เวลา...
"เป็นยังไงบ้างคะคุณเวลา" ป้าช้อยที่อุ้มนาทีอยู่ถามฉันเมื่อฉันเดินกลับเข้ามา หลังจากไปไล่พวกนายทุนออกไปแล้ว
"ไปกันหมดแล้วค่ะป้า ป้าไปทำงานต่อเถอะค่ะเดี๋ยวเวลาดูนาทีต่อเอง" ป้าช้อยพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับก่อนจะส่งนาทีให้ฉัน "หลับปุ๋ยเลยคนขี้เซาของแม่" ฉันอมยิ้มให้คนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ในอ้อมแขน
"งั้นป้าขอตัวไปทำกับข้าวต่อนะคะ คุณเวลาก็รีบเข้าบ้านนะคะจะมืดแล้ว"
"ค่ะป้า"
ฉันนั่งอยู่ข้างนอกสักพักก่อนจะอุ้มนาทีกลับเข้าไปในบ้านเพราะเริ่มมืดยุงก้เริ่มเยอะ ปกติฉันจะพานาทีออกมาอยู่ข้างนอกตรงศาลาหลังเล็กข้างบ้านที่ลุงโชคสร้างไว้ให้ เพราะตรงนั้นอากาศถ่ายเทสะดวก อีกอย่างฉันอยากนั่งมองต้นไม้ใบหญ้ามากกว่านั่งดูทีวีข้างใน
เวลาต่อมา...
"อย่า อย่า อย่าเอาลูกฉันไป เอาลูกฉันคืนมานะ!" ฉันอ้อนวอนผู้ชายคนนึงซึ่งอุ้มลูกชายตัวน้อยของฉันเอาไว้ เขามาพานาทีไปจากฉัน ตอนนี้ใครก็ได้ช่วยด้วยเขาพานาทีขึ้นรถไปแล้ว ฉันจะทำยังไง ช่วยด้วย
"แฮ่ก แฮ่ก ฝันแบบนี้อีกแล้ว" ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกขณะที่ใบหน้านั้นเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ ก่อนจะรีบเดินไปเปิดไฟให้สว่างทั่วห้องแล้วอุ้มลูกชายตัวน้อยที่นอนหลับตาพริ้มอยู่มาไว้แนบอก
ตั้งแต่ที่ฉันคลอดนาที ไม่มีคืนไหนที่ฉันจะไม่ฝันแบบนี้ ฝันว่ามีคนมาเอานาทีไปและในฝันฉันไม่สามารถเอานาทีกลับคืนมาได้ แค่คิดว่าหากเป็นเรื่องจริงฉันก็จะขาดใจตายอยู่แล้ว
"ขอให้เป็นแค่ฝันร้ายทีเถอะ อย่าให้มีใครมาพรากนาทีไปจากเราเลย"
"แอ้ อ้อแอ้" คนในอ้อมแขนส่งเสียงเมื่อได้ยินเสียงฉันพึมพำ
"ว่าไงครับลูกชาย นอนต่อได้แล้วครับเด็กดีของแม่" ฉันลูบหัวลูกชายเบา ๆ
คืนนี้ทั้งคืนฉันนอนไม่หลับ ได้แต่นั่งอุ้มนาทีไว้แนบอกเพราะกลัวว่าจะมีคนมาเอานาทีไปจากฉันเหมือนในฝันจริง ๆ ยิ่งนานวันเข้าฉันก็รู้สึกว่าความฝันของฉันมันเหมือนจริงขึ้นเรื่อย ๆ
ทุกครั้งที่ฉันมองหน้านาทีก็พลอยให้ฉันนึกถึงใครคนนึงซึ่งนาทีเองก็หน้าตาเริ่มเหมือนเขาเข้าไปทุกวัน ผู้ชายคนนั้นหากวันนึงเขามาเจอนาทีเข้า เขาจะทำยังไงนะ หวังว่าทุกอย่างคงผ่านไปด้วยดี หวังว่าคุณทวดเองคงรักษาสัญญา อย่าให้คุณทวดบอกเขาเลยนะว่าฉันกับนาทีอยู่ที่นี่ หากวันนึงต้องเจอกัน ก็ขอให้เป็นวันที่ฉันเองเข้มแข็งพอและขอให้เขาเจอเราสองคนแม่ลูกเองด้วยเถอะ อย่าให้เจอเพราะมีคนบอกเขาเลย
องศา...
"เชี่ยเอ้ย!" ผมสบถเสียงดังเมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะความฝันนั้นอีกแล้ว "นี่เราจะฝันแบบนี้ทุกคืนเลยหรือไงวะ"
ผมฝันว่าผมข่มขืนผู้หญิงคนนึง ฝันแบบนี้มาเป็นเวลานานตั้งแต่วันที่เธอคนนั้นหายไป ทุกครั้งที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะความฝัน ผมก็ไม่สามารถนอนต่อได้อีก
"ทำไมต้องไปด้วยวะ" ผมพึมพำเบา ๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าของคนคนนึง ผมไม่เคยคิดจะทิ้งเธอ ผมพร้อมจะรับผิดชอบเธอแต่เธอกลับหนีผมไป ทิ้งให้ผมอยู่กับฝันร้ายบ้า ๆ นี่ อยู่กับเสียงกรีดร้องของเธอในคืนนั้น...
"บ้าชิบ!" ผมสะบัดผ้าห่มออกจากตัวก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงมานั่งเปิดทีวีดูในเวลาตีสามเมื่อข่มตานอนต่อไม่ได้อีก เหอะ! ให้มันได้ยังงี้สิ
"นี่องศา! เปิดเสียงให้มันเบา ๆ หน่อยได้ไหมเสียงทีวีอะ คนจะหลับจะนอน" เสียงหวีดร้องเหมือนผีเปรตน่ารำคาญของน้องสาวฝาแฝดผมเดินออกมาโวยวายอยู่หน้าประตูห้อง
"จะนอนก็นอนไปอย่ามายุ่ง" ผมชักสีหน้าใส่คนเป็นน้องก่อนจะปิดทีวีแล้วล้มตัวลงนอนบนโซฟา
"ก็แค่นี่แหละ ทำเหมือนคอนโดนี้ตัวเองอยู่คนเดียวไปได้"
ปัง!
ผมหลับตาลงอีกครั้งพลางยกมือก่ายหน้าผากเอาไว้เมื่อเสียงน่ารำคาญนั่นหายไป
คอนโดมิเนียมที่ผมอยู่เป็นอีกธุรกิจหนึ่งของคุณย่าที่เพิ่งซื้อต่อจากเจ้าของคนเก่าและปรับปรุงใหม่ ตอนนี้ยกให้ฟาเรนท์ดูแลต่อ ชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียมเป็นห้องพักของพวกเราสามคนพี่น้อง แบ่งเป็นห้องนอนสามห้อง ห้องครัวหนึ่งห้องและห้องนั่งเล่นหนึ่งห้อง ที่ทำให้เป็นห้องชุดแบบนี้ก็เพราะว่าฟาเรนท์กลัวผีไม่ยอมนอนคนเดียวพวกเราเลยต้องอยู่ด้วยกันแทนที่จะได้แยกเป็นสัดส่วนของแต่ละคนไป พื้นที่ด้านนอกเป็นสระว่ายน้ำและสนามกีฬาเล็ก ๆ มีพื้นที่บางส่วนถูกจัดเป็นสวนหย่อมบนตึกนี้ ซึ่งไม่มีใครสามารถขึ้นมาได้นอกจากพวกเราสามคนเพราะเป็นพื้นที่ส่วนตัว
ครืด ครืด ครืด
สายเรียกเข้า >>> คุณย่า
"ครับคุณย่า"
[ยังไม่นอนอีกเหรอคุณชาย]
"ฝันร้ายครับคุณย่า ตื่นขึ้นมาเลยนอนไม่หลับ"
[งั้นเหรอ? นี่ย่าก็ว่าจะเข้านอนแล้วนะแต่นึกได้ว่าหลานชายของย่าเพิ่งจะไปถามซื้อที่ดินมา เจ้าของที่ว่าไงบ้างล่ะเขาตกลงขายไหม?] ผมถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่เมื่อคุณย่าถามถึงเรื่องนั้น
"ยังไม่ได้คุยเลยครับถูกใครไม่รู้ไล่ออกมาก่อน แต่คุณย่าไม่ต้องห่วงนะครับผมจะไปที่นั่นทุกวันจะตื้อจนกว่าเขาจะยอมขาย"
[ได้ยินแบบนี้ย่าก็สบายใจ งั้นย่าไปนอนล่ะ]
"ครับ ฝันดีนะครับคุณย่า"
[ย่าน่ะฝันดีทุกคืนอยู่แล้วล่ะ เราน่ะถ้าอยากฝันดีเหมือนย่าทุกคืนก็รีบซื้อที่ดินผืนนั้นให้ได้เร็ว ๆ ล่ะ]
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
"..." ช่วงหลัง ๆ มานี้คุณย่าชอบพูดอะไรแปลก ๆ กับผมโดยเฉพาะเรื่องความฝันที่ผมมักเล่าให้ท่านฟังบ่อย ๆ