงขบขำดังมาจากปลายสาย [แล้วนี่ตอนนี้แกอยู่ไหน กลับถึงห้องยัง?]
“ยังเลย ยังอยู่ไนท์บาร์ซ่าหน้ามออยู่เลย งั้นแค่นี้นะ ไว้ถึงห้องแล้วแชทไป” วาโยกดตัดสายพิชา เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าสะพายเรียบร้อย เงยหน้ามองบรรยากาศยามหัวค่ำที่ค่อนข้างครึกครื้นของไนท์บาร์ซ่าหน้ามหาวิทยาลัย เธอเดินมาถึงส่วนร้านอาหารกึ่งผับที่มีดนตรีสดกำลังเล่นคลออยู่บนเวที ร้านนี้เป็นร้านประจำของเธอกับเพื่อน เรียกว่ามาบ่อยทุกอาทิตย์เลยทีเดียว เธอเลือกนั่งโต๊ะประจำ โชคดีที่วันนี้เป็นวันธรรมดาคนจึงไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นัก
“สวัสดีครับคนสวย มาคนเดียวเหรอครับ?” น้ำเสียงเซ็กซี่ดังขึ้นด้านข้าง เธอปรายตามองเขาเพียงแวบเดียว ริมฝีปากสีสดกระตุกยิ้มจาง ๆ แต่ไม่ได้ตอบกลับ “ไม่ตอบซะด้วย สวยแล้วหยิ่งนะเราอ่ะ”
“ก็มีความสวยให้หยิ่งนี่คะ ใครจะทำไม” คำตอบของวาโยเรียกรอยยิ้มชอบใจให้กับผู้มาใหม่ เขาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเธอโดยไม่ขอ และเธอก็ไม่ได้ถือสาซะด้วย
“โอเค เธอสวย พี่ไม่เถียง” ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มเย้ายวน ดวงตาพราวระยับราวกับปีศาจจิ้งจอกโค้งรีเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เสน่ห์ของเขาเรียกสายตาเหม่อลอยจากสาว ๆ รอบโต๊ะได้เป็นอย่างดี หากทว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับผู้หญิงตรงหน้า เพราะเธอไม่แม้แต่ชายตามองเขาเลยด้วยซ้ำ นั่นทำให้เขารู้สึกเซ็งจัด “เมินพี่อีกแล้วนะคะที่รัก”
คำว่า ‘ที่รัก’ จากปากชายหนุ่ม เรียกความเสียดายบนใบหน้าสาวน้อยสาวใหญ่ที่ลอบมองเขาเป็นระยะ ๆ การที่หนุ่มหล่อสุดฮอตอย่างเขาจะมีแฟนแล้วมันไม่ได้แปลก แต่ถ้าแฟนของเขาสวยจัดจนให้ความรู้สึกเทียบไม่ไหวแบบนี้มันหมดหนทางสู้จริง ๆ
“ทำไมวันนี้แวะมาได้ล่ะคะ ไม่เห็นบอกกันก่อนเลย” ปกติเขาไม่ใช้ ‘คะขา’ กับใคร ยกเว้นผู้หญิงคนนี้คนเดียว ซึ่งดูเหมือนว่าความพิเศษตรงนี้เธอจะรับรู้แต่ไม่รับไว้ซะด้วยสิ
“โยแค่ผ่านมาเลยแวะมาฝากท้องที่นี่สักหน่อย” เธอยังคงไม่มองหน้าเขา สายตากวาดมองทั่วร้านยกเว้นเขา
“โอ้ว ลูกของเราสินะ” เขาแสร้งทำหน้าดีใจ ในที่สุดดวงตาสวยเฉี่ยวก็ยอมตวัดกลับมามองเขาสักที
“แน่ใจเหรอคะว่าลูกของเรา อาจเป็นลูกของเขาคนที่สองสามสี่ห้าก็ได้” เธอแสร้งยกปลายนิ้วสีฟ้าครามขึ้นมากรีดนับ พอเห็นอย่างนั้นชายหนุ่มยอมยกธงขาวยอมแพ้ในที่สุด เขาไม่เคยเอาชนะเธอได้เลยจริง ๆ
“โอเค ๆ พี่ยอมแพ้แล้วค่ะ ที่รักของพี่ช่างฮอตเหลือจะทนจริง ๆ”
“คิก จะจีบโยก็เหนื่อยหน่อยนะคะ ‘พี่คิน’ เพราะแถวโยยาวมาก”
‘อคิน’ ยิ้มกว้างตาพราว “ไล่พี่ไปต่อแถวใหม่อีกแล้วเหรอคะคนดี พี่จองคิวแรกไว้ก่อนใครเลยนะ อย่าใจร้ายไล่พี่ไปต่อแถวใหม่บ่อย ๆ สิ คนรอท้อใจแล้วนะ”