ตอนที่ 13 กฎข้อที่ 10 ห้ามพูดถึงโลกภายนอก

1381 Words
หลังจากแพรวาหมดสติไปในสภาพหวาดกลัวจากการถูกจองจำในความจริงอันมืดมิดของอดีตที่เชื่อมโยงกับอควาเรียมไตรตัน การเปลี่ยนแปลงอันน่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นกับเพื่อนๆ ยิ่งตอกย้ำความจริงอันโหดร้ายว่าอควาเรียมแห่งนี้ไม่ได้เพียงแค่ล้อเล่นกับชีวิตของพวกเขา แต่กำลังบิดเบือนจิตใจและตัวตนของพวกเขาให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมันอย่างช้าๆ กวินประคองร่างของแพรวาที่ยังคงหมดสติอยู่ เขาพยายามเรียกชื่อเธออีกครั้ง แต่แพรวาไม่ตอบสนอง “แพรวา...เธอต้องกลับมานะ” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เธอยังนอนนิ่ง ไม่ไหวติง... “เราต้องหาทางออก!” กวินหันไปหาอิฐแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ก่อนที่เราจะกลายเป็นเหมือนพวกเขา!” เขากวาดตามองเพื่อนๆ ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างน่ากลัว แม้จะรู้สึกผิดที่ช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้ แต่เขาก็ยังอยากที่ก้าวออกจากที่นี่ไปอย่างคนปกติ อิฐหันไปมองกลุ่มคน “ไม่ได้! เราจะต้องไปต่อ เราต้องหาทางเข้าถึงแกนพลังงานให้ได้” “นายแน่ใจนะ” “เชื่อใจฉันเถอะ ฉันมั่นใจว่าถ้าเราเจอแกนพลังงานของที่นี่ แล้วทำลายมัน เราจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยแน่นอน” อิฐให้คำมั่น น้ำเสียงของเขาหนักแน่นมากพอที่จะทำให้กวินสบายใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง พวกเขาตัดสินใจเดินหน้าต่อไปตามทางเดินที่ทอดยาวออกไปอย่างไม่มีจุดหมาย บรรยากาศยังคงมืดสลัวและเต็มไปด้วยความน่าขนลุกมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงน้ำไหลเอื่อยๆ ผสมกับเสียงลมหวีดหวิวที่พัดไปมาสร้างความหลอนประสาทได้ไม่น้อยเหมือนกัน ขณะที่พวกเขากำลังเดินผ่านทางเดินที่ค่อนข้างแคบและไม่คุ้นตา สายตาของกวินก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งที่ทำให้เขาต้องหยุดชะงัก มันเป็นภาพถ่ายขนาดเล็กที่ตกอยู่บนพื้นใกล้กับตู้ปลาขนาดใหญ่ตู้หนึ่ง ภาพถ่ายนั้นเป็นภาพของครอบครัวที่กำลังยิ้มแย้มมีความสุข ภาพพ่อ แม่ และเด็กน้อยที่กำลังหัวเราะอย่างสดใส ภาพนั้นทำให้กวินรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างประหลาด เพราะมันทำให้เขานึกถึงครอบครัวของเขาที่รอคอยเขาอยู่ที่โลกภายนอก กวินหยิบภาพถ่ายนั้นขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เขาลูบไล้ภาพใบหน้าของพ่อกับแม่ด้วยความรักและความคิดถึง “พ่อ... แม่...” กวินพึมพำ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “ผมต้องกลับไปหาพ่อกับแม่ให้ได้” เขานึกถึงชีวิตของเขาที่กรุงเทพฯ การเรียนโบราณคดี ความฝันที่จะไขปริศนาของโลก และเพื่อนๆ ที่เขารัก “กวิน! อย่าพูดถึงโลกภายนอกนะ!” อิฐกล่าวเตือนเสียงดัง เขาจำกฎข้อที่ 10 ได้อย่างแม่นยำ “ห้ามพูดถึงโลกภายนอก!” “แต่...!” กวินตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระสับกระส่าย “ฉันแค่นึกถึงครอบครัวของฉัน! มันผิดตรงไหน!” เขาเชื่อว่าการนึกถึงสิ่งที่รักจะทำให้เขามีพลังที่จะต่อสู้ต่อไป แต่ไม่ทันแล้ว กวินได้พูดถึงครอบครัวของเขาและชีวิตภายนอก อควาเรียมออกมาแล้ว! เสียงประกาศจากอควาเรียมดังก้องขึ้น "กฎข้อที่ 10... ห้ามพูดถึงโลกภายนอก!" ทันทีที่สิ้นเสียงประกาศ ความเย็นยะเยือกก็พุ่งจากทั่วทุกทิศทางเข้าสู่ร่างกายของกวิน เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังถูกแช่อยู่ในน้ำแข็ง ร่างกายของเขาสั่นเทาอย่างรุนแรง ก่อนที่เขาจะเริ่มรู้สึกถึงความว่างเปล่าที่ค่อยๆ กัดกินจิตใจของเขา ภาพถ่ายครอบครัวในมือของเขากลับกลายเป็นสีดำสนิท และใบหน้าของพ่อกับแม่ก็เริ่มเลือนหายไปจากความทรงจำ! “โลกภายนอก... คือความว่างเปล่า... จงลืมมันซะ... และกลายเป็นส่วนหนึ่งของไตรตัน" เสียงสังเคราะห์นั้นดังก้องอยู่ในโสตประสาทของกวิน ราวกับจะเย้ยหยันความทรงจำของเขา! “ไม่จริง! ไม่จริง!” กวินกรีดร้องสุดเสียง เขาพยายามจะนึกถึงใบหน้าของพ่อกับแม่ แต่ภาพนั้นกลับเลือนหายไปเรื่อยๆ เขาพยายามจะนึกถึงชีวิตของเขาที่กรุงเทพฯ การเรียน และเพื่อนๆ แต่ความทรงจำเหล่านั้นกลับเลือนลางและสับสน ราวกับว่าบางสิ่งกำลังลบเลือนมันออกไปจากสมองของเขา “กวิน! นายเป็นอะไรไป!” อิฐร้องเรียกด้วยความตกใจ เขามองกวินที่กำลังกรีดร้องและตัวสั่นไม่หยุด แต่สิ่งที่เขาเห็นคือดวงตาของกวินที่เริ่มว่างเปล่าและล่องลอย ราวกับว่าเขากำลังสูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญไป พลอยกรีดร้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวในระหว่างนั้น เธอมองกวินที่กำลังทรมาน และเริ่มรู้สึกว่ารอยตราประทับบนมือของเธอร้อนขึ้นมาอีกครั้งอย่างรุนแรง เพื่อนๆ ทุกคนที่ถูกลงโทษไปก่อนหน้านี้ ตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับกวิน ร่างกายของแต่ละคนสั่นเทา เหมือนกับว่าพวกเขาถูกเชื่อมโยงกันด้วยส่วนใดส่วนหนึ่งจากบทลงโทษที่เกิดขึ้น อิฐเดินเข้ามาใกล้กวิน เขามองไปที่อีกฝ่ายนิ่ง แววตาสั่นไหว แม้จะรู้สึกไม่พอใจกับโชคชะตาที่เกิดทั้งกับตัวเองและคนรอบตัว แต่เขาก็ไม่อาจแสดงอาการต่อต้านออกไปได้เลย เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง กวินนอนนิ่ง ตาเหลือก หายรวยริน สภาพผิวกายซีเผือดเหมือนถูกสูบเลือดออกจากร่างกายไปจนหมด เส้นเลือดสีออกม่วงปรากฏให้เห็นบนผิวกายชัดเจน “ฉันขอโทษ” อิฐนั่งลงข้างตัวกวินแล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาเสียใจที่ช่วยเหลือกวินไว้ไม่ได้ ทั้งที่เขาเพิ่งจะเป็นคนพูดไปเองว่าให้เชื่อใจเขา แล้วเขาจะหาทางพาออกไปในแบบที่ยังเป็นปกติ แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่สำเร็จ กวินถูกลงโทษไปเสียแล้ว “การพูดถึงโลกภายนอก... คือการปฏิเสธตัวตนในอควาเรียม” เสียงของเจ้าหน้าที่ที่เคยเฝ้ามองเงียบๆ มาโดยตลอดเอ่ยขึ้น “และมันกำลังลงโทษด้วยการลบเลือนความทรงจำ” อิฐได้ฟังก่อนจะเริ่มสังเกตเห็นว่าดวงตาของกวินเริ่มว่างเปล่าและล่องลอย ราวกับว่าเขากำลังสูญเสียความทรงจำของตัวเองไป “คุณหมายความว่าไง” เขาหันไปถามเจ้าหน้าที่อควาเรียม “เขาได้สูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับโลกภายนอกไปแล้ว และตอนนี้เขาจะถูกจองจำอยู่ในความว่างเปล่าของอควาเรียมเรียบร้อย” อาการของกวินเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เขากรีดร้องอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเธอกระตุกรุนแรง ดวงตาเบิกกว้างและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวกับไร้ชีวิต เขาพึมพำถึงสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก และเรื่องราวที่ไม่มีใครเข้าใจ ราวกับว่าความทรงจำของเขากำลังถูกเขียนขึ้นมาใหม่โดยอควาเรียม! ในที่สุด กวินก็ทรุดตัวลงกับพื้นหมดสติไป เพียงครู่เดียวเขาก็ลืมตาขึ้นมา ดวงตากลับดูล่องลอยและเต็มไปด้วยความสับสน เขาเริ่มหลงลืมเรื่องราวต่างๆ ในโลกภายนอก และพูดถึงสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก เหมือนว่าเขาถูกตัดขาดจากความทรงจำเกี่ยวกับโลกภายนอกไปอย่างสมบูรณ์ “กวิน! เป็นไงบ้าง” อิฐเอ่ยถามพลางเขย่าตัวอีกฝ่าย “นาย... เป็นใคร” “ห้ะ?” “เรารู้จักกันเหรอ” “นี่นาย... จำฉันไม่ได้เหรอ” อิฐถามอย่างไม่เข้าใจ “…” กวินไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับมองอิฐด้วยแววตาที่ว่างเปล่าและเต็มไปด้วยความสับสน “ก็ยังดีกว่าตาย...” อิฐพึมพำ “ถึงแม้ว่าจะสูญเสียความทรงจำไปก็เถอะ” “ผู้ละเมิดกฎจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของความว่างเปล่าของอควาเรียม” เจ้าหน้าที่พูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเงียบไป เสียงสังเคราะห์ของอควาเรียมกลับมาดังก้องขึ้นอีกครั้ง “หนึ่ง... ถูกกลืนกิน สอง... ถูกพราก สาม... ถูกบิดเบือน สี่... ถูกลบเลือน ห้า... ถูกแบ่งแยก หก... ถูกหลอกหลอน เจ็ด... ถูกจองจำในอดีต แปด... ถูกตามล่า เก้า... ถูกจองจำในความจริง สิบ... ถูกลบเลือนความทรงจำ" “ยินดีต้อนรับ สู่การเป็นส่วนหนึ่งของไตรตัน ผู้เฝ้ารอคอยตลอดกาล"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD