คุณมันเลว ep 19
“มันทำอะไรเธอ” ยาคุชิถามขณะที่พาร่างบางมายังอีกห้องห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องสำหรับที่พักของแขก เขาประคองร่างบางไปที่เตียงอย่างเบามือ
หญิงสาวดูบอบบางและน่าทะนุถนอม ไม่เข้าใจว่าทำไมโทคิยะถึงต้องใจร้ายกับเธอขนาดนี้ แม้จะเป็นน้องสาวของใหญ่ก็เถอะ แต่ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง
“เขา..ฮึก” ยาหยีพูดไม่ออก มือเรียวยกขึ้นปิดหน้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอกำลังอ่อนแอ กำลังร้องไห้ ความรู้สึกหลายอย่างถ่าโถมเข้ามาทั้งความคิดถึงพี่ชายอันเป็นที่รัก
“โอเค ฉันรู้ละ” ยาคุชิไม่อยากถามต่อ เพราะแค่นี้หญิงสาวก็อ่อนแอมากพอแล้ว ถึงจะห้ามโทคิยะยังไงเพื่อนของเขาก็คงไม่เลิกทำ “อย่ากลัวเลยฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก”
ยาคุชิมีความเป็นลูกผู้ชายมากพอ ความจริงแล้วเขากับโทคิยะก็มีนิสัยที่ไม่ต่างกันแต่กับผู้หญิงคนนี้กลับรู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก ขอบตาที่บวมเป่งบ่งบอกว่าเธอผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“ขอบคุณที่ไม่ทำอะไรฉันค่ะ” ร่างบางก้มศรีษะให้เพื่อเป็นการขอบคุณ ส่งผลให้อีกคนเห็นรอยช้ำอยู่บนแผ่นหลัง มันช้ำเป็นจ้ำคล้ายกับไปกระแทกอะไรซักอย่างมา
“หลังของเธอ...” ยาคุชิใช่ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม อย่างใช้ความคิด “มันเป็นคนทำใช่ไหม”
“...” ร่างบางพยักหน้าเป็นคำตอบ มันทั้งช้ำและเจ็บจนเธอไม่สามารถนอนได้ ต้องนอนตะแคงทั้งคืน มันเจ็บราวกับกระดูกหัก “คะ..คุณช่วยไปบอกเขาได้ไหมคะ ว่าเลิกทำร้ายกันซักที”
“ฉัน...” ยาคุชิเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากเห็นน้ำตาของอีกคน สายตาอ้อนวอนนั่นมันทำให้เขาต้องกำหมัดแน่น ถึงจะพูดยังไงโทคิยะก็ไม่หยุดทำ เขารู้จักนิสัยของเพื่อนสนิทดี “ฉันจะช่วยเท่าที่ฉันจะทำได้ เพราะฉันรู้ดีว่าไอ้บ้านั่นมันเป็นคนยังไง”
โทคิยะเป็นคนใจร้อน เลือดเย็น และไม่ชอบให้ใครไปออกคำสั่งแม้กระทั่งเพื่อนสนิท
“ฉะ...ฉันคิดถึงพี่ชาย” ร่างบางซบหน้าลงบนฝ่ามือ เสียงสะอื้นดังลั่นห้องบาดใจชายหนุ่มยิ่งนักยิ่งเห็นแบบนี้ยิ่งสงสารเธอ
แต่โทคิยะเคยบอกว่าถ้าเจอใหญ่เมื่อไหร่จะฆ่าทิ้งทันที แล้วจะฆ่าน้องสาวของใหญ่ตามไปด้วย ซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่าโทคิยะพูดจริงทำจริง!
“ขอให้มันไม่เจอพี่ชายของเธอ เพราะถ้าเจอเมื่อไหร่เธอกับพี่ชายก็จะไม่มีชีวิตอยู่บนโลก” ฝ่ามือใหญ่ลูบศรีษะคนตัวเล็กเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ
เธอคงจิตตกทุกวันที่อยู่ที่นี่เพื่อรอวันตาย...
ปึ้ง!
“สรุปมึงไม่เอาใช่ไหม!” โทคิยะเปิดประตูเข้ามาอย่างหัวเสีย เมื่อเห็นเพื่อนสนิทนั่งคุยกับหญิงสาว
ยาหยีเมื่อเห็นโทคิยะเดินเข้ามาขาเรียวรีบวิ่งไปหลบหลังยาคุชิทันที
“...” โทคิยะเดินเข้ามาประจันหน้ากับยาคุชิ ตาคมเหลือบมองคนที่หลบอยู่ข้างหลังยาคุชิ
“ว่าไงมึงจะไม่เอาใช่ไหม”
“กูทำไม่ลง” ยาคุชิปฎิเสธ
“ได้ไงวะปกติกูเห็นมึงเอาตลอด” โทคิยะยิ้มมุมปาก ขณะที่สายตาคมตวัดมองคนตัวเล็กที่อยู่ข้างหลังไม่วางตา จนหญิงสาวเป็นฝ่ายหลบสายตาคมของเขา
“แต่กับคนนี้กูไม่! เลิกทำแบบนี้เถอะ มึงกำลังรังแกผู้หญิงอยู่นะ” ยาคุชิตคอกใส่เพื่อนสนิท แต่อีกฝ่ายยิ้มราวกับไม่ได้รู้สึกอะไร
“โดนผู้หญิงปั่นหัวมาล่ะสิ”
“มึงต่างหากที่กำลังโดนปีศาจเข้าครอบงำ”
“เหอะ! แล้วคนที่มันฆ่าพ่อกูไม่เรียกว่าปีศาจเหมือนกันหรอวะ กูเกลียดพวกที่หักหลังมากที่สุด และถ้าตอนนี้มึงจะหักหลังกูก็เชิญ!” โทคิยะตะคอกกลับ
ยาหยีหลับตาปี๋ เธอไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มือบางกำแขนเสื้อของยาคุชิไว้แน่นจนเหงื่อเปียกชุ่มฝ่ามือ
“กูไม่ได้หักหลังมึงหรอก แต่สิ่งที่มึงทำอยู่มันไม่ถูกต้องเองว่ะ!”
“อย่ามาทำตัวเป็นคนดีหน่อยเลยทั้งๆ ที่มึงก็เคยเหี้ยเหมือนกัน!” โทคิยะเดินอ้อมมาข้างหลังก่อนจะกระชากร่างบางเข้าหาตัว “ถ้ามึงไม่เอา งั้นกูเอาเอง!”
แค๊วกกกก!
“ว้ายยยย!!!” ยาหยีคาดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ มือใหญ่ฉีกเสื้อของเธอจนมันขาดออกจากกันต่อหน้ายาคุชิ ส่งผลให้หน้าอกหน้าใจที่ปิดยังไงก็ไม่มิดโผล่ออกมาให้ชายหนุ่มทั้งสองคนเห็น จนยาคุชิเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี
ร่างบางยกมือปิดหน้าอกทันทีแม้จะปิดยังไงก็ปิดไม่ปิด รอยแดงตามเนื้อตัวของเธออยู่ในสายตาคมของโทคิยะ แม้กระทั่งรอยช้ำที่หลัง แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้สนใจ
“แล้วซักวันมึงจะรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิด!” ยาคุชิทิ้งท้ายก่อนจะเดินปึงปังออกไปจากห้อง ทิ้งให้เธออยู่กับปีศาจร้ายสองคน
“...” ร่างบางตัวร้อนขึ้นมาดื้อๆ ขอบตาร้อนพล่าวเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วงจนมันบวมเป่ง ปากบางพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้ เธอกลัวเขาเหลือเกิน
“เดินไปรอฉันที่เตียง!” เสียงเข้มสั่งทำให้คนตัวเล็กที่ยืมก้มหน้าสะดุ้งโหยง ก่อนที่หน้างามจะเงยขึ้นมองหน้าคมด้วยสายตาตัดพ้อ ตอนนี้เธอป่วยอยู่แต่เขาก็ยังจะทำ
“ฉะ..ฉันป่วยอยู่ ฮึก!” มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ ทำให้เห็นหน้าคมชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อไม่ได้มองผ่านม่านน้ำตา เขามองเธอนิ่งๆ ด้วยสายตาที่แสนเย็นชา
“จะไปดีๆ หรือให้ฉันใช้กำลัง!”
“ฮึก!” ยาหยีรีบวิ่งไปรอเขาที่เตียง เพราะกลัวว่าจะโดนทำร้าย แค่นี้ก็เจ็บมากพอแล้ว...เจ็บจบด้านชาไปหมดทั้งตัว
“ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด!” ร่างสูงสั่งในขณะที่มือใหญ่กำลังแกะกระดุมเสื้ออย่างช้าๆ
สายตาที่พร้อมจะฆ่าเธอให้ตายนั้นมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน มันเหมือนมีเปลวไฟเผาไหม้อยู่ข้างในนั้น
“...” ร่างบางกำหมัดแน่น โกรธที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ปล่อยให้เขาย่ำยีราวกับคนไร้ค่า น้ำตาพรั่งพรูออกจากดวงตางามสุดที่จะกล้ำกลืนไว้ มือบางค่อยๆ ถอดกางเกงและบราเซียออก จนกระทั่งร่างเปลือยเปล่าที่มีแต่ร่องรอยการโดนทำร้ายนั่งรออยู่บนเตียง ปากบางเม้มจนเป็นเส้นตรงปล่อยให้ปากได้สัมผัสความเค็มของหยดน้ำตา
“หึ!” โทคิยะถอดอันเดอร์แวร์ออกจนกระทั้งร่างเปลือยเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่ผ่านการดูแลอย่างดียืนอยู่ข้างๆ เตียง
“อึก” ร่างบางเงยหน้ามองคนตัวสูงทั้งน้ำตา อยู่เฉยๆ ตัวก็ร้อนขึ้นมาดื้อๆ จนแสบร้อนไปทั้งขอบตาทั้งสองข้าง แต่ก็ทนรองรับอารมณ์ดิบเถื่อนของชายหนุ่ม
เป็นครั้งแรกที่ดวงตากลมโตได้มองเรือนกายกำยำของเขาใกล้ๆ เพราะทุกครั้งที่มีอะไรกันเขาไม่เคยเปิดไฟ แต่วันนี้แสงธรรมชาติที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างทำให้เห็นกายของชายหนุ่มอย่างชัดเจน
...รอยสักรูปหมาป่าที่อยู่บนแผงหน้าอกข้างซ้ายนั่น มันโหดร้ายไม่ต่างจากจิตใจของเขา!