รอยรักบนรอยแค้น บทที่2.

1554 Words
“ฮ่าๆ หูหมี จมูกมดจริงๆ ขนาดเพิ่งเหยียบเมืองไทยไม่ถึง10ชั่วโมง... คุณยังรู้ความเคลื่อนไหวของผมเลย” นิโคไลหัวเราะดังลั่น หัวไหล่สั่นระริกเพราะแรงกระเพื่อม เมื่อเพื่อนรักทายถูกเผง เหมือนเจ้าตัวมานั่งอยู่ข้างเตียงของเขาเมื่อค่ำคืน “ข่าวมันดังขนาดนั้น ไม่รู้สิแปลก” คีริวเดินกลับมาพร้อมกับเบียร์กระป๋อง เขายื่นหนึ่งกระป๋องให้เพื่อน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งที่เดิม “ขนาดแอบๆ แล้วนะ ขี้เกียจตอบคำถามว่ะ” นิโคไลรู้ตัวดี เขาเป็นจุดสนใจของคนรอบข้าง ขยับตัวเพียงน้อยนิด ก็มีภาพฉาวๆ เด่นหราบนหน้าสื่อสิ่งพิมพ์ หรือไม่ก็ตามโลกออนไลน์ “ทำใจ” ชายหนุ่มเปรย เขายกกระป๋องเบียร์ขึ้นจ่อปาก กรอกน้ำสีเหลืองอ่อนลงไปในอุ้งปาก หลุบเปลือกตาลง เพราะอ่อนเพลียไม่แพ้กัน “มาทำอะไรล่ะครั้งนี้ มาเที่ยวหรือทำงาน” สองหนุ่มสนิทสนมกันเป็นเพื่อนสนิทที่สามารถตายแทนกันได้เลย คีรีวเองก็เป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของวอลคอฟเช่นกัน ดังนั้นการที่เขาปรากฏตัวขึ้นที่ประเทศไทย ไม่ใช่มอสโกบ้านเกิด มันจึงไม่น่าใช่เรื่องปกติ “ตอนแรกก็ว่าจะมาพัก แต่พอมาจริงๆ ดันมีงาน” คีริวบ่น เขาทำหน้าย่น การเป็นบุตรชายคนเดียวใครว่าดี เขาทำงานตัวเป็นเกลียวแทบไม่มีเวลาพัก เพราะมารดาสร้างสมบัติไว้มากมายจนดูแลไม่หวาดไม่ไหว “อ่อ...เห็นอยู่ อย่างว่าล่ะ... ช่วงนี้มันหน้าท่องเที่ยว” นิโคไลพยักหน้าหงึกหงัก กิจการของวอลคอฟคือโรงแรม5ดาวขนาดใหญ่ มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย “ไอ้เราก็กะจะมานอนกกสาวสัก10วัน จะไม่ทำอะไรเลยนอกจากกินกับปี้ แต่...เซ็งว่ะ!!” คีริวกรอกน้ำสีเหลืองอ่อนเข้าปากอีกอึกใหญ่ เขาบ่นพึม เมื่อความฝันพังทลายเพราะดันมีงานด่วนเข้ามา เป็นคำบัญชาของมารดาล้วนๆ ท่านเหมือนนกรู้ว่าบุตรชายกำลังจะทำตัวเหลวไหล “ฮ่าๆ เข้าท่า คงต้องเคลียร์งานอย่างหนัก แล้วหาเวลาทำแบบคุณว่าสักที” นิโคไลหงายหน้าหัวเราะลั่น เป็นความคิดที่สุดติ่งและน่าเก็บเอามาทดลองทำ มันคงจะเมามันสุดขอบโลก หากกิจกรรมที่ว่านั้น มีสาวๆ ทรงโตนอนครางอยู่ใต้ร่างกาย “พอเลยๆ อย่าพูดให้เครียด คืนนี้พาไปปล่อยอารมณ์หน่อย ผมต้องบินเช้า” คีริวโบกไม้ โบกมือ หน้ายับยู่ยี่ เซ็งสุดขีด “ไปกระบี่เหรอ?” สถานที่ตั้งโรงแรมวอลคอฟแกรนด์แอท “อืม...ดันมีงานห่าอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ แม่มไม่ไปก็ไม่ได้มัมโทร.จิกตลอด” ซาเนีย วอลคอฟ เป็นหญิงหม้ายที่แกร่งที่สุดในความรู้สึกของนิโคไล แม่ที่เป็นได้ทั้งพ่อ และแม่ในเวลาเดียวกัน มารดาของเขาพูดให้ฟังตลอด เอมิเรียชื่นชมซาเนียเป็นอย่างมาก เพราะซาเนียเลี้ยงบุตรชายมาเพียงลำพัง ไม่สนใจความช่วยเหลือข้างฝ่ายสามี หลังแยกทางกันเมื่อเธอจับได้ว่าคีรันแอบมีผู้หญิงอีกคน “เอาน่า...งานคุณ คุณไม่ทำแล้วใครจะทำ” นิโคไลจิบเบียร์เย็นๆ ในกระป๋อง เขาเอนตัวพิงพนักโซฟา “ทุกปีผมไม่มาก็ยังจัดกันได้นี่” เขาอาจจะมาผิดจังหวะก็ได้ ทุกทีที่มาเมืองไทย คีริวมักจะหลบหนาวมาหาไออุ่นที่ประเทศเขตร้อน ช่วงคริสต์มาสของทุกปีเขาต้องอยู่ฉลองกับมารดา เพียงแต่ปีนี้ท่านมีกิจกรรมทางธรรมกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน มันจึงทำให้คนติดแม่อย่างคีรินเคว้ง เขานึกถึงนิโคไลเป็นคนแรก เมื่อไม่ได้สังสรรค์กันเกือบปี คีรินจึงบินตรงมาหานิโคไลทันที แต่คำสั่งด่วนของมารดา ก็ต้องทำให้เขาต้องเปลี่ยนแผนการ “น่าสนนะ แป๊บ” นิโคไลยกนิ้วขึ้นเคาะข้างขมับ เขาดันตัวลุกขึ้นยืน เดินไปกดอินเตอร์คอมเรียกใครบางคนเข้ามาด้านใน “เกย์...เข้ามานี่แป๊บสิ” เกย์ เลขานุการกึ่งบอดี้การ์ดส่วนตัว เขามีหน้าที่ดูแลนิโคไล และเป็นผู้ช่วยของเขาด้วย “ครับ” เสียงทุ้มสุภาพตอบกลับมา พร้อมกับเสียงดังกริ้ก!! เมื่อประตูห้องถูกดันให้เปิด “ดูตารางนักช่วงคริสต์มาสให้หน่อยสิ ผมพอมีเวลาว่างมั้ย?” นิโคไลวางกระป๋องเบียร์เปล่าไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าหาการ์ดคนสนิท สองมือล้วงกระเป๋าพร้อมกับการพูดเป็นงานเป็นการ แล็ปท็อปขนาดเท่าสองฝ่ามือถูกยกขึ้นมาเปิดดูข้อมูล หลังสไลด์หน้าจออยู่ชั่วครู่ คำตอบที่ได้ยินทำให้นิโคไลพอยิ้มออก “ว่างตั้งแต่วันที่20ถึงวันที่2 ของปีหน้าเลยครับ ผมเคลียร์วันว่างไว้ให้เจ้านายแล้ว” แม้ไม่มีคำสั่งตรงๆ แต่หน้าที่ของเกย์คือทำให้เจ้านายพอใจ และการพักยาวช่วงสิ้นปีนี่ คือการชาร์ทแบทที่นิโคไลทำมานานปี ดังนั้นต่อให้ไม่เอ่ยปากพูด เกย์ก็พอจะรู้ใจเจ้านาย “เยี่ยม!! โบนัสปีนี้ ผมจัดเต็มให้เลยนะ” ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นตบบ่าลูกน้องหนุ่มแรงๆ “ขอบคุณครับ” เกย์ค้อมตัวลง เขาหมุนตัวเดินออกไปด้านนอกแบบรู้หน้าที่ “ผมว่างแหละ ทีนี้เราจะไปฉลองกันที่โรงแรมของคุณ หลังงานคุณจบลง” คีริวยกหัวแม่โป้งขึ้นชู ไอ้ความรู้สึกห่อเหี่ยวหายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อช่วงเวลาที่เขาคิดว่าเซ็งสุดขีด มีเพื่อนรักเข้ามาเสริม มันคงเป็นความทรงจำดีๆ ที่สุดในโลก เพราะโปรแกรมที่เขาวางไว้คงไม่ถูกโยนทิ้ง “ว่าแต่...ไหนล่ะคู่ควงคุณคีริว?” นิโคไลหมุนมองรอบตัว เขาถามหาคู่ขาของเพื่อนหนุ่ม “ไปหาเอาข้างหน้าดีมั้ย ตื่นเต้นดี...” นัยน์ตาของคีริวเต้นระริก เมื่อโปรแกรมที่วาดไว้ในหัวคือการหาสาวสักคนมาแนบข้าง แต่ไม่ใช่คนคุ้นเคย “เข้าท่า” การออกล่า!! คือเกมที่สุดตื่นเต้น เป็นการไล่ล่าเพื่อชัยชนะ ความรู้สึกเช่นนั้นหายไปจากชีวิตเนิ่นนาน นับตั้งแต่มีชื่อเสียงมีหน้ามีตา “เล่นเกมแมวจับหนูเหรอ ได้เลย...แต่หน้าผมนี่... แค่กระดิกนิ้ว สาวๆ พวกนั้นก็แทบจะกระโจนใส่” นิโคไลบ่น บนสื่อสิ่งพิมพ์มีภาพเขาปรากฏขึ้นทุกวัน แบบนี้เกมล่าแต้ม...คงกร่อยน่าดู เมื่อสาวๆ ที่เขาคิดจะล่า ยอมสยบให้ตั้งแต่สบตา “ปลอมตัวสิ ไม่เห็นจะยาก” เกมสนุกๆ ผุดขึ้นมาในหัว การปลอมตัวแบบพระเอกภาพยนตร์ที่เคยผ่านตา คงช่วยให้การออกล่าครั้งนี้ สนุกจนลืมไม่ลง บทที่2.น้ำใส หาดทรายสวย ธรรมชาติสวยสมค่ำร่ำลือ หาดทรายละเอียดกว้างสุดลูกหูลูกตา...สายลมพัดเอื่อยๆ ระลอกคลื่นซัดสาดเข้าหาหาดกว้างไม่ขาดระยะ พิมพิสากางมือ สูดลมหายใจเอากลิ่นทะเลเข้าปอดแรงๆ รำพันเสียงใส “ฉันอยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากกลับบ้านแล้วล่ะ” “ไม่ได้หรอกยะ หล่อนไม่มีที่พักที่นี่ เพราะหากบ้านหล่อนรวยจริงๆ หล่อนคงไม่ทำงานอยู่ที่เดียวกับฉันหรอก...” อริสลาแย้ง พลางตวัดตาค้อนให้ “ค่าใช้จ่ายแต่ละวัน...ฉันคงได้กินแต่น้ำทะเลต่างข้าว หากอยากอยู่ที่นี่นานๆ” หล่อนบ่นต่อ เสียงกร่อยๆ เฉพาะค่าโรงแรมที่จองได้ในราคาถูก ก็ยังแพงอยู่ดีสำหรับเธอ ดีทว่าสามสาวช่วยกันหารคนละส่วน เงินก้อนใหญ่ที่ต้องจ่าย เลยไม่สูงนัก “เอาของไปเก็บ แล้วลงมาหาแหล่หนุ่มๆ กันดีกว่า” แอนนามองเห็น...หนุ่มต่างชาติหน้าตาดีเดินกันให้ขวักไขว่ ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับคนต่างชาติ เมื่อรายได้ของเขามีมากพอที่จะจ่าย หากเทียบกับค่าครองชีพในประเทศของตนเอง คนต่างชาติส่วนใหญ่จึงนิยมที่จะท่องเที่ยวในโซนเอเชีย ค่าใช้จ่ายของเขาลดลงกว่าครึ่ง... แถมอาหารการกินก็เอร็ดอร่อยถูกปาก จนต้องย้อนกลับมาหลายๆ ครั้ง “เป็นความคิดที่ดี” สองสาวสนับสนุนเสียงลั่น! ทั้งหมดจึงลากกระเป๋าเดินทาง ตรงไปยังล็อบบี้ของโรงแรม...โรงแรมอันดับหนึ่งของกระบี่ วอลคอฟแกร์นแอท...หรูหรา และแพงหูฉี่ โชคดีที่หนึ่งในสามสาว ได้บัตร Gift Voucherมาแบบฟรีๆ คงเป็นช่วงที่โรงแรมดัง กำลังโปรโมทตัวเอง...ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเป็นการตลาดแบบนักลงทุน ลดรายจ่ายค่าที่พัก แต่กลับได้รับรายได้จากส่วนอื่น เมื่อนักท่องเที่ยวหนึ่งคน น่าจะใช้จ่ายได้มากกว่าที่คิดไว้...เมื่อสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ต้องจ่ายแทบทั้งนั้น แม้กระทั่งที่นั่งริมหาด... “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ?” ประชาสัมพันธ์สาวสวยกล่าวทักทายแบบเป็นมิตร “เราจองที่พักไว้...อยากเช็กอินค่ะ” พิมพิสายื่นโทรศัพท์ส่วนตัวให้พนักงานสาวดูอีเมลที่ติดต่อกับทางโรงแรม โดยใช้สิทธิพิเศษ หล่อนค้นหาหมายเลขที่จองไว้ ก่อนจะยิ้มหวาน “คุณพิมพิสา...จองห้องชุด1ห้อง เสริมเตียงเล็ก...วันที่26ถึงวันที่2มกราคมนะคะ” หล่อนแจ้งเสียงใส หลังเสิร์ชหาหมายเลขการจองจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ตนเอง “ค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD