ท้องงั้นเหรอ

1214 Words
ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลหรูใจกลางเมืองแห่งหนึ่งมีผู้คนเข้ามาใช้บริการกันมากมายเพราะเป็นช่วงพักเที่ยง หญิงสาวร่างเพรียวระหงในชุดเดรสกระโปรงสีฟ้าดูอ่อนหวานเปิดประตูเข้ามาในนั้น เธอยืนเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนกำลังหาใครสักคน จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียก “ปูน! ทางนี้...” ปูน หรือ ปรียากร หันไปตามเสียงเรียกก็พบกับเพื่อนรักกำลังกวักมือหยอยๆ จึงเดินตรงเข้าไปหาทันที “ขอโทษทีนะจิน รอเรานานหรือเปล่า รถติดมากวันนี้” จิน หรือ จนิตา ส่ายหน้าไปมา “ไม่นานหรอกแก เราทำงานที่นี่อยู่แล้วก็เลยมาไวเป็นธรรมดา” “แล้ววันนี้งานไม่ยุ่งเหรอ เลยมีเวลาให้เราได้” ปรียากรมองคุณหมอสาวด้วยรอยยิ้ม จนิตาทำงานเป็นแพทย์ด้านสูตินรีเวชมานานหลายปี แต่เธอก็เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่มัธยม รวมถึงสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกันแม้จะคนละคณะในขณะที่จนิตาเลือกคณะแพทย์ ปรียากรกลับเลือกเรียนบริหารเพื่อหวังจะช่วยงานธุรกิจของที่บ้าน จนกระทั่งต่างคนต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก มีแต่ส่งข้อความหากันบ้างตามแต่จะสะดวก “ยุ่งสิ ถ้าไม่ใช่แก ฉันคงไม่ออกมารับเอง แล้วนี่ผัวแกไปไหน ทำไมให้แกมาคนเดียวล่ะ” ปรียากรถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อเอ่ยถึงผู้เป็นสามี “เขาติดงานน่ะสิ แกก็รู้ว่าพี่ซีเป็นผู้บริหาร งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาไปไหน กลับก็ดึกทุกวัน” “ยุ่งแค่ไหนก็ไม่ควรปล่อยให้เมียมาตรวจสุขภาพเตรียมความพร้อมก่อนมีลูกคนเดียวไหมยะ” คนถูกเหน็บถอนหายใจอีกเฮือก รู้ดีแก่ใจว่าเพราะอะไรเขาคนนั้นถึงไม่มา หากไม่เห็นแก่ผู้ใหญ่ฝ่ายสามีที่คอยถามไถ่กันนักหนาว่าเมื่อไหร่จะมีหลานให้อุ้มเสียที เธอก็คงไม่ต้องลำบากใจเช่นนี้ ก็เด็กน่ะทำให้เกิดคนเดียวได้ที่ไหนถ้าอีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือ อ้อ! อาจจะได้ในกรณีที่เธอขอรับบริจาคสเปิร์มคนอื่นมา แต่จะต้องยุ่งยากทำเช่นนั้นไปทำไม ในเมื่อเธอมีสามีอยู่แล้วทั้งคน และเธอก็รักเขาสุดหัวใจขนาดนั้น แต่ทว่า... “ปูน แกเป็นอะไรไป ทำไมนิ่งไปล่ะ” “หืม เปล่านี่ ไม่เป็นไร แกกินอิ่มหรือยัง” “อืม อิ่มแล้ว” “งั้นเราไปกันเลยไหม” “อ้าว แล้วแกไม่กินอะไรหน่อยเหรอ” คนถูกถามค้อนใส่ “กินอะไรล่ะ ก็แกบอกเองว่าให้ฉันงดข้าวงดน้ำก่อนตรวจแปดชั่วโมงไม่ใช่เหรอ ลืมแล้วหรือไงยะคุณหมอจิน” “เออ...จริงด้วย ขอโทษๆ ฉันลืมจริงๆ ทำงานหนักจนเบลอแล้วเนี่ย งั้นรอแป๊บนะแก ขอไปจ่ายตังค์ก่อนนะ...เอ๊ะ!” ยังพูดไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็อุทานออกมาเมื่อสายตาหันไปสะดุดเข้ากับใครบางคนที่กำลังลุกขึ้นพอดี “นั่นมัน...สามีแกไม่ใช่เหรอปูน!” คำนั้นทำให้ปรียากรต้องรีบหันขวับไปมองตามทันใด แว่บแรกแอบดีใจที่เห็นเขา แต่ทว่าความดีใจนั้นอยู่ได้ไม่ถึงเสี้ยววินาทีเมื่อได้เห็นคนที่มาด้วย... “แล้วนั่นเขามากับผู้หญิงที่ไหนน่ะ หน้าคุ้นๆ จัง” ราวกับโดนฟ้าผ่ากลางหัว เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่เดินเคียงข้างสามีเธอด้วยรอยยิ้มประหนึ่งเป็นคู่รักหวานชื่น มีจังหวะหนึ่งที่ฝ่ายหญิงเหมือนจะสะดุด แต่ฝ่ายชายก็รีบเข้าประคองทันทีก่อนที่อีกฝ่ายจะล้ม ตั้งแต่แต่งงานกันมาเธอยังไม่เคยเห็นเขามีใบหน้าอ่อนโยนเช่นนั้นกับเมียแต่งอย่างเธอสักครั้ง แค่คิดหัวใจก็เจ็บแปลบขึ้นมา แน่นอนว่าเธอเองย่อมจำได้แม่นว่าคนที่เขากำลังประคับประคองดูแลราวกับไข่ในหินผู้นั้นเป็นใคร “ก็ไหนแกว่าพี่ซีงานยุ่งไง...อ๊ะ! อ้าว! ยัยปูนรอฉันด้วยสิ” จนิตาเอะอะ เมื่อเห็นร่างเพรียวระหงของเพื่อนรักผลุนผลันเดินตามคนทั้งสองที่เพิ่งเดินออกไปจากร้าน จนทำให้คุณหมอสาวต้องรีบจ่ายเงินและวิ่งหน้าตั้งตามเพื่อนไปเพราะเกรงจะเกิดเรื่อง ยามปกติปรียากรคือผู้หญิงอ่อนหวานใจดี แต่อย่าให้องค์ลงจนนางฟ้าต้องกลายร่างเป็นนางมารเชียว ซึ่งในกรณีตรงหน้านี่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ปรียากรรู้สึกราวกับทุกย่างก้าวที่เธอกำลังเดินนั้นปูด้วยพรมหนามแหลมคมคอยทิ่มตำที่หัวใจ ยามที่ได้เห็นคนตรงหน้าทั้งสองสนทนากัน หัวเราะ หรือยิ้มให้กัน มันยิ่งบาดตาบาดใจทำให้เธอร้อนรุ่มในอกจนแทบหายใจไม่ออก เพราะสิ่งเหล่านั้นสามีสุดที่รักไม่เคยทำต่อเธอเลยตั้งแต่แต่งงานกันมา “ยัยปูนรอฉันด้วยสิ” จนิตารีบจ้ำอ้าวมาจนทันเพื่อนที่เดินตามสามีและผู้หญิงคนนั้นไปห่างๆ แต่ไม่คลาดสายตา โดยยังไม่ได้เข้าไปจิกหัวอีกฝ่ายตบด้วยความหึงหวง แต่มันก็ไม่แน่ ที่ยังไม่ได้ทำอาจจะเพียงเพราะอยากรู้ว่าทั้งสองมาทำอะไรที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ แล้วเพียงไม่นานคำตอบก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ปรียากรเม้มริมฝีปากแน่น สะกดกลั้นอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่านในหัวใจเมื่อมองเห็นป้ายชื่อแผนกที่คนทั้งสองเพิ่งเดินหายเข้าไปด้านใน ‘แผนกสูตินรีเวชกรรม’ จนิตาแอบหายใจไม่ทั่วท้อง หันไปมองหน้าเพื่อนรักที่ตอนนี้นิ่งจนน่ากลัว “ปูน...ใจเย็นๆ ก่อนนะแก อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้” คุณหมอสาวเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ ชายหญิงจูงมือกันมาที่แผนกที่เธอทำงานอยู่มันจะมีสักกี่เรื่องกัน “แกรอตรงนี้ก่อนนะอย่าเพิ่งเข้าไป เดี๋ยวฉันเข้าไปถามให้ก่อน จำไว้ว่าใจเย็นๆ ตั้งสติเข้าไว้ อย่าวู่วาม” “อืม...” หญิงสาวนิ่งคิดตาม ก่อนพยักหน้ารับ ตาคู่งามที่ตอนนี้ร้อนผ่าวยังคงมองเข้าไปในศูนย์นั่นทั้งที่ไม่เห็นเงาของคนทั้งสองแล้ว ในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมด เขามาทำอะไรที่นี่ แล้วทำไมถึงมากับผู้หญิงคนนั้น ที่ผ่านมาคนทั้งสองแอบคบกันลับหลังเธอหรือ ยิ่งคิดหัวใจก็ยิ่งยอกแสยง รุ่มร้อนไปหมดทั้งหัวใจ ต่อให้ไม่รักเธอก็ยังไม่รู้สึกเจ็บเท่านี้เลย รอเพียงไม่นาน จนิตาก็เดินหน้าเครียดออกมาหาเพื่อนรัก “พวกเขามาทำอะไรกันจิน บอกฉัน บอกมา...” คนถูกคาดคั้นต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนตัดสินใจเอ่ยออกมา “ฝากครรภ์!” ร่างเพรียวบางถึงกับเข่าอ่อนเกือบทรุดฮวบทันทีที่ได้ยินคำนั้น “ท...ท้องงั้นเหรอ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD