บทที่ 7.1 - เหยียบย่ำศักดิ์ศรี (คนใจร้ายดีแต่รังแก)

1121 Words
ฉันนอนดิ้นกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงมาเป็นชั่วโมงแล้ว หัวสมองเอาแต่คิดเรื่องที่ซีโร่พูด มันรบกวนจิตใจของฉันมากเหลือเกิน เรื่องที่ฉันคิดว่าฉันฝังมันลงไปพร้อมกับอดีต เรื่องที่ฉันเกลียดที่สุดในชีวิต เรื่องที่ฉันไม่ต้องการให้ใครรับรู้ โดยเฉพาะ ‘พ่อกับแม่’ เรื่องรูป มันกำลังย้อนกลับมาทำร้ายฉัน (อีกครั้ง) “เฮ้อ” ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่ฉันเอาแต่ถอนหายใจ มันหลับไม่ลงจริงๆ นะ ไม่ว่าจะพลิกซ้ายพลิกขวาฉันก็เอาแต่เครียดเรื่องรูป จนจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย ทำไมฉันจะต้องมาเจอกับเรื่องราวแย่ๆ แบบนี้ด้วย “เฮ้อ” ฉันถอนหายใจอีกครั้ง “มีอะไรหรือเปล่าไอรีน ทำไมเอาแต่ถอนหายใจ” น้ำใสถามเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักเอาแต่นอนพลิกไปพลิกมาพร้อมกับถอนหายใจไม่ขาดสาย เธออยากจะถามตั้งแต่ตอนทานข้าวแล้ว เพราะเห็นไอรีนทำหน้าไม่สบายใจตลอดเวลา “ที่บริษัทฯ มีอะไรหรือเปล่า เครียดเรื่องอะไรเหรอ” น้ำใสถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องน่าหงุดหงิดใจนิดหน่อยน่ะ เลยเซ็งๆ” ฉันตอบเลี่ยงๆ ขืนบอกความจริงกับน้ำใสว่าฉันเจอซีโร่ มีหวังยัยนี่ต้องเป็นทุกข์มากแน่ๆ ฉันไม่อยากให้เพื่อนต้องมานั่งคิดมากไปกับฉัน มันดูไม่แฟร์กับน้ำใส ยัยนี่ช่วยเหลือฉันมากเหลือเกิน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด ฉันอยากให้น้ำใสมีแต่รอยยิ้มมากกว่านั่งอมทุกข์กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง “มีอะไรก็บอกฉันได้นะ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว รู้ไหม” น้ำใสจ้องตาเพื่อนรัก “อืม รู้แล้ว” ฉันยิ้มตอบ “ดีมาก” น้ำใสพลิกกายมากอดร่างบางของฉัน “รักแกที่สุดเลยไอรีน” เสียงหวานกระซิบเบาๆ “ฉันก็รักแก น้ำใส” สองสาวบอกรักซึ่งกันและกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะหลับใหลไปในที่สุด ณ มหาวิทยาลัย “อาทิตย์หน้าอาจารย์ขอให้นักศึกษาพรีเซ็นต์งานเลยนะคะ ใครพร้อมก็เริ่มคิวแรกได้เลย โอเคนะทุกคน” อาจารย์ประจำวิชาภาษาอังกฤษบอกกับนักศึกษาที่พากันเก็บอุปกรณ์การเรียนเตรียมพร้อมกลับบ้าน หมดคาบเรียนปุ๊บก็รีบปิดหนังสือเรียนลงกระเป๋าทันที เฮ้อ ทั้งๆ ที่บางคนก็ล้มหัวนอนตั้งแต่เริ่มคาบเลยด้วยซ้ำ ฉันไม่เข้าใจทำไมพวกนี้ถึงได้คิดว่าห้องเรียนเป็นห้องนอน ไม่เสียดายเงินที่พ่อแม่ส่งเสียหรือไงกัน ให้อดนอนยังไงฉันก็ไม่เคยนิสัยเสียมาแอบหลับในห้องเรียนนะ “ไอรีนไปกินติมกันไหมวันนี้” น้ำใสถามเพื่อนสาวที่เอาแต่ทำหน้าซึมตลอดทั้งวัน เธอไม่รู้หรอกว่าไอรีนมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ แต่ที่เธอจับสังเกตได้คือ มันจะต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีเอามากๆ แน่นอน ก็ได้แต่หวังว่าอย่าให้เป็นเรื่องนั้นอีกเลย ‘See you tomorrow baby’ คำพูดของซีโร่แวบเข้ามาในโสตประสาท แต่ฉันก็จำต้องส่ายหน้าแล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ไม่ดีกว่า พอดีว่าวันนี้พี่ที่บริษัทฯ เขาเรียกให้ไปพบน่ะ เผื่องานที่ถ่ายเสร็จแล้วมีอะไรต้องแก้” ฉันโกหกคำโต “เสียดายจัง วันนี้อุตสาห์เลิกเรียนครึ่งวัน” น้ำใสทำหน้ามู่ “ขอโทษนะแก เอาไว้ฉันเสร็จงานทุกอย่างแล้วฉันจะโทรฯ หาแกนะ” “โอเค รีบกลับห้องล่ะ เดี๋ยวฉันจะทำกับข้าวรอ” ฉันพยักหน้าก่อนจะรีบเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่ง จ้องมองแผ่นหลังบางอย่างระแวงใจ ฉันเดินเตะฝุ่นไปตามทางเท้าอย่างใจลอย รู้สึกผิดไม่น้อยที่ต้องโกหกเพื่อนอีกแล้ว กี่ครั้งแล้วเนี่ยที่ฉันโกหกน้ำใสเรื่องผู้ชายคนนั้น ลมหายใจถูกระบายออกมาแทนความอัดอั้น ฉันตั้งใจมาขึ้นรถเมล์แทนการนั่งแท็กซี่ เพราะว่าฉันไม่อยากไปถึงบริษัทฯ นรกนั่นในเวลาอันรวดเร็ว ฉันต้องการถ่วงเวลาเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ การที่ต้องไปเผชิญหน้ากับคนใจร้าย มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิด ปี๊น! เอี๊ยด! เสียงล้อรถดังสนั่นหวั่นไหวทั่วท้องถนน รถคันหรูเปิดประทุนปรากฏแก่สายตาของผู้คนที่กำลังยืนรอรถโดยสารสาธารณะอย่างใจจดใจจ่อ ไม่นาน ชายหนุ่มรูปร่างสูงกำยำก็ย่างเท้าลงมาจากรถ ใบหน้าคมคายสวมแว่นตากันแดดสีดำสุดเท่ห์ ส่งผลให้ทุกองค์ประกอบเป็นที่หมายตาต่อผู้พบเห็น ใครจะเชื่อ ว่าหล่อเหลาปานเทพบุตรอย่างเขา จะมีจิตใจที่โหดเหี้ยมเกินมนุษย์มนา! “ขึ้นรถ” คำสั่งสั้นๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากหยักสวย ทันทีที่ชายหนุ่มย่างกรายเข้ามาหาเธอ “ฉันจะไปเอง” ฉันตอบเสียงเรียบ “แต่ฉันบอกให้ขึ้นรถ” ซีโร่กดน้ำเสียงต่ำลงตามอารมณ์ หึ คงกำลังโมโหฉันอยู่สินะ เอาเลย เดือดให้ถึงที่สุด เดือดให้มากๆ เพราะยิ่งถ้านายโกรธมากเท่าไหร่ คนเลวอย่างนายก็ต้องแสดงธาตุแท้ออกมามากเท่านั้น “ไม่จำเป็น” ฉันตอบกลับด้วยรอยยิ้มหยัน ลมหายใจอุ่นร้อนของคนตรงหน้า บ่งบอกได้ดีเหลือเกินว่าตอนนี้เขากำลังอดกลั้นมากแค่ไหน ซีโร่รู้ดีว่าไอรีนต้องการที่จะยั่วประสาทเขา คนอย่างเธอ แค่อ้าปากก็เห็นไปถึงลำไส้! “ฉันจะบอกเป็นครั้งสุดท้าย ขึ้นรถซะ” “ฉันก็จะบอกนายเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน ว่าไม่จำเป็น!” ฉันจ้องใบหน้าหล่อเหลาอย่างเกลียดชัง “เธอลองดีเองนะไอรีน” ซีโร่กัดฟันแน่น และเพียงเสี้ยววินาที “อื้อ!” ซีโร่ลงโทษคนอวดดีด้วยการกระชากหญิงสาวเข้าหาตัวแล้วบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างดุดัน! ฉันพยายามขืนร่างกายเอาไว้สุดฤทธิ์ แต่แรงมดของฉันก็ไม่อาจต้านทานแรงช้างที่กำลังโกรธจนฟาดงวงฟาดงา สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ก็เพียงแต่ทุบตีไปตามอกแกร่งพร้อมกับน้ำตาเจ้ากรรมรินไหลอาบสองแก้ม เสียงพูดคุยกันให้แซดของผู้คนที่อยู่ในรัศมีเหตุการณ์จูบโชว์ของหญิงสาวและชายหนุ่ม ซีโร่มองปฏิกิริยาสิ่งรอบกายด้วยความชอบใจ ต่างจากไอรีน หญิงสาวรู้สึกอับอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD