Killing me [EP 9]
@สามวันผ่านไป
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น” กิ่งวารีถามเมื่อเห็นเพื่อนรักอย่างมะนาวทำหน้าอย่างกับแบบโลกเอาไว้
“ฉัน...เออ ทำหน้ายังไงหรอ” คนโดนถามไม่รู้ตัว
“ก็ทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ไง เป็นอะไรรึป่าว มีอะไรก็บอกได้นะ” กิ่งวารีถามด้วยความเป็นห่วง เพราะพักหลังมานี่มะนาวมีอาการเหม่อแปลกๆ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“ปะ...เปล่า ฉันไม่ได้คิดอะไร” มะนาวปฎิเสธทันควัน แต่ก็ไม่สามารถปิดบังพื่อนได้
“รู้อะไรรึเปล่า แกเป็นคนโกหกไม่เก่ง สายตาของแกมันดูง่ายจะตาย” กิ่งวารีจิ้มไปที่หน้าผากของมะนาวเบาๆ “ถ้ายังไม่พร้อมพูดตอนนี้ก็ไม่เป็นไร”
“ไว้ฉันพร้อมเมื่อไหร่จะพูดให้ฟังนะ” ตอนนี้เธอยังไม่กล้าบอกใคร ไว้เรื่องมันแดงขึ้นมาค่อยรอบอกพร้อมกันทีเดียว
“ยัยนาวดูไรนี่!” เจด้าที่นั่งเงียบจู่ๆ ก็มาสะกิดที่สีข้างเธอเบาๆ พร้อมกับยื่นมือถือมาให้ดู
“อะไรหรอ” มะนาวหยิบมือถือเครื่องบางขึ้นมาดู กิ่งวารีก็เขยิบเข้ามาดูใกล้ๆ เช่นกัน “นะ...นี่มัน”
‘กินนมก่อนนอน’
(แนปรูป)
“คนฮือฮากันทั้งมหาลัยแล้วย่ะ อาจารย์มาร์คแอบไปกินตับกับสาว แถมยังโพสรูปนมลงในไอจีส่วนตัวขนาดนี้ ข่าวเปลี่ยนเลยไหมล่ะ”
“...” มะนาวหน้าซีด เพราะรูปที่เขาโพสลงคือนมของเธอเอง ที่เขาถ่ายไปเมื่อสามวันก่อน
“ยัยนาว ทำไมหน้าซีด หรือเสียใจที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แก” เจด้าแซะ
“เปล่าซักหน่อย ฉันแค่แปลกใจร้อยวันพันปีอาจารย์ไม่เคยอัพรูปผู้หญิงลงในไอจี”
“ว้ายยชะนี...แสดงว่าแกก็แอบส่องเหมือนกันล่ะสิ” เจด้ายกมือป้องปาก “สงสัยอยากแก้ข่าวเลยแอบไปซื้อสาวมากินตับ”
“...” คนฟังถึงกับหน้าซีด ถ้าเกิดคนอื่นรูปว่ารูปนั้นคือเธอ มีหวังได้เอาปิ๊บคลุมหัวแน่
“แต่ฉันว่าไหล่แบบนี้คุ้นๆ นะ...” เจด้าทำท่าครุ่นคิด ก่อนที่มะนาวจะแย่งมือถือมาแล้วกดปิดเครื่อง “เอ้า...ทำอะไรของแก”
“เราต้องไม่เสือกเรื่องของชาวบ้าน” มะนาวบ่ายเบี่ยง
“พูดอย่างกะแกไม่เสือกแหนะ ได้ข่าวว่าแอบตามเขาไปถึงคอนโด ชะนีอะไรจะแรงขนาดนี้” เจด้ายกมือป้องปากหัวเราะคิดคัก
“ก็นั่นมันตอนนั้น แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”
เพราะเธอจะไม่ยุ่งกับเขาแล้ว หลังจากวันนั้น...วันที่เขาได้ครอบครองเธอ ผ่านไปสามวันเขาก็ไม่ได้มาหาเธออีกเลย เวลาเรียนก็ไม่มองหน้าเธอ ทำเหมือนกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น และกลับกลายเป็นเธอเองที่ละอายแล้วหลบหน้าเขา
ตอนแรกก็ดีใจที่เขาไม่ได้ตามมาวุ่นวาย แต่ในใจลึกๆ ทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บ...เจ็บที่เขาไม่ใยดีและไม่เห็นค่าเธอเลย
@บริษัท JCM กรุ๊ป
“มาร์คตอบแม่มาซิ ว่าในรูปนี้คืออะไร” คุณหญิงมุกดาโยนไอแพดลงบนโต๊ะทำงานของลูกชาย ที่กำลังนั่งเซ็นต์เอกสารอยู่ จนคนที่นั่งอยู่ถึงกับสะดุ้ง
เขามีสอนหนังสือที่มหาลัยแค่ 3 วัน ส่วนวันที่ว่างก็จะเข้ามาทำงานที่บริษัท
“ก็...แก้ข่าวไงครับ” คนนั่งเซนต์เอกสารตอบหน้าตาเฉย ต่างกับคนเป็นแม่ที่กำลังมองด้วยความไม่สบอารมณ์
“แม่รู้ว่ามาร์คอยากแก้ข่าว แต่ไม่ควรทำแบบนี้ ลบออกเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“ผมไม่ลบครับ” ร่างสูงละความสนใจจากหน้าจอไอแพดแล้วนั่งเซ็นต์เอกสารต่อ
“แล้วไปลงแบบนี้หนูพาขวัญจะคิดยังไง ทำอะไรเกรงใจหน้าคุณหญิงไหมมณีด้วย” คนเป็นแม่เอื่อมระอา เพราะคุณหญิงไหมมณีเป็นเพื่อนสนิทของเธอ และเคยสัญญาไว้ว่าถ้าเกิดมีลูกชายกับลูกสาวจะจับทั้งสองเกี่ยวดองกัน
“ผมกับพาขวัญเป็นเพื่อนกันครับ แล้วอีกอย่างผมไม่ได้ชอบพาขวัญ ทำไมผมต้องแคร์ด้วย” ร่างสูงพูดไม่แยแส เพราะเขาคิดกับพาขวัญเป็นแค่เพื่อนจริงๆ
“แต่คุณไหมมณียังมีประโยชน์กับเรานะ ถ้าเกิดโดนถอนหุ้นขึ้นมาจะทำยังไง บริษัทจะไม่เจ๊งหรอ” คนเป็นแม่ถอนหายใจ
“แม่คบเพื่อนเพื่อหวังผลประโยชน์หรอครับ และแม่กำลังใช้หน้าตาของผมหากินอยู่นะครับ” คนเป็นลูกเริ่มไม่พอใจ มือหนาจึงวางเอกสารที่เซ็นต์
“ที่แม่ทำก็เพื่อบริษัททั้งนั้น อย่างแกจะไปรู้อะไร วันๆ มัวแต่หมกตัวอยู่ในมหาลัย กว่าจะเข้าบริษัทได้”
“คุณแม่ครับ ผมเป็นอาจารย์นะครับผมก็ต้องกลับหลังนักศึกษาอยู่แล้ว แล้วที่บริษัทเราก็มีอาตรีภพดูแลอยู่ทุกวัน”
“ฉันเบื่อที่จะพูดกับแกทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ” คุณหญิงมุกดาพ่นลมหายใจ ก่อนจะเดินกระแทกเท้าออกห้องแต่ก็ไม่วายหันกลับมาพูดกับลูกชาย “แล้วอย่าไปเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาให้แม่เห็นเด็ดขาด ไม่งั้นเจอดีแน่!”
“เฮ้อ!” ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะเอนตัวเอาหัวพิงเก้าอี้ มือหนายกขึ้นมานวดที่ขมับ
แม่ของเขาจับเขาและพาขวัญเกี่ยวดองกัน เพราะคุณหญิงไหมมณีแม่ของพาขวัญ มีธุระกิจที่เอื้อต่อ JCM กรุ๊ป และพาขวัญยังมีหน้ามีตาในแวดวงธุระกิจ ทำให้แม่ของเขาอยากได้เธอเป็นลูกสะไภ้
ฟิ้วว~
ร่างสูงหยิบบุหรีีขึ้นไปสูบที่หน้าต่างเพื่อระบายความเครียด แต่ทำไมจู่ๆ ถึงมีแต่ใบหน้าของผู้หญิงอีกคนลอยมา ผู้หญิงที่เขาถ่ายรูปหน้าอกแล้วโพสในลงไอจี
สามวันแล้วที่ไม่ได้คุยกัน ถึงจะเจอเธอที่มหาลัย แต่ก็เหมือนกับว่าเธอกำลังหลบหน้าเขาอยู่
ร่างสูงหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะต่อสายหาใครบางคนและไม่นานก็มีคนรับ
(ฮัลโหล นี่เบอร์ใครคะ) เจ้าของเสียงหวานจากปลายสายแปลกใจที่จู่ๆ มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา
“...”
(เออ...ใครคะ ถ้าไม่พูดฉันจะวางนะคะ)
“ฉันเอง”
(คุณมาร์ค!) ปลายสายตกใจเล็กน้อย (คุณมีเบอร์หนูได้ยังไงคะ)
“ไม่มีอะไรที่ฉันอยากได้แล้วไม่ได้”
(เออ...ละ...แล้วคุณโทรมาทำไมคะ)
“อยู่ไหน”
(ตอนนี้หนูกำลังจะไปทำงานพาร์ททามค่ะ)
“ทำที่ไหน”
(ร้าน Beat cafe ค่ะ)
“เลิกงานกี่โมง”
(ประมาณสามทุ่มค่ะ)
“ดี งั้นเจอกัน”
(จะ...เจอทำไมคะ) ปลายสายน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ฉันมีเรื่องจะคุยกันเธอ”
(คุยตอนนี้ก็ได้ค่ะ)
“ฉันไม่สะดวก เอาเป็นว่าสามทุ่มฉันจะไปรับ”
ติ๊ด!
เขาไม่รอให้ปลายสายแย้ง จึงจัดการกดตัดสายทันที เขาไม่ได้สนใจหรือพิศวาสอะไรได้ตัวเธอ แต่ทำไมสามวันมานี้ทำอะไรก็ทีแต่หน้าหวานๆ ของเธอแทรกเข้ามา
“ผู้หญิงอะไร เตี้ยก็เตี้ยอย่างกะหมากระเป๋า แถมยังปัญญาอ่อนอีก”