ตอนที่ 7 กฎข้อที่ 5 ห้ามมองเข้าไปในตู้ที่ไม่มีปลา

2050 Words
หลังจากที่บูมหายตัวไปต่อหน้าต่อตาทุกคน ความเงียบที่น่าขนลุกกลับเข้าปกคลุมอีกครั้งหลัง มีเพียงเสียงของสายน้ำไหลและเสียงลมหายใจของคนที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่ เสียงหัวเราะเย้ยหยันของอควาเรียมยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของทุกคน ราวกับจะตอกย้ำถึงความสิ้นหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุด กลุ่มคนที่เหลือยืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ดูไร้ซึ่งอนาคต แต่ละคนต่างจ้องมองไปยังจุดที่บูมเคยยืนอยู่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัว การหายไปอย่างสมบูรณ์ของเขาทำให้ทุกคนตระหนักว่ากฎเหล่านั้นไม่ได้เพียงแค่ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ แต่สามารถลบเลือนตัวตนของพวกเขาออกไปจากโลกนี้ได้อย่างแท้จริง “มันน่ากลัวจัง” พลอยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาของเธอแดงก่ำจากน้ำตาที่คลอหน่วย มือข้างที่มีรอยตราประทับเรืองแสงเล็กน้อยยังคงสั่นเทาไม่หยุด บัดนี้มันเริ่มมีอาการเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย แพรวาโอบร่างของพลอยไว้ พยายามช่วยปลอบใจคนข้างๆ เธอเองก็รู้สึกชาไปทั้งตัว ความกลัวที่เคยสัมผัสมานั้นไม่อาจเทียบได้กับความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นจากการหายตัวไปของบูม “มันเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้แล้ว” กวินรู้สึกถึงความโกรธที่พุ่งพล่านในอก เขาเตะกำแพงอควาเรียมอย่างรุนแรง “เราจะยอมให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้!” เขากรีดร้อง “เราต้องหาทางหยุดมัน!” “แล้วจะทำยังไง” แพรวาถามกลับ “ฉันไม่รู้ แต่มันต้องมีสักทางแหละน่า!” กวินเตะเข้าไปที่กำแพงด้วยความโกรธอีกครั้ง เขากำลังบ้าคลั่ง บรรยากาศในเวลานี้ยิ่งทำให้ดูหดหู่มากขึ้นกว่าเดิม อิฐเดินเข้ามาดึงกวินเข้าไปกอดเอาไว้แน่น เพราะอยากให้อีกฝ่ายสงบสติอารมณ์สักหน่อย “ใจเย็นๆ ดิ” “ปล่อยดิวะ!! ปล่อยกู!!!!” กวินแหกปากลั่นพร้อมออกแรงสะบัดตัวเอาจากการกอดรัดของคนตัวใหญ่กว่า แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของอิฐได้ ส่วนมิกิก็เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงกรีดร้องตะโกนของกวิน แต่แววตาของเธอดูล่องลอยและว่างเปล่า ราวกับไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งใดๆ อีกแล้ว การได้ยินของเธอได้ถูกพรากไปอย่างสมบูรณ์ “ฉันจะปล่อยนายก็ต่อเมื่อนายหายบ้า!” อิฐย้ำพลางออกแรงรัดมากกว่าเดิม กวินเริ่มสงบ เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำกำลังไร้สติและไม่อาจสู้แรงของอีกฝ่ายได้เลยสักนิด เมื่ออิฐเห็นว่ากวินนิ่งขึ้นแล้วจึงค่อยๆ คลายกอดออกจากร่างกายของอีกฝ่าย “ทีนี้ก็นั่งพักก่อน แล้วมาช่วยกันคิดว่าจะเอายังไงกันต่อ” อิฐย้ำแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น ต้นยังคงจดบันทึกทุกสิ่งอย่างละเอียดในสมุดของเขา ใบหน้าของเขาดูซีดเผือดและเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า “เราไม่รู้ว่ามันกำลังเล่นเกมอะไร แต่เราต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ ก่อนที่เราจะหายไปเหมือนบูม” เขามองไปที่สมุดบันทึกในมืออย่างหวงแหน ราวกับมันคือสิ่งเดียวที่จะยืนยันการมีอยู่ของพวกเขาได้ อิฐยังคงยืนนิ่ง ไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง เขามองไปที่จุดที่บูมหายไป “ฉันคิดว่าส่ิงที่มันทำคือการพรางตัวบูมเอาไว้” อิฐกล่าวขึ้นมาเสียงเบา “เหมือนกับสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่สามารถปรับตัวได้ในทุกสภาพแวดล้อมเพื่อที่จะหลบเลี่ยงจากศัตรู หรือไม่ก็เพื่อล่าเหยื่อ” เขานึกถึงข้อมูลที่เขาเคยศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกบางชนิดที่มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน “หรือไม่เขาก็ถูกลบเลือนตัวตนไปจริงๆ” แพรวาเอ่ยเสริม “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันแค่คาดเดาเอาน่ะ” อิฐตอบพลางยักไหล่ ลุงแดงถอนหายใจยาว “เขาไม่ได้หายไปไหนหรอก” ลุงแดงกล่าวเสียงเรียบ “เขาแค่... กลับบ้าน” คำพูดของลุงแดงดูคลุมเครือ แต่แฝงไว้ด้วยความรู้บางอย่างที่ไม่มีใครเข้าใจ “อควาเรียมแห่งนี้มันกำลังสร้าง ‘ครอบครัว’ ของมันเอง” ฟ้าที่ปกติจะสงบเย็น บัดนี้เธอเริ่มมีอาการกระสับกระส่าย เธอหลับตาลงพยายามรวบรวมสมาธิ แต่สัมผัสได้ถึงพลังงานที่ปั่นป่วนอย่างรุนแรงที่พุ่งออกมาจากอควาเรียม พลังงานนั้นดูเหมือนจะมองเห็นทุกสิ่ง และรับรู้ทุกความคิดของพวกเขา “มันกำลังเล่นงานจิตใจเรา” ฟ้าเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ “มันกำลังบิดเบือนการรับรู้ของเรา!” เจ้าหน้าที่ชายผู้นั้นยังคงยืนนิ่ง ไม่ไหวติง ราวกับเป็นเพียงรูปปั้น เขามองไปที่กลุ่มคนด้วยแววตาที่ว่างเปล่า แต่ในบางครั้งก็มีประกายสีแดงเรืองรองวูบไหวในดวงตาของเขา ราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังควบคุมเขาอยู่ “เราจะทำยังไงกันดี?” แพรวาถามขึ้นมา เธอมองไปรอบๆ อย่างสิ้นหวัง ทางเดินที่ทอดยาวออกไปดูมืดมิดและไม่คุ้นเคย “เราต้องเดินหน้าต่อไป” กวินตอบอย่างหนักแน่น “เราจะหาทางออกให้ได้” พวกเขาตัดสินใจเดินไปตามทางเดินที่ดูเหมือนจะเป็นทางแยกที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ทางเดินนั้นค่อนข้างแคบและมืดสลัวกว่าโซนก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ก็ยังมีแสงไฟบางดวงที่ส่องสว่างออกมาจากตู้ปลาที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ขณะที่พวกเขากำลังเดินผ่านทางเดินนั้น สายตาของฟ้าก็เหลือบไปเห็นตู้ปลาขนาดใหญ่ตู้หนึ่งที่อยู่ทางขวามือ มันเป็นตู้ปลาที่ดูแปลกประหลาดกว่าตู้ปลาอื่นๆ เพราะไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย มันเป็นตู้ปลาว่างเปล่า ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆ มีเพียงน้ำสีเขียวขุ่นที่ขังอยู่ภายใน และแสงสลัวๆ ที่ส่องออกมาจากด้านบน “แปลกจัง... ทำไมตู้นี้ถึงไม่มีปลาเลยล่ะ?” ฟ้าพึมพำด้วยความสงสัย แรงจูงใจของเธอในฐานะนักจิตวิทยาทำให้เธออยากทำความเข้าใจสิ่งที่ผิดปกติ ดวงตาของเธอจ้องมองเข้าไปในตู้ปลาว่างเปล่านั้นอย่างไม่ละสายตา “ฟ้า! อย่ามองเข้าไปนะ!” แพรวาร้องเตือนด้วยสัญชาตญาณ เธอจำกฎข้อที่ 5 ได้อย่างแม่นยำ “ห้ามมองเข้าไปในตู้ที่ไม่มีปลา!” แต่ไม่ทันแล้ว ฟ้าได้จ้องมองเข้าไปในตู้ปลาที่ว่างเปล่านั้นอย่างเต็มตา เธอนิ่งราวกับตกอยู่ภวังค์ ทันใดนั้น แสงสีเขียวขุ่นจากตู้ปลาว่างเปล่าก็ส่องสว่างจ้าขึ้นอย่างรวดเร็ว! แสงนั้นพุ่งตรงเข้ามาที่ดวงตาของฟ้า ราวกับจะดูดกลืนเธอเข้าไปในความมืดมิดของตู้ปลา แล้วสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้นก็เกิดขึ้น! ภาพสะท้อนของฟ้าปรากฏขึ้นบนผิวน้ำที่ว่างเปล่านั้น แต่ภาพสะท้อนนั้นไม่ได้นิ่งเหมือนกระจกเงา มันกลับเคลื่อนไหวอย่างอิสระ และมีใบหน้าที่บิดเบี้ยว ดวงตาของฟ้าในภาพสะท้อนเป็นสีดำสนิท และมันกำลัง ส่งเสียงหัวเราะเยาะที่เย็นยะเยือกและน่าขนลุกออกมา! "กฎข้อที่ 5... ห้ามมองเข้าไปในตู้ที่ไม่มีปลา!" เสียงสังเคราะห์ของอควาเรียมประกาศก้อง ราวกับจะตอกย้ำถึงความผิดพลาดของฟ้า “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ! ไม่จริง! ไม่จริง!! กรี๊ดดด!!!!” ฟ้ากรีดร้องสุดเสียง เธอพยายามถอยหลังหนี แต่ภาพสะท้อนในตู้ปลากลับพุ่งเข้ามาหาเธอ ราวกับจะกลืนกินร่างของเธอเข้าไปในกระจก! เธอเห็นภาพตัวเองในกระจกที่กำลังหัวเราะเยาะ และพูดบางอย่างที่เธอไม่สามารถได้ยิน แต่รู้สึกได้ถึงความหมายอันน่าหวาดกลัว! “ฟ้า!” กวินรีบพุ่งเข้าไปคว้าตัวฟ้า แต่เขาก็ต้องผงะถอยหลัง เมื่อเห็นภาพสะท้อนของฟ้าในตู้ปลาบิดเบี้ยวและพุ่งออกมานอกกระจก ราวกับเป็นเงาปีศาจที่กำลังโจมตีฟ้าอยู่ “มันกำลังเล่นงานจิตใจฟ้า!” แพรวากล่าวด้วยความตื่นตระหนก “มันกำลังบิดเบือนตัวตนของเธอ!” กรี๊ด~! พลอยกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว เธอเห็นภาพสะท้อนของฟ้าที่ดูน่ากลัว และเริ่มรู้สึกว่ารอยตราประทับบนมือของเธอกำลังร้อนขึ้นมาอีกครั้ง “มันร้อน!! มันร้อนมากเลย!!! ช่วยฉันด้วย! กรี๊ดดด!!!” เธอหวีดร้องอย่างน่าสงสาร ร่างกายของเธอดิ้นเร่าอยู่บนพื้น ทุกคนได้แต่ยืนมองไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือ ในขณะเดียกวันมิกิที่อยู่ในสภาพเงียบงัน บัดนี้ร่างกายของเธอก็เริ่มกระตุกเล็กน้อย ราวกับว่าเธอกำลังรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฟ้าผ่านการรับรู้ทางประสาทสัมผัสอื่น นอกเหนือไปจากการได้ยิน ต้นรีบหยิบสมุดบันทึกขึ้นมา เขาสังเกตเห็นว่าภาพสะท้อนของฟ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพลวงตา แต่มันกำลังส่งผลกระทบต่อร่างกายของฟ้าจริงๆ ดวงตาของฟ้าเริ่มแดงก่ำ และมีเส้นเลือดฝอยปูดโปนออกมาคล้ายกับเจมส์ “มันกำลังพยายามสร้าง ‘อีกตัวตนหนึ่ง’ ของฟ้า!” ต้นพึมพำ อิฐเดินเข้ามาใกล้ตู้ปลาว่างเปล่านั้น เขามองไปที่ภาพสะท้อนของฟ้าด้วยความสนใจ “การมองเข้าไปในความว่างเปล่า... คือการเปิดประตูให้บางสิ่งเข้ามา มันกำลังสร้างภาพจำลองของฟ้าขึ้นมาและควบคุมจิตใจของเธอ” ลุงแดงถอนหายใจยาวอีกครั้งเหมือนกับทุกที “ฟ้ากำลังจะเข้าสู่โลกแห่งจิตที่มืดมิด มันกำลังจะหลอกหลอนเธอด้วยตัวตนของเธอที่มันสร้างขึ้นมาใหม่” อาการของฟ้าเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เธอกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเธอกระตุกรุนแรง ดวงตาเบิกกว้างจนเห็นแต่ตาขาว และเธอก็เริ่มพึมพำบางอย่างที่ไม่สามารถจับใจความได้ ราวกับกำลังคุยกับอีกตัวตนหนึ่งที่อยู่ข้างใน ตุบ! ในที่สุด ฟ้าก็ทรุดตัวลงกับพื้นหมดสติไป ร่างกายของเธอกระตุกเล็กน้อย ดวงตาของเธอยังคงเบิกกว้าง แต่ไร้แวว และที่น่าตกใจที่สุดคือ... เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเธอดูล่องลอยและเต็มไปด้วยความลึกลับ เธอเริ่มพูดถึงอีกตัวตนหนึ่งที่อยู่ในตู้ปลา และไม่ยอมรับว่าตัวตนที่กำลังยืนอยู่ข้างนอกนั้นคือตัวเธอเอง! “ฟ้า! เธอเป็นอะไรไป!” กวินเขย่าตัวฟ้าเบาๆ แต่เธอกลับมองเขาด้วยแววตาที่ว่างเปล่าและเต็มไปด้วยความสับสน แพรวาถึงกับกุมมือพลอยแน่น “ฟ้า... เธอเหมือนคนละคนเลย” แพรวากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อิฐมองไปที่ฟ้าด้วยความสนใจ เขาสังเกตเห็นว่าดวงตาของฟ้าไม่ได้เป็นสีดำสนิทเหมือนเจมส์ แต่มีประกายสีเขียวเรืองรองเล็กน้อย คล้ายกับแสงจากตู้ปลาว่างเปล่านั้น “มันไม่ได้กลืนกินเธอทั้งหมด... แต่มันสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมา ฟ้าไม่ได้ตาย... แต่เธอถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน” “เธอได้เห็น... ความจริงที่มืดมิดของตัวเองแล้ว” ลุงแดงกล่าว “และตอนนี้... ความจริงนั้นกำลังตามหลอกหลอนเธอ” “ความจริง?” แพรวาย้ำถาม สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “ความจริงที่มันสร้างขึ้น...” ลุงแดงเสียงนิ่ง ความหวาดกลัวเข้าปกคลุมกลุ่มคนที่เหลือรอดอย่างรุนแรง นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวที่สุด ฟ้าไม่ได้หายไปเหมือนบูม ไม่ได้สูญเสียประสาทสัมผัสทางการได้ยินเหมือนมิกิ แต่เธอถูกบิดเบือนตัวตน ทำให้เธอไม่สามารถแยกแยะระหว่างความจริงกับภาพหลอนได้อีกต่อไป เสียงสังเคราะห์ของอควาเรียมกลับมาอีกครั้ง คราวนี้มันเป็นเสียงที่เย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน “หนึ่ง... ถูกกลืนกิน สอง... ถูกพราก สาม... ถูกบิดเบือน สี่... ถูกลบเลือน ห้า... ถูกแบ่งแยก" “ยินดีต้อนรับ สู่การเป็นส่วนหนึ่งของไตรตัน ผู้เฝ้ารอคอย ตลอดกาล" เสียงประกาศนั้นเงียบลงพร้อมกับเสียงเต้นของหัวใจทุกคนที่ดังขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD