ลูกชื่อนาที

1153 Words
องศา... ผมเดินตามเวลาไปอย่างงง ๆ ไม่เข้าใจว่าเธอจะให้ผมรออยู่ข้างนอกทำไมในเมื่อเด็กที่ผมพามาหาหมอก็คือลูกของผม อีกอย่างเธอจะพูดว่ารบกวนให้ผมไปส่งเธอทำไมวะผมเป็นผัวเธอนะก็ต้องไปส่งอยู่แล้วปะ "ทำอย่างกับเราเป็นคนอื่น" ผมพึมพำคนเดียวขณะกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามเวลาไป แค่รู้ว่าตัวเองปิดทางเข้าจนทำให้ลูกมาหาหมอช้าก็โกรธตัวเองจะแย่ ถ้าเกิดเซริคไม่โทรมาบอกแล้วไม่ยอมเปิดทางให้เวลา ป่านนี้ลูกผมจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ "ทำไมวันที่เจอกันเราถึงไม่เริ่มต้นกันดี ๆ วะแม่ง มันแต่โกรธจนคิดจะเอาชนะอยู่ได้" ผมนั่งโทษตัวเองที่ทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับเวลามันแย่ลง ทั้ง ๆ ที่วันนั้นที่เราเจอกันผมน่าจะถามถึงลูกแล้วก็ความเป็นอยู่ของเธอ แทนที่จะแสดงตัวว่าตามหาเธอกับลูกมาตลอดเพราะอยากจะรับผิดชอบ อยากดูแลและอยากทำหน้าที่ของตัวเองแต่กลับไปพูดอะไรไร้สาระแทน "เฮ้อ!" "ตกลงลูกผมเป็นอะไรครับคุณหมอ" ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินตรงไปหาเวลากับคุณหมอที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องตรวจพร้อมกัน ในอ้อมแขนของเวลามีลูกของผมนอนหลับอยู่ "หมอสงสัยว่าทารกน่าจะแพ้อากาศน่ะครับ ยังไงพรุ่งนี้เช้าลองเข้าไปตรวจในโรงพยาบาลอีกทีนะครับ แต่เบื้องต้นที่หมอเช็กอาการไปแล้วหมอคิดว่าสภาพแวดล้อมที่คุณแม่กับทารกอาศัยอยู่น่าจะเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ทารกป่วยครับ" คุณหมอตอบคำถามของผมโดยมีเวลายืนอุ้มลุกอยู่ข้าง ๆ "แต่พื้นที่รอบ ๆ ที่ฉันกับลูกอยู่รายล้อมไปด้วยสวนผลไม้นะคะคุณหมอ อากาศบริเวณนั้นมันบริสุทธิ์กว่าในเมืองมากเลยนะคะ บ้านที่เราอยู่อากาศก็ถ่ายเทสะดวก" เวลาหันไปอธิบายให้หมอฟัง ถ้าจริงอย่างที่เวลาพูดมางั้นลูกผมป่วยได้ไงวะ "อาจเกิดจากควันพิษหรือสารพิษสารเคมีที่เกิดจากการเผาไหม้ลอยมาปะปนในอากาศก็ได้ครับ เลยทำให้ทารกเกิดการแพ้ วัยนี้ภูมิคุ้มกันเขายังไม่ดีมากพอถ้าเจออะไรแบบนั้นอาจป่วยง่าย" คุณหมอพูดต่อ ทำเอาผมกับเวลาต้องมองหน้ากันโดยมิได้นัดหมายและมันทำให้ผมนึกอะไรออกทันที "ยังไงเดี๋ยวหมอให้ยาไปนะครับ ยาตัวนี้ไม่แรงมากเหมาะกับทารก พอตอนเช้าหมอขอแนะนำให้คุณแม่พาทารกไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลนะครับ แล้วก็ให้ทารกอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงจากฝุ่นควันหรืออากาศที่ไม่บริสุทธิ์นะครับ" "ค่ะ" หลังจากที่ผมจัดการเรื่องค่ายาและค่ารักษาเรียบร้อยแล้วผมก็หิ้วถุงยาเดินตามเวลาออกมาอย่างเงียบ ๆ เพราะความรู้สึกผิดบางอย่าง สิ่งที่คุณหมอพูดมามันมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยเพราะผมเป็นคนทำให้ลูกป่วย ผมทำลายธรรมชาติรอบตัวลูก เอาควันพิษจากการไถการปรับพื้นที่จนฝุ่นคละคลุ้งให้ลูกของตัวเอง "นี่ค่ายาที่นายจ่ายไปเมื่อกี้" เสียงหวานพูดขึ้นพร้อมกับยื่นธนบัตรหนึ่งพันบาทให้ผมสองใบ "ขอฉันจ่ายค่ายาให้ลูกตัวเองได้ไหม" ผมไม่ได้รับเงินจากเวลามาแต่กลับพูดเสียงอ่อนกับเธอแทน เวลาไม่ได้หันมาพูดกับผมต่อแต่หันกลับไปมองหน้าลูกที่ตอนนี้หลับเพราะยาที่หมอฉีดให้ ผมเองก็ไม่กล้าพูดอะไรเพราะดูสถานการณ์แล้วเวลาคงอยากอยู่เงียบ ๆ "เซริค" ผมต่อสายหาเลขาส่วนตัวเพื่อให้มันจัดการอะไรบางอย่างให้ [ครับบอส] "สั่งให้คนงานหยุดทำงานแล้วก็ยกเลิกเรื่องปรับสภาพพื้นที่เดี๋ยวนี้เลย ยกเลิกสัญญากับผู้รับเหมาที่จะมาสร้างสนามแข่งรถด้วย" ประโยคหลังผมพูดเบาลงเพราะกลัวว่าคนข้าง ๆ จะได้ยินแล้วไม่พอใจ ว่าแต่ทำไมผมต้องทำตัวเหมือนกลัวด้วยนะ... [ครับบอส] เมื่อได้ยินปลายสายตอบรับแล้วผมจึงกดวางสายจากเซริคก่อนจะหันไปหาเวลาที่ตอนนี้เอาแต่มองไปนอกหน้าต่างด้วยท่าทีเหม่อลอย "ฉันขอโทษนะที่ทำให้ลูกป่วย" ผมบอกคนข้าง ๆ ที่ไม่ยอมหันหน้ามาทางผม "ช่างเถอะ ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว" คนที่เอาแต่มองไปด้านนอกหน้าต่างตอบกลับแค่นั้นราวกับว่าไม่อยากคุยด้วย "ลูกเรา...ผู้หญิงหรือผู้ชาย" "...ผู้ชาย" ลูกผมเป็นผู้ชาย! เยส! "แล้ว...ชื่ออะไร" ผมถามต่อเมื่อรู้เรื่องราวเกี่ยวกับลูกบ้างแล้ว "นาที" อ่อชื่อนาที... เพราะดีแฮะแม่ชื่อเวลาลูกชื่อนาที "แล้วนาทีเลี้ยงยากไหม" "ไม่" ถามคำตอบคำมันเป็นแบบนี้นี่เอง ไม่นานผมก็ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านของเวลาที่อยู่ห่างจากสวนลำใยมากพอสมควร "ขอบใจนะที่มาส่ง" คนที่เดินลงจากรถเอ่ยหลังจากที่ผมวิ่งลงไปเปิดประตูรถให้ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง บ้านที่เห็นเป็นบ้านไม้ทรงไทยหลังเล็กชั้นเดียวตั้งอยู่ในสวนส้ม "เวลาคือฉัน ฉันขออยู่ที่นี่กับลูกก่อนได้ไหม เผื่อดึก ๆ เป็นอะไรอีกฉันจะได้ช่วยทัน ไหน ๆ พรุ่งนี้ก็ต้องออกไปหาหมอที่กรุงเทพอยู่แล้วฉันจะได้พาไปด้วยเลย" ผมหาข้ออ้างเพื่อจะอยู่กับสองแม่ลูกต่อ ยังไงเสียผมก็จะหาทางปรับความเข้าใจกับเธอให้ได้ จะไม่ปล่อยให้เธอกับลูกไปไหนอีกแล้ว "...เอางั้นก็ได้ แต่คืนนี้คืนเดียวนะ" คนตรงหน้าเงียบไปราวกับคิดอะไรก่อนจะหันมาตอบทำเอาผมยิ้มออก "นายนอนห้องนี้ได้ก็นอนนะ ถ้าไม่ได้ก็กลับไป" แม่ของลูกบอกแค่นั้นเมื่อหันไปมองโซฟาในห้องนั่งเล่นราวกับจะบอกว่าคืนนี้ผมต้องนอนห้องนี้ "ได้สิ ฉันนอนที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น" ดวงตาคู่สวยปรายตามองผมเพียงนิดก่อนจะวางลูกชายตัวน้อยลงบนโซฟาแล้วเงยหน้ามาสบตากับผม "อย่าแตะนาที ไม่อย่างงั้นฉันจะพานาทีไปจากที่นี่" คำพูดต่อมาของคนตรงหน้าทำให้ผมที่กำลังจะเดินเข้าไปหาลูกต้องชะงักเท่าเอาไว้ แววตาเย็นชาที่มองมาทำเอาผมหน้าชายิบจนทำอะไรไม่ถูก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD