เสียงคำรามราวสิงโตดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะทิ้งตัวนอนลงเพื่อปรับลมหายใจเข้าออกให้เป็นปกติ ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัว โดยเฉพาะใบหน้าหวานใสของใครคนหนึ่ง
“แม่งเอ๊ย!” ชายหนุ่มหงุดหงิดตัวเองที่เอาแต่คิดถึงผู้หญิงคนนั้น ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นจากเตียงกว้าง เดินไปหยิบบุหรี่ยี่ห้อดีขึ้นมาจุดสูบพิงร่างกับผนังห้อง พ่นควันขาวขุ่นลอยคละคลุ้ง สายตาจดจ้องมองไปยังร่างของหญิงสาวทั้งสองที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงนอน ขนาดข้างกายเขามีผู้หญิงถึงสองคนด้วยกัน เซ็กซี่อีกต่างหาก แต่ก็ไม่อาจทำให้เขาลืมเธอคนนั้นได้เลย
“หึ เธอมันมีอะไรดีวะ เปียโน”
รอยยิ้มเหยียดหยันนึกสมเพชในตัวเอง
[ DEVIL GANG : PART ]
“โห นี่มึงควบสองเลยเหรอวะ” ฟาโรถามแบบไม่อยากจะเชื่อในสายตา สภาพของผู้หญิงสองคนที่เพิ่งเดินออกจากห้องไปนั้นดูท่าทางอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอนมาเป็นแรมปี!
“กูแค่เซ็งๆ” อชิพูดพลางกับกระดกเหล้าดีกรีแรงเข้าปาก
“มึงเซ็งเรื่องอะไรวะ” ฟาโรถามต่อ
“จะมีเรื่องอะไร นอกจาก…” ยูกิยังพูดไม่ทันจบ
“มึงหุบปาก! กูไม่อยากได้ยินชื่อผู้หญิงคนนั้น” อชิมองตาขวางใส่เพื่อนรัก น้ำเสียงเข้มดุดันขึ้นมาทันที
“มึงอย่าทำตัวเป็นไอ้หมาขี้แพ้ได้ไหมวะ”
ยูกิพ่นลมหายใจ ก่อนจะพูดต่อ
“มึงรักเขามึงก็สู้สิวะ มึงจะมาเที่ยวประชดมีเซ็กส์กับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแบบนี้ไปเพื่ออะไร น้องเขาก็ไม่ได้มารับรู้กับมึงด้วยหรอกนะ ในสิ่งที่มึงทำน่ะ”
“เออ กูเห็นด้วยกับไอ้ยูนะ กูว่างานนี้มึงควรจะหาทางออกที่มันดีกว่านี้ปะ” ซีโร่ผสมโรงไปกับยูกิ
“มึงมันสมหวังแล้วนิ มึงก็พูดได้นี่หว่า ลองให้ไอรีนไปรักผู้ชายคนอื่นดูไหมล่ะ มึงจะพูดแบบนี้ไหม?!” คนพาลเหยียดยิ้ม
“อ้าว ไอ้เวรนี่ กูเตือนมึงดีๆ นะ” ซีโร่เองก็เริ่มโมโห
ไอ้เพื่อนปากสุนัข กล้าดียังไงมายกตัวอย่างถึงคนรักของเขาแบบนั้น ไอรีนรักเขาและเขาก็รักไอรีน ไม่มีวันที่เธอจะทรยศเขา
แต่ถ้ามี… ไอ้ผู้ชายคนนั้นก็จะเหลือแต่ชื่อ!
“พอๆ พวกมึงจะกัดกันเองทำไมวะ” ยูกิรีบห้ามทัพ
“หึ” อชิกระดกเหล้าเข้าปาก
“พวกกูเห็นมึงเงียบหายไปหลายวันก็เลยเป็นห่วง แต่ว่าถ้าลองมีแรงเล่นสนุกกับผู้หญิงได้ถึงสองคนแบบนี้ พวกกูก็หายห่วง”
ฟาโร่พูดเสียงราบเรียบ สายตาจับจ้องไปที่เตียงนอนที่มีสภาพยับยู่ยี่แล้วนึกกลัวในความบ้าดีเดือดของเพื่อนรัก เห็นมันเงียบๆ มันฟาดเรียบนะครับ
“ส่วนมึงจะทำอะไรก็รีบๆ ทำ” ยูกิปรายตามองอชิ
“มึงจะให้กูทำอะไร”
“แล้วมึงไม่อยากได้เธอเหรอ” ยูกิถามกลับ
“ต่อให้กูอยากได้แต่เขาไม่เอา แล้วกูจะไปทำอะไรได้!” อชิเสียงดัง เจ็บแปลบที่ใจทุกครั้งเมื่อต้องรับรู้ว่าตนไม่ได้ถูกเลือก
“มึงอยากได้มึงก็ปล้ำ ก็แค่นั้น” ซีโร่ยักไหล่
ทุกสายตาจับจ้องไปที่คนพูด คนถูกมองถึงกับขมวดคิ้ว
“ทำไมวะ? มองหน้ากูแบบนั้นหมายความว่าไง?”
“มึงแม่งโครตเลวเลย” ฟาโรส่ายหน้า
“ตรงไหน” คนถูกด่าไม่เข้าใจ
“ก็ตรงที่มึงแนะนำให้ไอ้อชิมันปล้ำน้องเขาเนี่ยแหละ”
ยูกิตอบแทนฟาโร
“ก็ใช่ไง ในเมื่ออยากได้มันก็ต้องครอบครองไม่ใช่เหรอวะ? ถ้ามึงเอาแต่ทำตัวเป็นไอ้เ*******ูแอบรักเขาไปวันๆ มึงก็จะไม่ได้อะไรเลย นอกจากนอนมองหมาตัวอื่นมันคาบไปแดก” ประโยคหลังซีโร่หันไปพูดกับคนที่เอาแต่ดื่มเหล้าอยู่บนโซฟา
อชิทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“มึงอย่าบอกนะว่ามึงกำลังคล้อยตามไอ้ซีมัน” ยูกิดักความคิดเพื่อน
“เปล่า…” คนถูกหมายหัวรีบปฎิเสธ “พวกมึงกลับไปได้แหละ กูอยากอยู่คนเดียว”
“เคๆ มีไรก็โทรมาแล้วกัน” ฟาโรชูมือถือขึ้นมาตรงหน้า “กูว่างรับสายตลอด” เพื่อนรักทั้งสามออกไปจากห้องแล้วทิ้งไว้แต่เพียงร่างสูงให้นั่งคิดอะไรอยู่ตามลำพัง อชิหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ พ่นควันสีขาวขุ่นให้ลอยคละคลุ้งอยู่ตรงหน้า ดวงตาคมกล้าทอประกายพร้อมกับรอยยิ้มเหยียด
“ใช่สิ ฉันเจอเธอก่อน รักเธอก่อน แล้วทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายยอม!” มือหนาบีบแก้วเหล้าแตกคามือ
[ DEVIL GANG : PART ]
1 ปีที่แล้ว
[ บันทึกพิเศษ : อชิ ]
ผมบิดขี้เกียจเพื่อขับไล่ความเหนื่อยล้าออกจากตัว หลังจากที่เมื่อคืนปาร์ตี้ริมสระน้ำกับไอ้พวกกรุ๊ปเพื่อนตัวแสบหนักไปหน่อย ร่างหนาลุกขึ้นจากเตียงกว้างเดินไปที่หน้ากระจก ทอดมองใบหน้าของตัวเองผ่านแสงสะท้อน
“หนักไปหน่อยแฮะ” ผมลูบใบหน้าตัวเองอย่างสำรวจ ใต้ตาอันหมองคล้ำที่ปรากฏนั้นเป็นสิ่งที่น่ารำคาญนัก
ผมคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับความง่วงไม่น้อย สายน้ำเย็นฉ่ำที่ไหลจากฝักบัวลงสู่ร่างกายช่วยขับไล่ความเหนื่อยล้าที่มันเกาะกุม ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงผมก็ชำระล้างกายจนหมดสิ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ จากสบู่ลอยเข้ามาเตะปลายจมูก
ผมเลือกใส่เสื้อเชิตสีดำปลดกระดุมเม็ดบนออกไปสามเม็ด โชว์แผงอกกำยำตามแบบฉบับของผู้ชายที่ดูแลสุขภาพ ผมไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองหุ่นดีนะ แต่ก็ไม่ปฎิเสธว่าใครๆ ก็หลงใหลไปกับรูปร่างของผม มือหนาทาครีมบำรุงต่างๆ ลงบนใบหน้าอย่างลวกๆ ฉีดน้ำหอมตามจุดสำคัญบนร่างกาย ก่อนจะคว้าเอากุญแจรถแล้วเดินออกจากห้องไป ทุกท่วงท่าของชายหนุ่มถูกจับจ้องไปด้วยสายตาของบรรดาสาวๆ
ณ ร้านขายเครื่องดนตรี @ Like Music
“ไงไอ้น้องชาย กว่าจะเสด็จมาได้”
เมื่อร่างสูงเดินเข้ามาภายในร้านที่เต็มไปด้วยเครื่องดนตรีนานาชนิด เจ้าของร้านที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ก็อดไม่ได้ที่จะทักทายแบบกวนโอ๊ยตามประสา
“ผมดื่มหนักไปหน่อยฮะ” ผมตอบเสียงเรียบ พลางกับทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “แล้วนี่พี่เรียกผมมาทำไมฮะ”
ผมถามคนตรงหน้า พี่ซัน เจ้าของร้านคนนี้ไม่ใช่ญาติพี่น้องของผมโดยสายเลือดแต่อย่างใด แต่ว่าผมกับพี่เขานับถือกันเป็นพี่เป็นน้องมาเนิ่นนาน ความผูกพันที่มีต่อกันเลยทำให้เราสองคนซี้กันไปโดยไม่รู้ตัว
“คืองี้นะ พี่จะไปฮันนีมูนกับแก้วที่ปารีสสามเดือน เลยอยากจะวานแกมาช่วยเฝ้าร้านให้พี่หน่อยช่วงเนี้ย” ซันเอ่ย
“โอ๊ยพี่ ตั้งสามเดือน นานไปป่าว แล้วให้ผมมานั่งเฝ้าร้านให้เนี่ยนะ พอดีอะ ผมไม่ต้องทำอะไรพอดี” ผมว่าอย่างเซ็งๆ
ไม่ใช่ไม่อยากช่วยนะ แต่ผมเองก็มีงานมีการที่ต้องทำเหมือนกัน