ตอนที่ 2 ฉุดกระชาก

1001 Words
“ไงจ้ะน้องโสคนสวย” กล้าเข้ามากระชากข้อมือเล็กแรงๆ นิรกาญหน้าซีดเผือดทันที เธอไม่คิดว่าจะเจอทั้งสองที่นี่อีกครั้ง หญิงสาวรีบบิดข้อมือออกแต่ไม่ได้ผล และภาวนาให้ไต้พิศาลออกมาช่วย “ปล่อยฉันนะ!” “สวยๆ แบบนี้ปล่อยไปอีกก็เสียดายแย่นะสิ ไปสนุกกับเจ้านายพี่สามสี่วันก่อนดีกว่านะ” กล้าฉุดกระชากเธอไปที่รถ แต่เสียงห้วนแหบพร่าเต็มไปด้วยอำนาจดังขึ้นเสียก่อน “หยุดนะไอ้กล้า ปล่อยหนูนิ่มเดี๋ยวนี้” เสียงไต้พิศาลลอดประตูเล็กออกมาทันเห็นเหตุการณ์พอดี เล่นเอากล้ากับเส็งถึงกับหน้าซีดทันที ด้วยเพราะคิดไม่ถึงว่าไต้ใหญ่จะมาประตูหลังเอง กล้าจึงรีบปล่อยมือชองนิรกาญให้เป็นอิสระ “นายมึงสองคนไปไหน?” ไต้พิศาลถามเสียงขุ่น “ถามหาเพราะคิดถึงหรือไม่อยากให้กลับมาล่ะป๊า” ร่างสูงใหญ่เปิดประตูลงจากรถ ร่างสูงเดินไปหาบิดาพลางปรายหางตามองไปที่ใบหน้าซีดๆ ของหญิงสาว “รู้อยู่แล้วจะถามหาพระแสงอะไร แล้วทำไมไม่เข้าประตูหน้า” ไต้ชรามองร่างสูงใหญ่ด้วยแววตาเรืองรองที่ได้เห็นบุตรชายอีกครั้ง ความยินดีฉายวาบออกมาแต่เพียงชั่วครู่เดียวก็หายไปกลายเป็นเย็นชาอีกครั้ง “ถ้าเข้าประตูหน้าจะได้เห็นอะไรดีๆ เหรอ เมียเด็กบริการไม่ถึงใจหรือไงถึงได้นัดกะหรี่หน้าอ่อนมาล่อกันหลังบ้าน” ภีมะถามพลางมองนิรกาญด้วยสายตาเหยียดหยัน “อยู่กลางทะเลนานแทนที่จะโยนหมาลงทะเลบ้าง กลับปากหมายิ่งกว่าเดิมอีกนะแก” ไต้พิศาลสวนกลับบุตรชายแสบสันไม่แพ้กัน นิรกาญถูกว่าเป็นกะหรี่ชั้นต่ำก็ใบหน้าตึงทันที “ป๊าจะเดือดร้อนทำไม คนถูกว่าเป็นกะหรี่ยังไม่เดือดร้อนเลย” ภีมะหันไปมองหญิงสาวเต็มตา นิรกาญเหลือทนกับวาจาดูแคลน ลืมตัวตบหน้าภีมะเต็มแรง ใบหน้าดุดันหันไปตามแรงตบทันที ส่วนไต้พิศาลเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าน้องเมียจะใจเด็ดขนาดนี้ ที่กล้าแตะบุตรชายของตน คนที่ทั้งเมืองต่างพากันหวาดกลัว “หน้าเหมือนโจรยังปากเสียอีก ฉันไม่ได้ทำอาชีพที่ไต้พยายามยัดเหยียดให้หรอกนะคะ” ภีมะยกมือชึ้นลูบแก้มข้างที่ถูกตบแล้วหันมามองเธอช้าๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเปลี่ยนเฉดสีเป็นแดงก่ำตามอารมณ์ของเจ้าตัว ชายหนุ่มคว้าลำแขนกลมกลึงบีบแรงๆ จนเธอเจ็บจนแทบน้ำตาไหล “ฉันขอล่ะภีม ปล่อยหนูนิ่มเถอะ” คำพูดเยือกเย็นของบิดามีผลให้ภีมะจำต้องปล่อย เพราะไม่เคยเห็นบิดาเอ็นดูใครมากขนาดนี้มาก่อน แม้แต่เมียเด็กอย่างเดือนดาราก็ไม่เคยได้ความอ่อนโยนแบบนี้ด้วยซ้ำ “เพื่อพ่อไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ภีมะปล่อยมือออกจากแขนของอีกฝ่าย ทว่าแววตากลับไม่ได้บอกอย่างนั้น เขามองหญิงสาวอย่างอาฆาต และหมายมาดเอาคืนอย่างขีดสุดเลยทีเดียว “นิรกาญเป็นน้องสาวของเดือนดารา และที่สำคัญเป็นเด็กดี ไม่เคยมีเรื่องเสียหายเหมือนที่แกว่า” ไต้พิศาลมองบุตรชายอย่างตำหนิ ภีมะเบ้ปากแล้วเดินผ่านไปหมายจะชนไหล่นิรกาญ แต่โชคดีที่เธอเลี่ยงหลบตัวทัน “ดูมันนะ เก่งทุกเรื่องยกเว้นเรื่องมารยาท” ไต้พิศาลถึงกับบ่นตามหลัง รู้สึกอ่อนใจกับพฤติกรรมของบุตรชาย นิรกาญแม้จะโกรธอยู่บ้างแต่ก็สงสารสามีของพี่สาวไม่น้อย “ไม่เป็นไรค่ะ นิ่มยกขนมเข้าไปข้างในก่อนนะคะ” เธอเตรียมจะยกถาดขนมแต่ไต้พิศาลห้ามไว้ก่อน “ไม่ต้องหรอกหนูนิ่ม เดี๋ยวให้เจ้ากล้ากับเจ้าเส็งยกไป” เส็งกับกล้าได้ยินก็ช่วยกันยกถาดขนมเข้าไปข้างใน เมื่อเสร็จธุระแล้วหญิงสาวก็หันมาหาไต้ชราเพื่อจะขอลากลับ “หมดธุระแล้ว นิ่มขอกลับก่อนเลยนะคะ” นิรกาญพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ยิ่งทำให้ไต้ชราเอ็นดูเธอมากขึ้นไปอีก “ไหนๆ ก็มาแล้วเข้าไปคุยกับเดือนก่อนสิ รายนั้นบ่นคิดถึงบ้านทุกวัน” ไต้พิศาลเอ่ยถึงภรรยาเด็กดวงตาก็พลันเป็นประกายตาอ่อนโยน “เอ่อ…จะดีเหรอคะ นิ่มกลัวจะทำให้ท่านลำบากใจหากไปเจอกับไต้ภีมอีก” “อย่าสนใจมันเลย ลูกชายฉันคนนี้เหมือนเด็กมีปัญหา ใครจะปราบมันลงได้ก็ไม่รู้” ไต้พิศาลบ่นขณะเดินเคียงข้างนิรกาญเข้าไปในบ้าน โดยที่ทั้งสองหารู้ไม่ว่าอยู่ในสายตาของภีมะตลอดเวลา “ที่แท้ก็เป็นน้องสาวเดือนดาราเองหรือคนสวย ในขณะที่คนอื่นกลัวฉันจนหัวหดหมด แต่เธอกลับกล้าตบหน้าฉัน ฉันจะจับเธอไปขังในเรือไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยนังกะหรี่ตัวดี!” ใบหน้ารกไปด้วยหนวดเคราพลันกระด้างขึ้นอย่างน่ากลัว ดวงตาคมเป็นประกายลุกโชน พลางยกมือกร้านแดดขึ้นลูบแก้มข้างที่ถูบตบเบาๆ นิรกาญกับไต้พิศาลเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ หญิงสาวมองเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงที่ประดับตกแต่งห้องอย่างลงตัว ช่างสมกับฐานะเจ้าของบ้านจริงๆ “นิ่ม” เสียงเรียกด้วยความตื่นเต้นทำให้หญิงสาวหันไปมองต้นเสียง เดือนดารากางมือออกเพื่อรับร่างน้องสาวเข้ามาในอ้อมกอด นิรกาญเข้าไปสวมกอดร่างอวบอิ่มที่มีน้ำมีนวลของพี่สาวทันที “คิดถึงพี่เดือนที่สุดเลยค่ะ” “อืม...คิดถึงหรือบ่นฉันทุกวันกันแน่ยะแม่คุณ...” เดือนดาราดันน้องสาวออกห่าง ไต้พิศาลเห็นความรักของสองสาวก็พลอยมีความสุขไปด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD